iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ
มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา

ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม นครสวรรค์

 

 

Google Map https://maps.app.goo.gl/8FTEfxXtWhi3bWfG8

เปิดตำนานศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ณ ต้นกำเนิดเจ้าพระยา: ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม นครสวรรค์ จุดบรรจบแห่งศรัทธาและความมหัศจรรย์ของสายน้ำ ศรัทธาเหนือกาลเวลา จุดกำเนิดอารยธรรมริมเจ้าพระยา ประตูแห่งความมงคล ณ ปากน้ำโพ

ณ ดินแดนแห่งความหลากหลายทางวัฒนธรรมและธรรมชาติอันงดงามของจังหวัดนครสวรรค์ มีอัญมณีล้ำค่าแห่งศรัทธาตั้งตระหง่านอยู่ ณ จุดบรรจบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของแผ่นดิน นั่นคือ "ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม" สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มิได้เป็นเพียงศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวนครสวรรค์เท่านั้น แต่ยังเป็นประจักษ์พยานแห่งประวัติศาสตร์อันยาวนาน ความเชื่ออันมั่นคง และความงดงามทางสถาปัตยกรรมที่ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอย่างลงตัว ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ ณ ปากน้ำโพ ดินแดนอันเปี่ยมมนต์ขลังที่แม่น้ำปิงและแม่น้ำน่านไหลมาบรรจบกัน ก่อกำเนิดเป็น "แม่น้ำเจ้าพระยา" สายเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตและอารยธรรมของประเทศไทย การเดินทางมาเยือนศาลเจ้าแห่งนี้จึงมิใช่แค่การสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นการผจญภัยสู่รากเหง้าทางวัฒนธรรม การสำรวจประวัติศาสตร์ที่ฝังลึก และการสัมผัสกับความตระการตาของธรรมชาติ ณ จุดเริ่มต้นแห่งสายน้ำที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา ขอเชิญทุกท่านร่วมเดินทางค้นพบความหมายอันลึกซึ้งและความเป็นสิริมงคลที่แผ่ไพศาลจากศาลเจ้าแห่งนี้ไปพร้อมกัน

ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม ตั้งตระหง่านอยู่ ณ ตำบลแควใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการขนานนามว่า 'ปากน้ำโพ' อันเป็นหัวใจสำคัญทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมของจังหวัด ณ จุดนี้เองที่แม่น้ำปิงและแม่น้ำน่านได้ไหลมาบรรจบกันอย่างยิ่งใหญ่ ก่อกำเนิดเป็น 'แม่น้ำเจ้าพระยา' สายเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนและอารยธรรมของชาติไทยให้งอกงามมานับร้อยปี ศาลเจ้าแห่งนี้จึงมิได้เป็นเพียงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ริมน้ำ แต่เป็นเสมือนผู้เฝ้ารักษาปากน้ำโพและเป็นสัญลักษณ์ของความผูกพันอันแน่นแฟ้นระหว่างมนุษย์กับสายน้ำแห่งชีวิต การเดินทางมายังศาลเจ้าแห่งนี้จึงมิใช่เพียงการมาเยือนศาสนสถาน แต่เป็นการก้าวเข้าสู่ประตูแห่งประวัติศาสตร์ที่ยังมีลมหายใจ ณ ต้นน้ำแห่งชีวิตของแผ่นดินสยาม จากบริเวณศาลเจ้า ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันน่าอัศจรรย์ของ "แม่น้ำสองสี" ซึ่งเป็นภาพที่แม่น้ำปิงและแม่น้ำน่านมาบรรจบกันอย่างชัดเจน ก่อนจะรวมเป็นหนึ่งเดียวและไหลลงใต้สู่ทะเล เป็นภาพที่หาชมได้ยากและเป็นเครื่องย้ำเตือนถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่ก่อกำเนิดอารยธรรม สถานที่ตั้งของศาลเจ้ายังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในอดีตสำหรับการค้าขายทางน้ำ ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นมากกว่าแหล่งรวมความศรัทธา แต่ยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและสังคมที่คอยขับเคลื่อนชุมชนปากน้ำโพมาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง ตำแหน่งที่ตั้งอันโดดเด่นนี้จึงทำให้ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิมเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับแก่นแท้ของจังหวัดนครสวรรค์อย่างแท้จริง

ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและลึกซึ้งที่ฝังรากอยู่ในวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวนครสวรรค์ แม้ว่าหลักฐานการก่อสร้างศาลเจ้าแห่งแรกจะไม่ปรากฏแน่ชัด แต่ภายในศาลเจ้าแห่งนี้ได้เก็บรักษาระฆังโบราณอันศักดิ์สิทธิ์ ที่มีจารึกเป็นภาษาจีนระบุปีที่นำมาถวายคือ พ.ศ. 2413 หรือ ค.ศ. 1870 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ข้อความบนระฆังนี้เป็นเสมือนพยานยืนยันถึงอายุอานามที่ยาวนานกว่า 130 ปีของศาลเจ้า แสดงให้เห็นถึงการดำรงอยู่คู่กับชุมชนปากน้ำโพมาหลายชั่วอายุคน

แต่เดิม ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นเพียงอาคารไม้ใต้ถุนสูง ตั้งอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำอย่างเรียบง่าย ทว่ากาลเวลาและการกัดเซาะของสายน้ำได้ทำให้โครงสร้างเดิมทรุดโทรมลงไปตามธรรมชาติ ด้วยความร่วมมือร่วมใจและศรัทธาอันแรงกล้าของชาวบ้านและผู้มีจิตศรัทธา ศาลเจ้าจึงได้รับการก่อสร้างขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ. 2452 การสร้างครั้งนี้มีความพิเศษยิ่งนัก เพราะเป็นการรวมเอา "ศาลเจ้าพ่อกวนอู" ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้กลายเป็นศูนย์รวมเทพเจ้าจีนที่สำคัญหลายองค์ภายใต้หลังคาเดียวกัน สะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาในการรวมพลังแห่งศรัทธาและความเป็นปึกแผ่นของชุมชน

ปัจจุบัน ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม ปรากฏโฉมเป็นอาคารครึ่งไม้ครึ่งตึกที่ได้รับการก่อสร้างอย่างประณีตและงดงาม มีลักษณะเป็น "เก๋งจีนสีแดง" อันโดดเด่นสะดุดตา หลังคาประดับประดาด้วย "มังกรคู่ชูลูกแก้ว" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งพลัง อำนาจ ความเป็นสิริมงคล และความอุดมสมบูรณ์ ตามความเชื่อของชาวจีน สถาปัตยกรรมที่วิจิตรงดงามนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงศิลปะแบบจีนโบราณ แต่ยังแสดงถึงความเคารพและความตั้งใจอันแน่วแน่ของผู้สร้างและผู้ดูแลศาลเจ้า

ภายในศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าสำคัญหลายพระองค์ ซึ่งแต่ละพระองค์ล้วนมีความสำคัญและเป็นที่เคารพสักการะอย่างยิ่ง ได้แก่

  • เจ้าพ่อเทพารักษ์ (ปึงเถ่ากง): ถือเป็นเทพเจ้าประจำท้องถิ่นผู้ปกปักรักษาคุ้มครองชุมชนปากน้ำโพและผู้คนให้ร่มเย็นเป็นสุข ปึงเถ่ากงเป็นที่พึ่งทางใจของผู้คนในการขอพรให้ประสบความสำเร็จในกิจการงาน และคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง

  • เจ้าแม่ทับทิม (จุยป๊วยเนี้ย หรือ ตุ่ยโป๊ยเหนี่ยว ในภาษาไหหลำ): เป็นเทพเจ้าแห่งสายน้ำและการเดินเรือ เป็นที่เคารพนับถืออย่างยิ่งของชาวประมงและผู้ประกอบอาชีพทางน้ำ รวมถึงผู้ที่เดินทางโดยเรือ ผู้คนมักมาขอพรให้เดินทางปลอดภัย ค้าขายรุ่งเรือง และอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สินจากท้องน้ำ

  • เจ้าพ่อกวนอู: เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม และความกล้าหาญ เป็นสัญลักษณ์ของความเข้มแข็งและคุณธรรม ผู้คนนิยมมากราบไหว้เพื่อขอพรให้ประสบความสำเร็จในการงาน ปกป้องคุ้มครองจากอุปสรรค และเสริมสร้างบารมี

  • เจ้าแม่สวรรค์: เป็นอีกหนึ่งเทพเจ้าที่ได้รับการเคารพสักการะ เพื่อขอพรให้ชีวิตมีความสุข ความสงบ และความเจริญรุ่งเรือง

ความสำคัญของศาลเจ้าแห่งนี้มิได้จำกัดอยู่แค่การเป็นสถานที่สักการบูชาเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจและแกนกลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวนครสวรรค์ทุกคนตลอดทั้งปี ผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางมายังศาลเจ้าเพื่อกราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล คุ้มครองจากภัยอันตราย และขอโชคลาภในการดำเนินชีวิต ความเชื่อและความศรัทธานี้ได้หล่อหลอมให้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นเสมือนบ้านหลังที่สอง ที่ทุกคนสามารถมาหาความสงบทางใจและพลังชีวิต

นอกจากนี้ ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม ยังเป็นจุดศูนย์กลางของการจัดงานเทศกาลที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงระดับประเทศ นั่นคือ "เทศกาลตรุษจีนปากน้ำโพ" ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เทศกาลนี้เต็มไปด้วยสีสัน ความอลังการ และความเชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ โดยมี "ขบวนแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพอย่างยิ่งใหญ่" ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่มาเยือนและชาวเมือง การแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ไปตามท้องถนนเปรียบเสมือนการนำพาความเป็นสิริมงคลไปสู่ทุกครัวเรือน นอกจากขบวนแห่ที่อลังการแล้ว ภายในงานยังมีการแสดงอันน่าทึ่งและเปี่ยมด้วยมนต์ขลัง เช่น "การลุยไฟ" ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่แสดงถึงความกล้าหาญและความบริสุทธิ์ของจิตใจ และ "การแสดงปาฏิหาริย์จากม้าทรง" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออกถึงความศรัทธาและความเชื่อมโยงระหว่างโลกมนุษย์กับโลกวิญญาณ การเข้าร่วมเทศกาลตรุษจีนปากน้ำโพที่ศาลเจ้าแห่งนี้จึงเป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน และเป็นการดำดิ่งสู่แก่นแท้ของวัฒนธรรมจีนในประเทศไทยอย่างแท้จริง

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยทำเลที่ตั้งอันเป็นเอกลักษณ์ ณ ปากน้ำโพ บริเวณศาลเจ้ายังเป็นจุดที่สามารถชมวิว "แม่น้ำสองสี" ได้อย่างชัดเจนที่สุด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแม่น้ำเจ้าพระยาอันสวยงามและเปี่ยมด้วยชีวิตชีวา ภาพแม่น้ำที่แตกต่างกันสองสายไหลมารวมกัน สะท้อนถึงการผสมผสานทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ณ ดินแดนแห่งนี้ ศาลเจ้าแห่งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นพยานแห่งศรัทธาและประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นดั่งประตูบานใหญ่ที่เปิดสู่ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและจิตวิญญาณของชาวสยาม

ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม ณ ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ มิได้เป็นเพียงศาสนสถานเก่าแก่ที่ยืนหยัดท้าทายกาลเวลา แต่เป็นดั่งสมบัติทางวัฒนธรรมที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา เป็นต้นกำเนิดแห่งศรัทธาและความภาคภูมิใจของชาวนครสวรรค์ และเป็นประตูสู่ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่หาใดเทียบได้ การเดินทางมาเยือนศาลเจ้าแห่งนี้คือการเปิดประสบการณ์การผจญภัยสู่รากเหง้าของอารยธรรมไทย ณ จุดบรรจบของสายน้ำสองสายที่หล่อหลอมรวมกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาอันยิ่งใหญ่

ที่นี่ ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่อบอวลไปทั่วทุกตารางนิ้ว ตั้งแต่ระฆังโบราณที่บอกเล่าเรื่องราวเมื่อหนึ่งศตวรรษก่อน ไปจนถึงสถาปัตยกรรมเก๋งจีนสีแดงที่ประดับประดาอย่างวิจิตรงดงาม สะท้อนถึงศิลปะและศรัทธาที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น พร้อมทั้งได้กราบสักการะเทพเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์หลากหลายองค์ ทั้งเจ้าพ่อเทพารักษ์ เจ้าแม่ทับทิม เจ้าพ่อกวนอู และเจ้าแม่สวรรค์ ซึ่งแต่ละองค์ล้วนเป็นที่พึ่งทางใจและประทานพรให้ผู้คนได้ประสบพบเจอแต่สิ่งดีงาม

ความพิเศษของศาลเจ้าแห่งนี้ยังรวมถึงบทบาทสำคัญในการเป็นศูนย์กลางของเทศกาลตรุษจีนปากน้ำโพอันลือชื่อ ซึ่งเต็มไปด้วยขบวนแห่สุดอลังการ พิธีกรรมอันเข้มขลังอย่างการลุยไฟ และการแสดงม้าทรงที่ชวนให้ตื่นตาตื่นใจ เป็นการแสดงออกถึงพลังศรัทธาที่เปี่ยมล้นและวัฒนธรรมอันรุ่มรวยที่ยังคงมีชีวิตชีวาจนถึงทุกวันนี้ และเหนือสิ่งอื่นใด คือทัศนียภาพอันตระการตาของ "แม่น้ำสองสี" ที่มาบรรจบกันอย่างสมบูรณ์แบบ สะท้อนถึงการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างธรรมชาติ ศรัทธา และอารยธรรม

ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม จึงไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นจุดหมายปลายทางที่เติมเต็มจิตวิญญาณ ให้ข้อคิดถึงความคงอยู่ของศรัทธา ความไม่ย่อท้อของมนุษย์ และความงดงามอันเป็นนิรันดร์ของธรรมชาติ ขอเชิญชวนทุกท่านได้เดินทางมาสัมผัสกับมนต์เสน่ห์อันน่าอัศจรรย์นี้ด้วยตัวท่านเอง เพื่อซึมซับความเป็นสิริมงคล ความสงบ และความประทับใจที่ไม่มีวันลืมเลือน ณ ต้นกำเนิดแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้

.

-----------------------

ที่มาข้อมูล

รวบรวมรูปภาพ

www.iok2u.com

-----------------------

เที่ยวนครสวรรค์ (Travel Nakhon Sawan)

เที่ยวไทย (Travel Thailand)

-----------------------

 

ชมอัลปั้มภาพเพิ่มเติมที่

ppp

xxx

yyy

.

------------------------

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward