เที่ยวนครสวรรค์ เมือง วัดคีรีวงศ์

วัดคีรีวงศ์ เมือง นครสวรรค์

แผนที่ https://maps.app.goo.gl/QT3uyZKJ1ZHSJqEy6

ผจญภัยสู่ยอดเขาดาวดึงส์ เปิดม่านมหัศจรรย์แห่งพระจุฬามณีเจดีย์ ณ วัดคีรีวงศ์ นครสวรรค์ อัญมณีแห่งศรัทธาและทัศนียภาพอันงดงามเหนือลุ่มเจ้าพระยา วัดคีรีวงศ์ ที่สุดแห่งศรัทธาบนฟ้า ที่สุดแห่งทัศนาบนดิน ณ นครสวรรค์ ดินแดนแห่งความมหัศจรรย์ที่รอการค้นพบ

เมื่อยามเช้าตรู่ของวันใหม่มาเยือน แสงอรุณสีทองจับขอบฟ้าเหนือผืนแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ของเมืองนครสวรรค์ ส่องประกายต้ององค์พระเจดีย์สีขาวบริสุทธิ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดาวดึงส์ ดุจอัญมณีล้ำค่าที่ถูกเจียระไนอย่างประณีตและประดับไว้บนมงกุฎแห่งขุนเขา ภาพอันน่าอัศจรรย์นี้มิใช่เพียงแค่ฉากทัศน์ที่งดงามจับตา แต่คือคำเชิญชวนอันศักดิ์สิทธิ์ที่ดึงดูดนักแสวงบุญ นักเดินทาง และผู้ใฝ่หาความสงบจากทั่วทุกสารทิศให้มุ่งหน้าสู่ "วัดคีรีวงศ์" สถานที่ซึ่งมิใช่เพียงวัดวาอารามธรรมดา หากแต่เป็นดุจประตูสู่สรวงสวรรค์ เป็นศูนย์รวมแห่งพุทธศิลป์อันวิจิตรตระการตา ประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า และทัศนียภาพอันไร้ขอบเขตสุดลูกหูลูกตา ที่จะตราตรึงในความทรงจำของผู้มาเยือนตลอดไป การเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาดาวดึงส์แห่งนี้คือการผจญภัยทางจิตวิญญาณอย่างแท้จริง เป็นการก้าวเข้าสู่โลกอีกใบที่เต็มไปด้วยความสงบ ความศักดิ์สิทธิ์ และความมหัศจรรย์ ที่จะทำให้จิตใจได้ดื่มด่ำกับความงดงามทั้งภายในและภายนอก เตรียมใจให้พร้อมสำหรับการเดินทางอันน่าอัศจรรย์ใจ สู่ดินแดนแห่งบุญบารมีและทัศนียภาพอันกว้างไกล ณ ยอดเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ที่ซึ่งศรัทธาและธรรมชาติมาบรรจบกันอย่างลงตัว สร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือกว่าการท่องเที่ยวทั่วไป การได้สัมผัสบรรยากาศแห่งความสงบอันศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกับชื่นชมความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมและธรรมชาติที่โอบล้อม จะเป็นพลังที่เติมเต็มจิตใจและสร้างความประทับใจมิรู้ลืม วัดคีรีวงศ์แห่งนี้จึงเป็นมากกว่าจุดหมายปลายทาง แต่เป็นประสบการณ์ที่รอให้คุณมาค้นพบด้วยตัวคุณเอง

วัดคีรีวงศ์ ตั้งอยู่ในพื้นที่อันเปรียบเสมือนศูนย์กลางแห่งจิตวิญญาณของจังหวัดนครสวรรค์ ณ ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ตัววัดโอบล้อมด้วยทิวเขาเขียวขจีและตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดาวดึงส์ ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในบริเวณนี้ ทำให้วัดแห่งนี้โดดเด่นและสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแต่ไกล เป็นหมุดหมายอันศักดิ์สิทธิ์ที่ดึงดูดสายตาของผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา ดุจดังประภาคารแห่งธรรมที่ส่องสว่างนำทางจิตใจของผู้ศรัทธา การเดินทางมายังวัดคีรีวงศ์แห่งนี้ถือว่าสะดวกสบายเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักเดินทางทุกประเภท ถนนที่ทอดตัวขึ้นสู่ยอดเขาเป็นถนนลาดยางอย่างดีและกว้างขวาง ทำให้การขับขี่รถยนต์ส่วนตัวหรือรถตู้โดยสารขึ้นไปยังบริเวณวัดด้านบนเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย ตลอดเส้นทางขึ้นเขา นักเดินทางจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามของเมืองนครสวรรค์ที่ค่อยๆ แผ่กว้างออกไปเบื้องล่าง ยิ่งสูงขึ้นไป ทิวทัศน์ก็ยิ่งเปิดกว้างและน่าประทับใจ ไม่ว่าจะหันมองไปทางใดก็จะได้เห็นความเขียวขจีของธรรมชาติสลับกับบ้านเรือนที่อยู่รายล้อม การขับรถขึ้นไปเองยังทำให้ผู้มาเยือนมีอิสระในการแวะชมวิว ถ่ายรูป หรือดื่มด่ำกับบรรยากาศตามอัธยาศัย และเมื่อมาถึงบริเวณวัดด้านบน ก็มีลานจอดรถที่กว้างขวางและสามารถรองรับรถยนต์ได้จำนวนมาก ทำให้หมดกังวลเรื่องที่จอดรถ ไม่ว่าจะมาเดี่ยว มากับครอบครัว หรือมาเป็นคณะใหญ่ วัดคีรีวงศ์ก็พร้อมต้อนรับทุกท่านด้วยความสะดวกสบายและเป็นมิตร

"วัดคีรีวงศ์" ไม่ได้เป็นเพียงวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขา แต่คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ยาวนานและลึกซึ้ง หยั่งรากฐานลงไปในผืนแผ่นดินไทยตั้งแต่ช่วงปลายสมัยกรุงสุโขทัย ซึ่งเป็นยุคสมัยที่พุทธศาสนาได้หยั่งรากลึกและเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดในฐานะศาสนาประจำชาติ เป็นรากฐานสำคัญที่หล่อหลอมวัฒนธรรม ประเพณี และจิตวิญญาณของชาวไทยมาจนถึงปัจจุบัน ยุคสุโขทัยเป็นช่วงเวลาที่พุทธศาสนาแบบเถรวาทได้รับการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีการสร้างพระพุทธรูป ปูชนียสถาน และงานพุทธศิลป์อันวิจิตรมากมาย ซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาสู่คนรุ่นหลัง วัดคีรีวงศ์จึงเป็นส่วนหนึ่งของสายธารแห่งศรัทธาอันยาวนานนี้ แม้กาลเวลาจะผันผ่าน ลมพายุก่อกวนให้วัดแห่งนี้ถูกทอดทิ้งและกลายเป็นวัดร้างอยู่ช่วงระยะหนึ่ง ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังที่ปกคลุมด้วยเถาวัลย์และต้นไม้นานาพันธุ์ ท่ามกลางความเงียบสงัดของธรรมชาติที่กลืนกินอดีต แต่ด้วยบุญบารมีและพลังแห่งศรัทธาอันแรงกล้า วัดคีรีวงศ์ได้ถูกพลิกฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งในปีพุทธศักราช 2504 เมื่อพระธุดงค์ผู้เปี่ยมด้วยความเพียร วิริยะ และเมตตาจิต ได้เดินทางจาริกมาค้นพบสถานที่แห่งนี้ท่ามกลางป่าเขาอันสงบเงียบ การค้นพบครั้งนั้นมิใช่เพียงการพบเจออาคารเก่าแก่ แต่คือการปลุกจิตวิญญาณแห่งธรรมที่เคยหลับใหลให้ตื่นขึ้นมาอีกครา จากนั้นเป็นต้นมา วัดแห่งนี้ก็ได้รับการบูรณะและก่อสร้างขึ้นใหม่ด้วยความร่วมมือร่วมใจอันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพุทธศาสนิกชนจากทั่วทุกสารทิศ ทั้งชาวบ้านในท้องถิ่นที่เปี่ยมด้วยความเลื่อมใส ผู้มีจิตศรัทธาจากต่างถิ่น ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เล็งเห็นถึงความสำคัญอันยิ่งใหญ่ของสถานที่แห่งนี้ และศักยภาพในการเป็นศูนย์รวมจิตใจ ทุกหยาดเหงื่อแรงกาย กำลังทรัพย์ และความทุ่มเทที่หลั่งไหลเข้ามาได้หล่อหลอมให้วัดคีรีวงศ์กลับมาเป็นศูนย์รวมจิตใจ เป็นแหล่งเรียนรู้พระธรรมคำสอน และเป็นที่พึ่งทางจิตวิญญาณที่สำคัญอีกครั้ง ความสำคัญทางประวัติศาสตร์และสถานะอันศักดิ์สิทธิ์ของวัดได้รับการยืนยันและประกาศอย่างเป็นทางการด้วยการได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2520 ซึ่งเป็นเครื่องหมายอันทรงเกียรติที่ยืนยันถึงการเป็นวัดที่สมบูรณ์ตามพระธรรมวินัยและประเพณีปฏิบัติของคณะสงฆ์ไทย สามารถประกอบสังฆกรรมได้อย่างถูกต้องตามพุทธบัญญัติ แสดงให้เห็นถึงความมั่นคงและเจริญรุ่งเรืองของวัดในปัจจุบัน

หัวใจสำคัญและจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ที่ดึงดูดสายตาผู้มาเยือนให้ต้องมนต์ขลังของวัดคีรีวงศ์ คือ "พระจุฬามณีเจดีย์" อันยิ่งใหญ่ตระหง่านอยู่บนยอดเขาดาวดึงส์ ชื่อของเจดีย์องค์นี้ชวนให้รำลึกถึง "จุฬามณีเจดีย์" ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ตามคติพุทธศาสนา ที่เป็นสถานที่ประดิษฐานพระเกศธาตุและพระเขี้ยวแก้วของพระพุทธเจ้า ซึ่งนับเป็นเจดีย์ที่สำคัญและศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในชั้นฟ้า อันเป็นที่เคารพสักการะของทวยเทพและเทวดาทั้งปวง ตัวองค์เจดีย์แห่งวัดคีรีวงศ์สูงใหญ่สง่างามสีขาวบริสุทธิ์เปล่งประกายท้าทายแสงตะวัน สะท้อนความบริสุทธิ์แห่งพระธรรม มองเห็นได้อย่างโดดเด่นจากระยะไกล เป็นดุจอัญมณีสีขาวผ่องที่ประดับอยู่บนมงกุฎแห่งขุนเขาที่โอบล้อมเมือง เป็นสัญลักษณ์แห่งศรัทธาที่แผ่ไพศาลไปทั่วเมืองนครสวรรค์และสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ไม่เพียงเป็นพุทธสถานที่งดงามวิจิตรตระการตาจากภายนอก แต่ยังเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์เมืองนครสวรรค์ได้อย่างกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาและงดงามจับใจยามที่ได้ขึ้นไปถึงยอด ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับภาพพาโนรามาอันน่าทึ่งของเมืองที่ทอดยาวออกไปสุดสายตา เบื้องล่างคือแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลเอื่อยอย่างสงบสุข ผืนป่าเขียวขจี ทิวเขาที่โอบล้อม และบ้านเรือนที่อยู่รายล้อมราวกับภาพวาดขนาดมหึมาที่ธรรมชาติบรรจงรังสรรค์ขึ้น ภาพเหล่านี้มอบความรู้สึกสงบ เย็นใจ และอิ่มเอมอย่างลึกซึ้ง เป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากยิ่งนัก การได้ยืนอยู่ ณ จุดสูงสุดแห่งนี้และทอดสายตาชมความงดงามของโลกเบื้องล่าง ทำให้จิตใจได้ปลดปล่อยจากความวุ่นวายทางโลก ได้ดื่มด่ำกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและพลังแห่งศรัทธาที่สร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์นี้ขึ้นมา เป็นการเติมเต็มพลังชีวิตและจิตวิญญาณอย่างแท้จริง

ภายในพระจุฬามณีเจดีย์แห่งนี้ แบ่งออกเป็น 4 ชั้น แต่ละชั้นล้วนอัดแน่นไปด้วยพุทธศิลป์อันวิจิตร สิ่งศักดิ์สิทธิ์อันทรงคุณค่า และเรื่องราวแห่งพุทธประวัติที่รอให้ผู้มาเยือนได้ศึกษา สักการะ และซึมซับพลังแห่งศรัทธาอย่างลึกซึ้งในทุกย่างก้าว:

ชั้นแรก เป็นพื้นที่กว้างขวางโอ่โถงที่ต้อนรับพุทธศาสนิกชนด้วยบรรยากาศแห่งความสงบและความเป็นสิริมงคลที่แผ่ซ่านไปทั่วทุกอณู เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางทางจิตวิญญาณที่เปี่ยมด้วยความหมาย ที่นี่มีพื้นที่สำหรับจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย อธิษฐานขอพร และเริ่มเข้าสู่ห้วงแห่งความสงบภายในที่ค่อยๆ ปกคลุมจิตใจ กลิ่นหอมกรุ่นของธูปเทียนผสมผสานกับกลิ่นดอกไม้อบอวลไปทั่วบริเวณ สร้างบรรยากาศที่เปี่ยมด้วยศรัทธา ความศักดิ์สิทธิ์ และความเมตตาอันล้นเหลือ เสียงสวดมนต์แผ่วเบาจากผู้มาเยือนที่มาจากทั่วสารทิศเป็นดั่งดนตรีแห่งธรรมที่ช่วยขับกล่อมจิตใจให้สงบเย็นและบริสุทธิ์ ผู้คนต่างมาด้วยใจที่มุ่งมั่นตั้งใจ เพื่อขอพรให้ชีวิตมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ความสุขความเจริญ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และขอให้ได้พบเจอแต่สิ่งดีงามในชีวิต การได้มาสัมผัสบรรยากาศแห่งศรัทธานี้จะทำให้จิตใจผ่อนคลายและสงบลงอย่างน่าอัศจรรย์
ชั้นที่สอง เป็นโลกแห่งปราชญ์และครูบาอาจารย์ผู้ทรงศีลผู้ทรงคุณวิเศษ ที่นี่ประดิษฐานรูปหล่อเหมือนจริงของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังและเป็นที่เคารพศรัทธาอย่างสูงสุดของชาวไทยหลายองค์ แต่ละองค์ล้วนมีประวัติและอภินิหารที่เล่าขานสืบต่อกันมา อาทิ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม ผู้เป็นมหาเถราจารย์ที่ทรงภูมิรู้ภูมิธรรมและคุณูปการต่อพระพุทธศาสนาอย่างใหญ่หลวง ผู้สร้างพระสมเด็จอันลือชื่อ, หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด แห่งวัดช้างให้ ผู้เปี่ยมด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์และเมตตาบารมีที่คุ้มครองปกปักษ์คุ้มครองภัยให้แก่ลูกศิษย์ลูกหา เชื่อกันว่าท่านเป็นพระโพธิสัตว์ที่ลงมาโปรดสัตว์ และหลวงพ่อสด จันทสโร แห่งวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้เป็นต้นตำรับวิชชาธรรมกายอันลึกซึ้ง ผู้ฟื้นฟูการปฏิบัติวิปัสสนาธุระให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง การได้กราบสักการะรูปหล่อของมหาเถราจารย์เหล่านี้เสมือนได้ใกล้ชิดกับดวงจิตอันบริสุทธิ์และพลังแห่งคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ที่ท่านได้สั่งสมไว้ นอกจากนี้ ภายในชั้นนี้ยังเป็นที่ประดิษฐาน "รอยพระพุทธบาทจำลอง 12 ราศี" อันศักดิ์สิทธิ์ ให้ได้กราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อเรื่องจักรราศีและโชคลาง โดยเชื่อกันว่าการได้กราบไหว้รอยพระพุทธบาทจำลองนี้จะช่วยเสริมดวงชะตา บันดาลโชคลาภ ปัดเป่าสิ่งอัปมงคลออกไปจากชีวิต และนำพาความสุขความเจริญมาสู่ผู้บูชา และสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจและวัตถุมงคลเพื่อความเป็นสิริมงคลและคุ้มครองปกปักษ์ ที่ชั้นสองแห่งนี้ยังมี "วัตถุมงคล" ให้เลือกเช่าบูชาหลากหลายชนิด ซึ่งล้วนผ่านการปลุกเสกและเป็นที่เคารพศรัทธา สามารถนำไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
ชั้นที่สาม เปรียบเสมือนศูนย์รวมพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองจากทั่วสารทิศ ที่นี่ประดิษฐานพระพุทธรูปจำลองที่สำคัญและเป็นที่เคารพสักการะทั่วประเทศไทยหลายองค์ ซึ่งแต่ละองค์ล้วนมีตำนานและความศักดิ์สิทธิ์เฉพาะตัว อาทิ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่ประดิษฐาน ณ วัดพระแก้ว กรุงเทพมหานคร ผู้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทย, พระพุทธชินราช พระพุทธรูปอันงดงามจากจังหวัดพิษณุโลกที่ขึ้นชื่อเรื่องพุทธลักษณะอันสมบูรณ์แบบที่สุดในโลก ประดุจมีชีวิต, พระพุทธโสธร พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์จากวัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่มีพุทธานุภาพในด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บและประทานพรให้สมหวังดั่งปรารถนา และพระพุทธรูปวัดไร่ขิง จากจังหวัดนครปฐม ที่ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และเมตตาบารมีอันแผ่ไพศาล การได้มาสักการะพระพุทธรูปจำลองเหล่านี้เสมือนได้เดินทางไปกราบไหว้พระพุทธรูปสำคัญทั่วประเทศในคราวเดียวกัน โดยไม่ต้องเดินทางไกลหลายจังหวัด เป็นการรวมบุญบารมีไว้ในที่เดียว และที่สำคัญยิ่งคือ ณ ชั้นนี้ยังเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้ "ทำบุญถวายสังฆทาน" เพื่อเสริมสร้างบุญบารมีอันยิ่งใหญ่ อุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ และสร้างความร่มเย็นเป็นสุขแก่ตนเองและครอบครัว การถวายสังฆทานถือเป็นการทำบุญที่ได้อานิสงส์มาก เป็นการจรรโลงพระพุทธศาสนาและดำรงไว้ซึ่งพระธรรมคำสอนอันประเสริฐให้คงอยู่สืบไป
ชั้นบนสุด ซึ่งอยู่ภายในโดมเจดีย์ เป็นจุดสูงสุดทั้งทางกายภาพและทางจิตวิญญาณของพระจุฬามณีเจดีย์ ที่นี่เป็นที่บรรจุความรู้และประวัติศาสตร์อันล้ำค่าผ่าน "ภาพจิตรกรรมฝาผนัง" อันวิจิตรบรรจงและอ่อนช้อยด้วยสีสันที่สดใส เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติอย่างละเอียด ตั้งแต่การประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน และพุทธกิจสำคัญต่างๆ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่พระโพธิสัตว์ประสูติจากพระครรภ์ การออกผนวช การบำเพ็ญเพียร การตรัสรู้อริยสัจสี่ การแสดงปฐมเทศนา และการโปรดเวไนยสัตว์จนกระทั่งปรินิพพาน ภาพเหล่านี้ไม่เพียงแสดงถึงความสามารถทางศิลปะอันประณีตของช่างฝีมือไทย แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจให้ระลึกถึงพระคุณอันประมาณมิได้ของพระพุทธองค์ เป็นศูนย์รวมแห่งคำสอนและปรัชญาอันลึกซึ้งที่นำทางชีวิตให้พ้นจากทุกข์ และที่สำคัญที่สุดคือการประดิษฐาน "พระบรมสารีริกธาตุ" ไว้บนแท่นเจดีย์องค์เล็กอันศักดิ์สิทธิ์ใจกลางโดม ซึ่งเปล่งรัศมีแห่งความศักดิ์สิทธิ์ เป็นจุดสูงสุดแห่งความศรัทธา เป็นที่รวมแห่งบุญบารมี และเป็นสิริมงคลสูงสุดแก่ผู้ได้มาสักการะบูชา การได้มาอยู่ ณ ชั้นสูงสุดนี้ ได้กราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุอันเป็นมิ่งขวัญสูงสุด และได้ชื่นชมพุทธประวัติบนจิตรกรรมฝาผนัง เป็นประสบการณ์ที่เติมเต็มจิตใจด้วยความสงบ ปีติ และแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ เปรียบเสมือนการได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์ด้วยดวงจิตอันบริสุทธิ์และเข้าถึงแก่นแท้แห่งพระธรรมคำสอน

นอกเหนือจากความโดดเด่นและยิ่งใหญ่ของพระจุฬามณีเจดีย์แล้ว ภายในบริเวณวัดคีรีวงศ์ยังเป็นที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพุทธสถานอื่นๆ อีกมากมายที่น่าสนใจและควรค่าแก่การเข้าชมและศึกษา ซึ่งแต่ละแห่งล้วนมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปะที่แตกต่างกันไป สร้างความสมบูรณ์แบบให้แก่วัดแห่งนี้ในฐานะพุทธสถานอันยิ่งใหญ่และครบวงจร:

พระอุโบสถสมเด็จพระพุทธโคดมจำลอง: พุทธสถานอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เป็นสถานที่หลักที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญต่างๆ ของคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชน มีสถาปัตยกรรมที่งดงามวิจิตรตระการตาตามแบบฉบับพุทธศิลป์ไทย และภายในประดิษฐานพระพุทธรูปประธานอันเป็นที่เคารพสักการะ สร้างความร่มเย็นและเป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้มาเยือนให้ได้กราบไหว้และปฏิบัติธรรม
ศาลาพุทธานุภาพ: สถานที่รวมศรัทธาและประกอบศาสนกิจทั่วไป ใช้เป็นที่ประชุมสงฆ์ สถานที่แสดงธรรมแก่พุทธศาสนิกชน หรือเป็นที่ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ และสนทนาธรรมของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ภายในตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความสงบ เหมาะสำหรับการค้นพบความสงบภายในและรับฟังพระธรรมคำสอน
วิหารหลวงพ่อโต: เป็นวิหารที่ประดิษฐานรูปเคารพอันเป็นที่นับถือของชาวบ้านในท้องถิ่นมาช้านาน ผู้คนนิยมมาขอพรในเรื่องโชคลาภ ความสำเร็จ และความเป็นสิริมงคลต่างๆ ด้วยความเชื่อในเมตตาบารมีและอิทธิฤทธิ์ของหลวงพ่อโตที่แผ่ไพศาล
พระพุทธศิวฤทธิ์นิมิตธรรมโฆษ: พระพุทธรูปปางลีลาที่งดงามอ่อนช้อย แสดงถึงความสง่างามและความเคลื่อนไหวอันอ่อนโยนในพุทธศิลป์แห่งการเผยแผ่ธรรม ปางลีลาเป็นปางที่แสดงถึงการเสด็จออกโปรดสัตว์โลก แสดงถึงพุทธกิจอันสำคัญยิ่งของพระพุทธองค์ในการนำพาสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ การได้ชมพระพุทธรูปปางนี้จะทำให้รู้สึกถึงความเบาบางและงดงามในทุกท่วงท่า
พระพุทธชินสีห์: หนึ่งในพระพุทธรูปสำคัญที่ควรค่าแก่การศึกษาอย่างยิ่ง เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ มีขนาดหน้าตักกว้างถึง 5 วา 9 นิ้ว (ประมาณ 10.25 เมตร) ซึ่งแสดงถึงความมั่นคง หนักแน่น และสงบเย็นแห่งพระพุทธคุณที่แผ่ซ่านออกมา ความพิเศษและคุณค่าทางศิลปะของพระพุทธรูปองค์นี้คือการผสมผสานพุทธศิลป์อันเป็นเอกลักษณ์ของสามยุคสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวและกลมกลืน ได้แก่ พุทธศิลป์แบบเชียงแสนที่มีความแข็งแกร่ง สง่างามและเน้นพระพักตร์กลม พระเกศแบบก้นหอย, พุทธศิลป์แบบสุโขทัยที่แสดงถึงความอ่อนช้อย เมตตา และรัศมีแห่งธรรมที่เปล่งประกาย ผสมผสานความงามแบบอุดมคติ, และพุทธศิลป์แบบรัตนโกสินทร์ที่เน้นความวิจิตรบรรจงและความสมจริงในรายละเอียด การผสมผสานนี้ทำให้พระพุทธชินสีห์เป็นตัวแทนของวิวัฒนาการและความหลากหลายของพุทธศิลป์ไทยตลอดหลายยุคสมัย สะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองทางพุทธศาสนาและศิลปะของชาติอย่างแท้จริง การได้มาชมพุทธสถานเหล่านี้เป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ และจิตวิญญาณอย่างแท้จริง ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสถึงความลึกซึ้งของพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทยอย่างรอบด้านและประทับใจไม่รู้ลืม

การเดินทางไปเยือนวัดคีรีวงศ์ เมืองนครสวรรค์ ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวสถานที่ แต่เป็นการจาริกแสวงบุญและสัมผัสประสบการณ์อันล้ำค่าที่ควรค่าแก่การเตรียมตัว เพื่อให้การเดินทางของคุณเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ความสงบ ความเคารพต่อสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างสูงสุด และได้เก็บเกี่ยวความประทับใจกลับไปอย่างเต็มที่

"วัดคีรีวงศ์" เมืองนครสวรรค์ มิใช่เป็นเพียงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา แต่คือจารึกแห่งศรัทธาที่ทอดตัวผ่านกาลเวลา เป็นประจักษ์พยานแห่งประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ปลายกรุงสุโขทัย เป็นศูนย์รวมแห่งพุทธศิลป์อันงดงามวิจิตรบรรจง และเป็นผืนผ้าใบธรรมชาติที่รังสรรค์ทัศนียภาพอันตระการตาเหนือลุ่มเจ้าพระยา การเดินทางมาเยือนวัดแห่งนี้ คือการเปิดประสบการณ์ที่ลึกซึ้งและรอบด้าน ทั้งทางกายที่ได้ไต่ขึ้นสู่ยอดเขา เพื่อสัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์และวิวทิวทัศน์อันไร้ขอบเขต และทางใจที่ได้สัมผัสความสงบภายในจากการกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สัมผัสถึงพลังแห่งความศรัทธาที่ก่อร่างสร้างขึ้นมาตั้งแต่โบราณกาล การได้ยืนอยู่เบื้องหน้าพระจุฬามณีเจดีย์อันยิ่งใหญ่ สัมผัสถึงความศรัทธาที่ก่อร่างสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปลายกรุงสุโขทัย การได้ชื่นชมพระบรมสารีริกธาตุอันเป็นมิ่งขวัญสูงสุดและศูนย์รวมแห่งบุญบารมี การได้ดื่มด่ำกับทิวทัศน์เมืองนครสวรรค์ที่ทอดตัวอยู่เบื้องล่างดุจภาพวาดอันไร้ขอบเขต ล้วนเป็นช่วงเวลาแห่งความอิ่มเอมใจ ความปีติ และเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้มาเยือนทุกผู้คน ขอเชิญชวนทุกท่านออกเดินทางผจญภัยสู่ยอดเขาแห่งศรัทธาแห่งนี้ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์อันล้ำค่า สร้างบุญบารมีที่มิอาจประเมินค่าได้ และประทับความทรงจำอันงดงามไม่รู้ลืมจากวัดคีรีวงศ์ นครสวรรค์ ดินแดนแห่งความมหัศจรรย์และเมตตาธรรม ที่จะคงอยู่ในใจของคุณตลอดไป ตราบชั่วนิรันดร์ นี่คือการเดินทางที่ไม่ใช่แค่การชมวิวทิวทัศน์ แต่คือการเติมเต็มจิตวิญญาณและค้นพบความหมายที่แท้จริงของการเดินทางสู่ใจกลางแห่งศรัทธา

-----------------------

ที่มาข้อมูล

รวบรวมรูปภาพ

- www.iok2u.com

-----------------------

เที่ยวนครสวรรค์ (Travel Nakhon Sawan)

เที่ยวไทย (Travel Thailand)

-----------------------