Nares ไทย ขอนแก่น There was a river called the river of no return
รูปประกอบที่ 1 กลุ่มหินโคราช ประกอบด้วยหินทราย เม็ดปานกลาง สีน้ำตาลแกมแดง ชั้นหนาถึงบาง สลับกับหินโคลนสีม่วงแกมแดง ชั้นบาง
Sometimes it's peaceful and sometimes wild and free
ที่คลองขุดเพื่อผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ เพื่อช่วยการเพาะปลูก ในพื้นที่ตำบลนาหว้า อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น พบหินของหมวดหินน้ำพอง กลุ่มหินโคราช ประกอบด้วยหินทราย เม็ดปานกลาง สีน้ำตาลแกมแดง ชั้นหนาถึงบาง สลับกับหินโคลนสีม่วงแกมแดง ชั้นบาง (รูปประกอบที่ 1)
ในภาพที่โพสต์มากับบทความนี้ คนทั่วๆไป คงบอกได้แต่ว่าเป็นภาพถ่ายแสดงชั้นหิน แต่กับนักธรณีวิทยาแล้ว พวกเขาจะมองสิ่งที่เห็นเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนกับอ่านนวนิยาเรื่องสั้นเลยเชียว โดยที่อันดับแรกเขาจะแยกแยะหินออกเป็นชั้นๆ และกำหนดชื่อกำกับ เช่น A, B, C, … เรียงลำดับจากล่างขึ้นบน (จากแก่มาอ่อน) จากนั้นเขาจะสวมวิญญาณสารวัตรธรณีวิทยา พิจารณาประจักษ์พยานที่เห็นทั้งหมด แล้วเล่าความเป็นของคดีโลกที่เกิดขึ้นที่นี่ อาทิ
เมื่อร้อยกว่าล้านปีมาแล้ว ตะกอนที่เกิดจากแม่น้ำโค้งตวัดได้ตกสะสมตัวในแนวราบ เกิดเป็นชั้นตะกอนทรายใต้ท้องน้ำ A และตะกอนในที่ราบลุ่มน้ำท่วม B หลังจากนั้นแม่น้ำสายเดียวกันแต่มีมวลน้ำมากขึ้น ได้ไหลผ่านและกัดตะกอน B กับ A ลงไป จนมองเห็นคล้ายกับมีการวางตัวไม่ต่อเนื่องเชิงมุม (angular unconformity) ตะกอนทรายใต้ท้องน้ำ C (ชั้นที่มีเส้นประกำกับทั้งบนและล่าง) นี้ มีลักษณะโครงสร้างภายในชั้นหินที่แสดงว่า ในช่วงแรกนั้นกระแสน้ำจะไหลด้วยความเร็วมากหรือน้อยอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เกิดการวางตัวสลับและขนานกันของทรายเม็ดละเอียดและ หยาบ เกิดสิ่งที่นักธรณีวิทยาเรียกว่าชั้นบาง (lamination) แต่พอถึงตอนปลาย กระแสน้ำรุนแรงมากขึ้น ทรายที่อยู่ใต้น้ำถูกบังคับให้มีการเคลื่อนตัวไปปลายน้ำ ทำให้เกิดการวาวตัวของเม็ดทรายเป็นแนวเฉียง เอียงเทลงไปทางปลายน้ำ เกิดสิ่งที่นักธรณีวิทยาเรียกว่า ”ชั้นเฉียงระดับ“ (cross bedding) จากนั้นก็มีตะกอนที่เกิดทั้งใต้ท้องแม่น้ำ กับที่ราบลุ่มน้ำท่วมสลับกันวางทับอยู่ข้างบน การวางตัวของชั้นเฉียงระดับเหล่านี้ บอกให้เราทราบว่า แม่น้ำ C ณ บริเวณนี้ ไหลไปทางทิศตะวันออก
ถึงแม้ว่าเราจะไม่พบเห็นลำดับชั้นหินทั้งหมดในบริเวณนี้ แต่เราก็สามารถเล่านิยายต่อได้ว่า บริเวณนี้ได้เกิดการจมตัวและมีตะกอนทับถมกันตลอดมา จนภายหลังกลายเป็นชั้นหินของกลุ่มหินโคราช จนกระทั่งเกิดการชนกันของเปลือกทวีปอินเดียกับยูเรเซีย เกิดเทือกเขาหิมาลัย และทำให้กลุ่มหินโคราชในบริเวณนี้โก่งงอ กลายเป็นโครงสร้างชั้นหินรูปประทุนคว่ำ และประทุนหงายภูเวียง (รูปประกอบที่ 2)
ด้วยเหตุที่แม่น้ำที่ก่อให้เกิดหินตะกอนของหมวดหินน้ำพองที่นี่เป็นแม่น้ำโค้งตวัด การที่หินทราย C แสดงทิศทางการไหลของแม่น้ำไปทางทิศตะวันออกนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด เพราะแม่น้ำโค้งตวัดนั้นจะมีทิศทางการไหลโค้งไปโค้งมา ทิศทางที่วัดได้จึงจะเป็นเฉพาะชั้นหินนี้ ณ ที่นี้ เพราะเราอาจบังเอิญพบเจอชั้นทรายตอนที่แม่น้ำไหลย้อนกลับก็เป็นได้ (รูปประกอบที่ 3) และอีกหนึ่งข้อเท็จจริงก็คือ ในช่วงการตกตะกอนของหมวดหินน้ำพองนั้น แอ่งสะสมตะกอนยังเป็นการตกจมในแอ่งเล็กแอ่งน้อย ต้นกำเนิดของตะกอนจัมาจากทิศไหนก็เป็นได้ทั้งนั้น เพราะว่สจนกว้สตะกอนของหมวเกินภูกระดึงสะสมตัว แอ่งจะกว้างใหญ่เป็นแอ่งสะสมตะกอนโคราชที่แท้จริง ที่แม่น้ำทั้งหมดไหลมาจากทิศตะวันออก - ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
เรื่องราวก็เป็นจั่งสี้ครับ ท่านสารวัตร
-------------------------------------------------
ที่มา
- https://www.facebook.com/nares.sattayarak
รวบรวมข้อมูลและภาพ
-------------------------------------------------
บทความ ดร. นเรศ สัตยารักษ์ (Nares Sattayarak)
รวมบทความที่น่าสนใจจากนักธรณีวิทยาของไทย
-------------------------------------------------
รูปประกอบที่ 2 แผนที่แสดงขอบเขต และแผนที่ธรณีวิทยาของอุทยานธรณีขอนแก่น
รูปประกอบที่ 3 ภาพถ่ายมุมสูงแม่น้ำโค้งตวัด แสดงทิศทางหลักการไหลของแม่น้ำ(ลูกศรใหญ่) และช่วงที่แม่น้ำไหลโค้งย้อนกลับ (ลูกศรเล็ก)