เมืองเศรษฐกิจพิเศษ จีน (Special Economic Zones: SEZs) กลไกสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจจีนสู่ระดับโลก จีน เป็นประเทศที่สร้างความประหลาดใจให้กับโลกด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา และหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือการถือกำเนิดขึ้นของ เมืองเศรษฐกิจพิเศษ จีน (Special Economic Zones: SEZs)
SEZs คืออะไรและเกิดขึ้นได้อย่างไร ? ความหมายของ “เมืองเศรษฐกิจพิเศษ”
เมืองเศรษฐกิจพิเศษ จีน (Special Economic Zones: SEZs) คือ พื้นที่ที่รัฐบาลจีนกำหนดขึ้นเพื่อทดลองนโยบายเศรษฐกิจแบบเปิดและเสรีมากกว่าพื้นที่ทั่วไป โดยมุ่งเน้นการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ส่งเสริมการส่งออก และพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งเมืองเหล่านี้จะได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี กฎระเบียบการค้า และการจัดการแรงงานที่ยืดหยุ่นมากกว่าภายในประเทศ
จุดเริ่มต้นของ SEZs ในจีน
จีนเริ่มจัดตั้งเมืองเศรษฐกิจพิเศษในช่วงต้นทศวรรษ 1980 ภายใต้การนำของ เติ้ง เสี่ยวผิง ผู้นำที่ผลักดันนโยบาย "ปฏิรูปและเปิดประเทศ" ผู้นำการปฏิรูปเศรษฐกิจจีน หลังจากจีนเปิดประเทศเพื่อต้อนรับการลงทุนจากต่างชาติ โดย SEZs ถูกมองว่าเป็น “หน้าต่าง” ที่จีนเปิดให้โลกภายนอกมองเห็นแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ของประเทศ (Reform and Opening Up) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ถ่ายทอดเทคโนโลยี และทดลองใช้กลไกตลาดในระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม โดยไม่กระทบต่อระบบโดยรวมของประเทศ
SEZs คือ พื้นที่ที่รัฐบาลจีนได้มอบอำนาจพิเศษในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่นกว่าพื้นที่อื่นๆ ทั่วไปของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน
- มาตรการจูงใจด้านภาษี ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีนำเข้า-ส่งออก หรือยกเว้นภาษีสำหรับธุรกิจต่างชาติ
- กฎระเบียบที่ผ่อนปรน ลดความซับซ้อนของขั้นตอนการอนุมัติการลงทุน การนำเข้า-ส่งออก และการบริหารจัดการธุรกิจ
- โครงสร้างพื้นฐานที่ครบครัน พัฒนาท่าเรือ สนามบิน ถนน และสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อรองรับการลงทุนและการค้า
- นโยบายแรงงานที่ยืดหยุ่น เพื่อดึงดูดแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
ซัวเถา (Shantou): เมืองเศรษฐกิจพิเศษที่ผสานวัฒนธรรมแต้จิ๋วกับการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน คำขวัญ “ซัวเถาประตูสู่โลกของชาวจีนโพ้นทะเลและศูนย์กลางวัฒนธรรมแต้จิ๋ว”
ซัวเถา (Shantou) เป็นเมืองชายฝั่งทะเลที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มีบทบาทสำคัญในฐานะหนึ่งในสี่เมืองเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zones: SEZs) แห่งแรกของจีนที่ได้รับการแต่งตั้งในปี พ.ศ. 2523 (ค.ศ. 1980) แม้การเติบโตทางเศรษฐกิจของซัวเถาจะไม่รวดเร็วเท่ากับเมืองเศรษฐกิจพิเศษอื่นๆ เช่น เซินเจิ้นหรือจูไห่ แต่ซัวเถายังคงรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมแต้จิ๋วและมีบทบาทสำคัญในฐานะศูนย์กลางของชาวจีนโพ้นทะเล ซัวเถาตั้งอยู่ทางตะวันออกของมณฑลกวางตุ้ง ติดกับทะเลจีนใต้ มีพรมแดนติดกับเมืองเฉาโจวและเจียหยาง
ประวัติความเป็นมาและความสำคัญ
ซัวเถา เริ่มต้นจากการเป็นหมู่บ้านชาวประมงและท่าเรือการค้าที่สำคัญในศตวรรษที่ 19 ในปี พ.ศ. 2523 รัฐบาลจีนได้แต่งตั้งซัวเถาเป็นหนึ่งในสี่เมืองเศรษฐกิจพิเศษแห่งแรกของประเทศ เพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศและพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น แม้การเติบโตทางเศรษฐกิจของซัวเถาจะไม่รวดเร็วเท่ากับเมืองเศรษฐกิจพิเศษอื่นๆ แต่ซัวเถายังคงมีบทบาทสำคัญในฐานะศูนย์กลางของชาวจีนโพ้นทะเลและวัฒนธรรมแต้จิ๋ว
ความงดงามทางสถาปัตยกรรมและธรรมชาติ
ซัวเถามีสถานที่ท่องเที่ยวที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติและสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ เช่น
เกาะหนานอ้าว (Nan'ao Island): เกาะที่มีทิวทัศน์ทะเลสวยงามและเป็นที่ตั้งของฟาร์มกังหันลมหนานอ้าว ซึ่งเป็นฟาร์มกังหันลมบนเกาะที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
เขตทัศนียภาพเฉวี่ยซือ (Queshi Scenic Area): พื้นที่ธรรมชาติที่มีภูเขาและชายฝั่งทะเลสวยงาม เหมาะสำหรับการเดินป่าและชมวิว
บ้านเก่าของเฉินซื่อหง (Chen Cihong's Former Residence): บ้านพักของพ่อค้าชาวจีนโพ้นทะเลที่มีสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างจีนและตะวันตก
กิจกรรมที่แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว
เยี่ยมชมเกาะหนานอ้าว: สัมผัสธรรมชาติและเรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานลมที่ฟาร์มกังหันลมหนานอ้าว
เดินเล่นในเขตทัศนียภาพเฉวี่ยซือ: เพลิดเพลินกับธรรมชาติและวิวทะเลที่สวยงาม
เยี่ยมชมบ้านเก่าของเฉินซื่อหง: เรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาวจีนโพ้นทะเล
ชมการแสดงงิ้วแต้จิ๋ว: สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านการแสดงงิ้วที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ลิ้มรสอาหารแต้จิ๋ว: เช่น หม้อไฟเนื้อวัว ไข่เจียวหอยนางรม และห่านพะโล้
ซัวเถา เป็นเมืองที่มีความสำคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ด้วยการเป็นหนึ่งในเมืองเศรษฐกิจพิเศษแห่งแรกของจีนและเป็นศูนย์กลางของชาวจีนโพ้นทะเล เมืองนี้จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมแต้จิ๋วและเรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน
“ซัวเถา: เมืองที่ผสานอดีตและอนาคตไว้ด้วยกัน”