เที่ยวจีน เหอหนาน ลั่วหยาง ถ้ำหินหยุนกัง (Yungang Grottoes)

ถ้ำหินหยุนกัง (Yungang Grottoes): มหัศจรรย์แห่งพุทธศิลป์ ณ ภูเขาอู่โจวซาน จีน

แผนที่ https://maps.app.goo.gl/vgbipXHp8qNYBtLN7

ถ้ำหินหยุนกัง (Yungang Grottoes) แหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ศิลปะ และความงดงาม ตั้งอยู่ที่เชิงเขาอู่โจวซาน ห่างจากเมืองต้าถง มณฑลซานซี ประเทศจีน ไปทางตะวันตก 16 กิโลเมตร เป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม และเป็นหนึ่งใน "สี่ถ้ำหินพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีน" เคียงคู่กับถ้ำหินมั่วเก่า ถ้ำหินหลงเหมิน และถ้ำหินไมจีซาน

ถ้ำหินหยุนกัง โดดเด่นด้วย "พระพุทธรูปแกะสลัก" ขนาดมหึมา และ "งานแกะสลักหิน" อันวิจิตรบรรจง ที่ประดับประดาอยู่ภายในถ้ำ นับเป็น "ผลงานชิ้นเอก" ของ "พุทธศิลป์" ในยุคราชวงศ์เว่ยเหนือ ที่สะท้อนให้เห็นถึง "ความศรัทธา" และ "ความสามารถ" อัน "ยอดเยี่ยม" ของช่างฝีมือ ในยุคโบราณ

การสร้างถ้ำหินหยุนกัง เริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 1009 (ค.ศ. 465) ในสมัย "ราชวงศ์เว่ยเหนือ" (Northern Wei Dynasty) โดย "พระภิกษุ ตันเหยา" (Tan Yao) ได้รับพระบรมราชานุญาต จาก "จักรพรรดิ เหวินเฉิง" (Emperor Wencheng) ให้ "แกะสลักพระพุทธรูป" ขึ้นที่ "เชิงเขาอู่โจวซาน" เพื่อ "เผยแพร่" และ "ทำนุบำรุง" พุทธศาสนา การสร้างถ้ำหินหยุนกัง ดำเนินต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 50 ปี จนกระทั่งถึงสมัย "จักรพรรดิ เสี้ยวหมิง" (Emperor Xiaoming) ในปี พ.ศ. 1059 (ค.ศ. 514)

ความสำคัญ และคุณค่า

ถ้ำหินหยุนกัง เป็น "ศาสนสถาน" ที่สำคัญ ของพุทธศาสนา ในประเทศจีน เป็นแหล่งรวม "งานพุทธศิลป์" อัน "ล้ำค่า" ที่แสดงถึง "พัฒนาการ" ของพุทธศาสนา และ "ศิลปะ" ในยุคราชวงศ์เว่ยเหนือ

• ศิลปะแบบคันธาระ (Gandhara art): พระพุทธรูป ในถ้ำหินหยุนกัง ได้รับ "อิทธิพล" จาก "ศิลปะแบบคันธาระ" ซึ่งเป็นศิลปะ ที่ "ผสมผสาน" ระหว่าง "ศิลปะอินเดีย" และ "ศิลปะกรีก"
• ศิลปะแบบจีน: ต่อมา พระพุทธรูป ในถ้ำหินหยุนกัง ได้ "พัฒนา" รูปแบบ เป็น "ศิลปะแบบจีน" มากขึ้น
• ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม: ถ้ำหินหยุนกัง เป็น "บันทึก" ทาง "ประวัติศาสตร์" และ "วัฒนธรรม" ที่สำคัญ ของ "ราชวงศ์เว่ยเหนือ"

สถาปัตยกรรม และศิลปะ

ถ้ำหินหยุนกัง ประกอบด้วยถ้ำน้อยใหญ่ กว่า 53 ถ้ำ ความยาวจากทิศตะวันออก ถึง ทิศตะวันตก ประมาณ 1 กิโลเมตร ภายในถ้ำ มี "พระพุทธรูปแกะสลัก" กว่า 51,000 องค์ และ "งานแกะสลักหิน" อื่นๆ อีกมากมาย

• พระพุทธรูปแกะสลัก: พระพุทธรูป มีขนาด "แตกต่างกันไป" ตั้งแต่ "องค์เล็ก" เพียงไม่กี่เซนติเมตร ไปจนถึง "องค์ใหญ่" สูงกว่า 17 เมตร เช่น "พระพุทธรูปองค์ที่ 5" ใน "ถ้ำที่ 5" พระพุทธรูป เหล่านี้ แสดงถึง "พุทธลักษณะ" และ "รูปแบบศิลปะ" ในยุคสมัยต่างๆ
• งานแกะสลักหิน: นอกจาก "พระพุทธรูป" แล้ว ยังมี "งานแกะสลักหิน" อื่นๆ เช่น "เทพเจ้า พระโพธิสัตว์ อัปสรส และ ลวดลาย" ต่างๆ ที่ "วิจิตรบรรจง"
• จิตรกรรมฝาผนัง: ในบางถ้ำ ยังมี "จิตรกรรมฝาผนัง" ที่ "สวยงาม" หลงเหลืออยู่

ถ้ำที่สำคัญ

• ถ้ำที่ 5 และ 6: เป็นถ้ำที่ "ใหญ่ที่สุด" ในถ้ำหินหยุนกัง ภายใน "ถ้ำที่ 5" มี "พระพุทธรูปองค์ที่ 5" ซึ่งเป็นพระพุทธรูป ที่ "ใหญ่ที่สุด" ในถ้ำหินหยุนกัง สูง 17 เมตร ส่วน "ถ้ำที่ 6" มี "พระพุทธรูป" จำนวนมาก และ "งานแกะสลักหิน" ที่ "วิจิตรบรรจง"
• ถ้ำที่ 7 และ 8: เป็นถ้ำที่ "สวยงาม" ที่สุด ในถ้ำหินหยุนกัง ภายใน "ถ้ำที่ 7" มี "พระพุทธรูป" และ "พระโพธิสัตว์" แกะสลัก จาก "หินทรายสีแดง" ส่วน "ถ้ำที่ 8" มี "พระพุทธรูป" และ "อัปสรส" แกะสลัก จาก "หินทรายสีขาว"
• ถ้ำที่ 16 - 20: เป็นกลุ่มถ้ำที่ "โดดเด่น" ด้วย "ซุ้มประตู" แกะสลัก ที่ "วิจิตรบรรจง"
• ถ้ำที่ 39: เป็นถ้ำที่ "สำคัญ" ทาง "ประวัติศาสตร์" เพราะเชื่อกันว่า เป็นถ้ำที่ "พระภิกษุ ตันเหยา" ใช้เป็นที่ "ปฏิบัติธรรม"

การอนุรักษ์ และ การจัดการ

ถ้ำหินหยุนกัง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น "มรดกโลก" โดยองค์การยูเนสโก ในปี พ.ศ. 2544 (ค.ศ. 2001) เพื่อ "อนุรักษ์" และ "คุ้มครอง" มรดกทางวัฒนธรรม อันล้ำค่านี้

• การจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว: เพื่อป้องกัน "ความเสียหาย" จาก "ความชื้น" และ "มลภาวะ" มีการ "จำกัด" จำนวน "นักท่องเที่ยว" ที่เข้าชมถ้ำ ในแต่ละวัน
• การควบคุมสภาพแวดล้อม: มีการติดตั้งระบบ "ควบคุมอุณหภูมิ" และ "ความชื้น" ภายในถ้ำ เพื่อ "รักษาสภาพ" ของ "งานแกะสลักหิน"
• การบูร

  ณะ และ ซ่อมแซม: มีการ "บูรณะ" และ "ซ่อมแซม" ถ้ำ และ งานศิลปะ ที่ "ชำรุด" "เสียหาย" อย่างต่อเนื่อง

  • การวิจัย และ ศึกษา: มีการ "วิจัย" และ "ศึกษา" ถ้ำหินหยุนกัง อย่างต่อเนื่อง เพื่อ "ทำความเข้าใจ" ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และ วัฒนธรรม ที่เกี่ยวข้อง

  การจัดแสดงแสงสี (Yungang Grottoes Night Tour)

  ในช่วงเย็น จะมีการ "จัดแสดงแสงสี" ที่ "สวยงาม" และ "น่าตื่นตาตื่นใจ" โดยใช้ "เทคโนโลยี" ที่ทันสมัย ฉายแสง "หลากสี" ไปยัง "พระพุทธรูป" และ "งานแกะสลักหิน" ทำให้ "งานศิลปะ" ดูมีชีวิตชีวา ยิ่งขึ้น

  ข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยว

  • เวลาเปิด-ปิด: ถ้ำหินหยุนกัง เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 17.00 น. (เดือนเมษายน - ตุลาคม) และ 08.30 - 16.30 น. (เดือนพฤศจิกายน - มีนาคม)
  • ค่าเข้าชม: ค่าเข้าชม 120 หยวน (ช่วงไฮซีซั่น) และ 100 หยวน (ช่วงโลว์ซีซั่น)
  • การเดินทาง: นักท่องเที่ยวสามารถเดินทาง โดย "รถไฟความเร็วสูง" จาก "เมืองปักกิ่ง" (Beijing) มายัง "เมืองต้าถง" (Datong) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้น สามารถนั่ง "รถบัส" หรือ "แท็กซี่" ไปยังถ้ำหินหยุนกัง
  • สิ่งอำนวยความสะดวก: มี "ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และ ห้องน้ำ" ไว้คอยบริการ

  แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง

  • กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China): "กำแพงเมืองจีน" ช่วง "ด่านจีหยงกวน" (Jiayuguan Pass) อยู่ห่างจากเมืองต้าถง ประมาณ 300 กิโลเมตร
  • วัดแขวน (Hanging Temple): เป็นวัดพุทธ ที่ "สร้าง" อยู่บน "หน้าผา" สูงชัน
  • พระราชวัง Huayan Temple: เป็นวัดพุทธ ที่ "ใหญ่ที่สุด" และ "สวยงามที่สุด" ในเมืองต้าถง
  • พิพิธภัณฑ์ต้าถง (Datong Museum): เป็นพิพิธภัณฑ์ ที่ "จัดแสดง" โบราณวัตถุ และ ประวัติศาสตร์ ของเมืองต้าถง

  บทสรุป

  ถ้ำหินหยุนกัง เป็น "แหล่งมรดกโลก" ที่ "ทรงคุณค่า" ทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ และ วัฒนธรรม เป็น "สถานที่ท่องเที่ยว" ที่ "ควรค่า" แก่การ "เยี่ยมชม" และ "เรียนรู้" เพื่อสัมผัส และ ชื่นชม ความงดงาม ของ "พุทธศิลป์" ที่ **"ยิ่งใหญ่" และ "ทรงพลัง"

.

หมายเหตุ บทความนี้เกี่ยวกับ

ถ้ำที่สำคัญและยิ่งใหญ่ในประเทศจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่ง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจธรรมชาติและประวัติศาสตร์จีน ประเทศจีนมีภูมิประเทศที่หลากหลายและกว้างใหญ่ ทำให้เกิดถ้ำที่มีความงดงามทางธรรมชาติและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในหลากหลายพื้นที่ ตั้งแต่ถ้ำหินปูนที่มีการตกแต่งโดยธรรมชาติ ไปจนถึงถ้ำที่มีการแกะสลักพระพุทธรูปและโบราณวัตถุจากยุคก่อนประวัติศาสตร์