iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป
มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา

Nares จีน ตะลุยเส้นทางสายไหมกับสมาคมธรณีวิทยาแห่งประเทศไทย 4 (มุดถ้ำหม้อเก่า)

 

รูปที่ 1 ภาพถ่ายของผาเขาฉีเลียน ที่ถกกัดเซาะโดยแม่น้ำตาชวน กลายเป็นผาตั้งชันในแนวดิ่ง

 

ประมาณ 25 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองตุนหวง มลฑลกานซู่ สาธารณรัฐประชาชนจีน เมืองที่ในอดีตเคยเป็นหนึ่งในจุดค้าขายและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่สำคัญในเส้นทางสายไหม ณ บริเวณที่เป็นถ้ำหม้อเก่า (Mogao Grottoes) ซึ่งก็คือชื่อที่เรียก หน้าผาของเทือกเขาหมิงซาน (รูปที่ 1) ซึ่งผาหินแห่งนี้ ถูกเจาะเป็นถ้ำ จำนวนทั้งสิ้นถึง 492 ถ้ำ ภายในถ้ำงดงามด้วยพุทธศิลป์จีนทั้งพระพุทธรูป และจิตรกรรมฝาผนัง ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี (รูปที่ 2) ปัจจุบันได้รับการลงทะเบียนให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 11 เมื่อปี พ.ศ. 2530

ถ้ำหม้อเก่าในสายตานักธรณีฯ

ถ้ำหม้อเก่า (DunHuang Mogao Grottoes) คือถ้ำที่มนุษย์โบราณเจาะทะลุหน้าผาหินเข้าไปข้างใน หน้าผานี้ ตั้งอยู่ด้านใต้ของเทือกเขาหมิงชา (Mingsha Mountain) ถ้ำทั้งหมดอยู่เรียงรายกันยาวตามแนวทิศเหนือ-ใต้ประมาณ 1,600 เมตร และมีด้วยกัน 5 ชั้น

ถ้ำหม้อเก่าตั้งอยู่บริเวณตอนต้นของเนินตะกอนน้ำพารูปพัดตาชวน (Daquan River Alluvial Fan) มีภูเขาหมิงชาปิดอยู่ด้านตะวันตก และเขาซันเว่ยอยู่ทางด้านตะวันออก และทะเลทรายโกบีอยู่ทางด้านเหนือ (รูปที่ 3, 4, 5) มีรอยเลื่อนหลายตัวอยู่ใกล้ๆ ตัวถ้ำ หินที่พบในหน้าผานี้ แบ่งออกได้เป็น 3 ชุด จากแก่ไปอ่อนดังต่อไปนี้ ล่างสุด คือ Yumen group, Q1 อายุไพลส์โตซีนตอนล่าง ถัดขึ้นไปคือ Jiuquan group, Q2 อายุไพลส์โตซีนตอนกลาง บนสุดคือ Gobi group Q3) อายุไพลส์โตซีนตอนบน ยิ่งไปกว่านั้น ในแง่ของวิศวกรรมธรณี ชั้นหินเหล่านี้ ยังแบ่งย่อยได้อีกเป็น 4 ชุด คือ A, B, C, D จากบนลงล่าง (รูปที่ 6) ซึ่งแต่ละชุดมีรายละเอียดดังนี้

ชุด A ประกอบด้วยหินกรวดมนชั้นหนา สลับกับหินกรวดมนชั้นบาง ชุดนี้มีความหนา 6.8 เมตร ส่วนประกอบเป็นกรวด 81% ทราย 16% และทรายแป้งกับโคลน 3% มีปูนเป็นน้ำยาประสาน

ชุด B ประกอบด้วยหินทรายชั้นบาง หนารวม 2 เมตร เม็ดขนาดกรวด 16% ทราย 79% และทรายแป้งกับโคลน 5% มักแสดงลักษณะรูปเลนส์ให้เห็น

ชุด C ประกอบด้วยหินกรวดมนเม็ดเล็กชั้นหนา สลับกับหินกรวดมนชั้นบาง ชุดนี้มีความหนารวม 14.5 เมตร เม็ดขนาด กรวด 76% ทราย 22% และทรายแป้งกับโคลน 2% น้ำยาประสานเป็นปูน

ชุด D ประกอบด้วยหินกรวดมนเม็ดเล็กชั้นหนา สลับกับหินกรวดมนเม็ดขนาดปานกลาง หนารวมทั้งหมด 6 เมตร มีเม็ตะกอนขนาด กรวด 55% ทราย 40% และทรายแป้งกับโคลน 5% น้ำยาประสานมีทั้งซิลิกาและปูน

เผยโฉมหน้าตัวก่อการร้าย

นอกจากเหตุผลที่ว่าหินที่ประกอบเป็นหน้าผาแห่งนี้เป็นหินที่มีอายุน้อยมาก การประสานตัวหรือการกลายเป็นหินยังมีไม่มาก จึงถูกกัดเซาะ และผุพังโดยง่าย นอกจากนี้ ตัวการที่ทำให้หน้าผาและถ้ำที่นี้มีเสถียรภาพต่ำ ก็คือ รอยแตก (fissure) Zhang et al, 2009 แบ่งรอยแตกเหล่านี้ออกเป็น 3 พวก ได้แก่

รอยแตกทางเทคโทนิก (Tectonic fissure)

รอยแตกนี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในด้านสัณฐานทางธรณีวิทยา ซึ่งในกรณีนี้ ตัวการสำคัญคือ รอยเลื่อน 2 ตัว ได้แก่ Guanyinjing fault และ Sanwei fault (รูปที่ 7) ซึ่งอยู่ห่างจากตัวถ้ำประมาณกิโลเมตรเดียวเท่านั้น การเคลื่อนที่ของชั้นหินตามรอยเลื่อนนี้ ทำให้เกิดรอยแตกชนิดนี้ขึ้นมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเหนือของแนวถ้ำ รอยแตกดังกล่าว มักจะวางตัวในแนว NE 40-60 ° และเอียงเทเป็นมุม 60-85° ตัดผ่านชั้นหินจากบนลงล่าง (รูปที่ 8 )

รอยแตกไร้แรงกด (Unloading fissure)

รอยแตกนี้เกิดเนื่องจากน้ำหนักหรือแรงที่เคยกดทับหรือประกบไว้หายไป ในกรณีนี้คือการที่แม่น้ำตาชวนได้กัดเซาะหินตามหน้าผาออกไป ทำให้เกิดรอยแตกที่วางตัวในแนวดิ่งขนานกับหน้าผา (รูปที่ 9) รอยแตกจะเปิดกว้างด้านบนและแคบในช่วงล่าง รอยแตกนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อพบกับรอยแตกเทคโทนิก

รอยแตกแนวยาว (Longitudinal fissure)

เป็นรอยแตกขนาดเล็ก เกิดจากการที่น้ำหนักที่กดทับลงมาจากด้านบนภายในถ้ำ ที่เกิดขึ้น หรือถูกเจาะ รอยแตกจะมีแนวเดียวกันกับความยาวของถ้ำ ทำให้ถูกเรียกชื่อเช่นนี้ เนื่องจากมีขนาดเล็ก จึงก่อให้เกิดความเสียหายไม่มากนัก

Zhang et al, 2009 ยังได้ศึกษาอีกหลายเรื่อง หลายประเด็น หลายข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ แต่ต่อมขี้เกียจของข้าพเจ้า มันฉีดอาบทั้งหัวใจ สมอง และนิ้วมือ จึงขอจบเรื่องหม้อเก่าเพียงแค่นี้นะครับ พ่อแม่พี่น้อง

 
รูปที่ 2 พระพุทธรูปสลักในชั้นหินกรวดมน น่าสนใจว่า หากดูในระยะใกล้จะเห็นเม็ดกรวดในองค์พระพุทธรูปไหม
 
 
รูปที่ 3 แผนที่ธรณีวิทยาบริเวณถ้ำหม้อเก่า
 
 
รูปที่ 4 แผนที่ธรณีวิทยาแสดงชั้นหินที่เกิดในเนินตะกอนน้ำพารูปพัด
 
 
รูปที่ 6 ภาพหน้าตัดแสดงการวางตัวซ้อนกันของชุดหินกรวดมนที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน
 
 
รูปที่ 7 ภาพจากดาวเทียมแสดงตำแหน่งรอยเลื่อน 2 ตัว ที่ทำให้เกิดรอยแตกเทคโทนิคในชั้นหินที่ถ้ำหม้อเก่า
 
 
รูปที่ 8 ภาพถ่ายรอยแตกแบบเทคโทนิกที่ถ้ำหม้อเก่า
 
 
รูปที่ 9 ภาพถ่ายแสดงรอยแตกไร้แรงกดที่ถ้ำหม้อเก่า
 
 

............

 

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward