ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมของอุตสาหกรรมไทย 4.0 มิติ 1 เทคโนโลยี (Technology)
มิติย่อยที่ 03 ระบบตโนมัติระบบอัตโนมัติ ในงานอำนวยความสะดวก (Facility Automation)
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมของอุตสาหกรรมไทย 4.0 มิติ 1 เทคโนโลยี (Technology) คือ ระบบการผลิตที่เป็น ระบบบริหารจัดการและจัดเก็บข้อมูลระบบ การจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกที่รูปแบบการทำงานอัตโนมัติระบบควบคุมเครือข่ายที่เชื่อมต่อกันแบบต่อเนื่องแบบไร้รอยต่อ 6 ย่อยย่อย
มิติย่อยที่ 03 ระบบอัตโนมัติ ในงานอำนวยความสะดวก (Facility Automation) พิจารณาที่เทคโนโลยีที่ใซในการควบคุมหรือเฝืาติดตามการทำงานของระบบ / เครื่องจักร / อุปกรณ์ ที่ดูแลสถานที่ / อาคาร / สิ่งปลูกสร้าง ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจขององค์กร เทคโนโลยีในกลุ่ม เช่น ระบบการจัดการ HVAC, ระบบปรับอากาศ, ระบบดูแลความปลอดภัยอาคาร ระบบสาธารณูปโภค (น้ำ ไฟ ความร้อน) ระบบแสงสว่าง และระบบจัดการนํ้าเสีย เป็นต้น
ระบบอัตโนมัติในงานอำนวยความสะดวก (Facility Automation) มักใช้ในการควบคุมและจัดการระบบและสิ่งแวดล้อมทางก่อสร้างและอำนวยความสะดวกในอาคารหรือสถานที่อื่น ๆ ตัวอย่างด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างของ hardware และ software ที่สามารถนำเข้าในระบบอัตโนมัติในงานอำนวยความสะดวก
ตัวอย่างระบบอัตโนมัติในงานการผลิตที่เกี่ยวข้องกับตัวผลิตกัณฑ์ ประกอบด้วย
อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ (Hardware) เช่น
- ระบบควบคุมแสง (Lighting Control System) ใช้ในการควบคุมการเปิด-ปิดและควบคุมความสว่างในห้องหรืออาคาร
- ระบบควบคุมอากาศ (HVAC Control System) ใช้ในการควบคุมอากาศที่ถูกตั้งค่า, ความชื้น, และอุณหภูมิในอาคาร.
- ระบบควบคุมการเข้าถึง (Access Control System) ใช้ในการควบคุมการเข้าถึงสถานที่ด้วยระบบควบคุม ระบบที่ใช้ควบคุมการเข้าออกของบุคคลและยานพาหนะ
- ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV System) ใช้ในการติดตามและรักษาความปลอดภัยในอาคารหรือสถานที่
- ระบบประกาศเสียง (Public Address System) ใช้ในการแจ้งเตือน, ประกาศ, และเล่นเสียงในอาคาร.
- ระบบควบคุมการจ่ายพลังงานไฟฟ้า (Energy Management System) ใช้ในการควบคุมการจ่ายไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์และระบบในอาคาร.
- อุปกรณ์อนุรักษ์พลังงาน (Energy Conservation Devices) เช่น หลอดไฟ LED, อุปกรณ์ประหยัดน้ำ, และอื่น ๆ ที่ช่วยประหยัดพลังงานในอาคาร.
- ระบบจัดเก็บน้ำฝน (Rainwater Harvesting System) ใช้ในการเก็บน้ำฝนสำหรับใช้ในการรดน้ำสวนหรือในสถานที่อื่น ๆ.
- ระบบสื่อสารภายใน (Intercom System) ใช้ในการสื่อสารภายในอาคารหรือสถานที่ให้ความสะดวก.
- ระบบจัดการสิ่งแวดล้อม (Environmental Control System) ใช้ในการควบคุมและจัดการสิ่งแวดล้อมเช่นการควบคุมฝุ่นละออง, ความเย็น, และคุณภาพอากาศ
- ระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้น (HVAC System) ระบบที่ใช้ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นภายในอาคาร
- ระบบไฟส่องสว่างอัตโนมัติ (Automated Lighting System) ระบบที่ใช้เปิด-ปิดไฟอัตโนมัติตามความจำเป็น
- ระบบรักษาความปลอดภัย (Security System) ระบบที่ใช้ตรวจจับและป้องกันการบุกรุก
- ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ (Fire Alarm System) ระบบที่ใช้ตรวจจับและแจ้งเตือนการเกิดเพลิงไหม้
- ระบบสุขาภิบาล (Sanitation System) ระบบที่ใช้รักษาความสะอาดและสุขอนามัย
- ระบบขนส่งวัสดุภายในอาคาร (Internal Material Handling System) ระบบที่ใช้ขนส่งวัสดุภายในอาคาร
- ระบบบริหารจัดการอาคาร (Building Management System) ระบบที่ใช้ควบคุมและจัดการระบบต่างๆ ภายในอาคาร
โปรแกรมซอฟต์แวร์ (Software)
- ระบบควบคุมแสงอัตโนมัติ (Automatic Lighting Control Software) ใช้ในการกำหนดเวลา, ควบคุมความสว่าง, และประหยัดพลังงานในระบบแสง.
- ระบบควบคุมอากาศอัตโนมัติ (Automatic HVAC Control Software) ใช้ในการควบคุมอากาศในระบบอัตโนมัติเพื่อประหยัดพลังงาน.
- ระบบจัดการการเข้าถึงอัตโนมัติ (Automatic Access Control Software) ใช้ในการควบคุมการเข้าถึงด้วยการใช้การพิสและการระบบควบคุมอัตโนมัติ.
- ระบบจัดการข้อมูลระบบการเข้าถึง (Access Control Data Management Software) ใช้ในการจัดการข้อมูลผู้ใช้และการเข้าถึง.
- ซอฟต์แวร์สิ่งแวดล้อม (Environmental Software) ใช้ในการควบคุมและจัดการสิ่งแวดล้อมเช่นคุณภาพอากาศและความเย็น.
- ระบบจัดการพลังงาน (Energy Management Software) ใช้ในการควบคุมการจ่ายพลังงานไฟฟ้าและการประหยัดพลังงานในอาคาร.
- ระบบจัดการการสื่อสาร (Intercom Management Software) ใช้ในการควบคุมการสื่อสารภายในอาคาร.
- ซอฟต์แวร์รายงานความปลอดภัย (Security Reporting Software) ใช้ในการสรุปข้อมูลความปลอดภัยจากระบบกล้องวงจรปิดและระบบควบคุมการเข้าถึง.
- ซอฟต์แวร์การจัดการน้ำฝน (Rainwater Management Software) ใช้ในการควบคุมการเก็บน้ำฝนและการใช้ในการรดน้ำ.
- ระบบจัดการสายโทรศัพท์ (Telephony Management System) ใช้ในการควบคุมการใช้งานสายโทรศัพท์ในอาคารหรือสถานที่.
- ซอฟต์แวร์ควบคุม HVAC (HVAC Control Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ควบคุมระบบ HVAC
- ซอฟต์แวร์ควบคุมไฟส่องสว่าง (Lighting Control Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ควบคุมระบบไฟส่องสว่าง
- ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย (Security Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ควบคุมระบบรักษาความปลอดภัย
- ซอฟต์แวร์กล้องวงจรปิด (CCTV Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้บันทึกภาพและวิดีโอจากระบบ CCTV
- ซอฟต์แวร์ควบคุมการเข้าออก (Access Control Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ควบคุมระบบควบคุมการเข้าออก
- ซอฟต์แวร์ดับเพลิงอัตโนมัติ (Fire Alarm Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ควบคุมระบบดับเพลิงอัตโนมัติ
- ซอฟต์แวร์สุขาภิบาล (Sanitation Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ควบคุมระบบสุขาภิบาล
- ซอฟต์แวร์ขนส่งวัสดุภายในอาคาร (Internal Material Handling Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ควบคุมระบบขนส่งวัสดุภายในอาคาร
- ซอฟต์แวร์บริหารจัดการอาคาร (Building Management Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ควบคุมและจัดการระบบต่างๆ ภายในอาคาร
ระบบอัตโนมัติในงานอำนวยความสะดวก ช่วยในการลดค่าใช้จ่าย, ประหยัดพลังงาน, และเพิ่มความปลอดภัยและสะดวกสบายในอาคารและสถานที่ต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างการใช้งานระบบอัตโนมัติในงานอำนวยความสะดวก ในอุตสาหกรรมการผลิต เช่น
- การใช้ระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้น (HVAC System) เพื่อควบคุมอุณหภูมิและความชื้นภายในอาคารให้เหมาะสมกับการผลิต
- การใช้ระบบไฟส่องสว่างอัตโนมัติ (Automated Lighting System) เพื่อประหยัดพลังงานและลดต้นทุน
- การใช้ระบบรักษาความปลอดภัย (Security System) เพื่อป้องกันการบุกรุกและความเสียหายต่อทรัพย์สิน
- การใช้ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV System) เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยและรักษาความปลอดภัย
- การใช้ระบบควบคุมการเข้าออก (Access Control System) เพื่อควบคุมการเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ในโรงงาน
- การใช้ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ (Fire Alarm System) เพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากอัคคีภัย
- การใช้ระบบสุขาภิบาล (Sanitation System) เพื่อรักษาความสะอาดและสุขอนามัยของพนักงานและโรงงาน
- การใช้ระบบขนส่งวัสดุภายในอาคาร (Internal Material Handling System) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งวัสดุและสินค้า
- การใช้ซอฟต์แวร์บริหารจัดการอาคาร (Building Management System) เพื่อควบคุมและจัดการระบบต่างๆ ภายในอาคาร
- ระบบอัตโนมัติในงานอำนวยความสะดวกสามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และต้นทุนในการดำเนินงานของโรงงานอุตสาหกรรมได้
นอกจากตัวอย่างข้างต้นแล้ว ยังมีระบบอัตโนมัติในงานอำนวยความสะดวกอีกมากมายที่สามารถใช้กับอุตสาหกรรมการผลิตได้ เช่น
- ระบบควบคุมการใช้พลังงาน (Energy Management System) ระบบที่ใช้ควบคุมการใช้พลังงานในโรงงาน
- ระบบติดตามการใช้พลังงาน (Energy Monitoring System) ระบบที่ใช้ติดตามการใช้พลังงานในโรงงาน
- ระบบจัดการขยะ (Waste Management System) ระบบที่ใช้จัดการขยะในโรงงาน
- ระบบจัดการน้ำ (Water Management System) ระบบที่ใช้จัดการน้ำในโรงงาน
- ระบบจัดการสิ่งแวดล้อม (Environmental Management System) ระบบที่ใช้จัดการสิ่งแวดล้อมในโรงงาน
การเลือกระบบอัตโนมัติที่เหมาะสมกับโรงงานนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดของโรงงาน ประเภทของการผลิต งบประมาณ และเป้าหมายที่ต้องการบรรลุ
รายละเอียดในการประเมินเพื่อจัดระดับความพร้อม ดังนี้
Band |
นิยาม |
คำอธิบายเพิ่มเติม |
1 Labour oriented |
Facility ขององค์กรไม่ได้ทำงานหรือถูกควบคุมแบบอัตโนมัติ |
Facility ขององค์กรถูกควบคุมการทำงานโดยพนักงานเป็นหลัก หรือมีระบบอัตโนมัติใช้แต่น้อยกว่า 20% ของ กระบวนการทั้งหมด |
2 Partial automation |
Facility ขององค์กรมากกว่า 20% แต่ไม่เกิน 80% ถูกควบคุมการทำงาน แบบอัตโนมัติ (ครอบคลุมทั้งการควบคุมด้วยทางกล ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิคส์ หรือระบบคอมพิวเตอร์) |
องค์กรเริ่มเอาระบบอัตโนมัติมาใช้ควบคุมการทำงานของ Facility โดยระบบอัตโนมัติยังเป็นลักษณะที่พนักงาน ต้องสั่งเริ่มต้น-สิ้นสุดการทำงาน เช่น ระบบ Central Air |
3 Automation oriented |
Facility ขององค์กรมากกว่า 80% ถูกควบคุมการทำงานแบบอัตโนมัติ |
Facility ขององค์กรเกือบทั้งหมดถูกควบคุมโดยระบบอัตโนมัติ โดยระบบอัตโนมัตินั้นยังแยก Platform กันอยู่ |
4 Integrated automation |
Facility ขององค์กรทำงานเป็นระบบอัตโนมัติ โดยมีการแทรกแซงจาก พนักงานเมื่อจำเป็น |
Facility ขององค์กรดำเนินการแบบอัตโนมัติโดยสมบูรณ์ระหว่างระบบต่างๆ เช่น ระบบ Building Automation System (BAS) ที่จัดการระบบสาธารณปโภค (อุณหภูมิ แสง การใช้พลังงาน น้ำ) ระบบ Safety & Security ฯลฯ ให้อยู่บน platform เดียวกัน หรือมีการส่งต่อการทำงานระหว่าง Platform ได้โดยสะดวก |
5 Flexible automation |
Facility และระบบอัตโนมัติที่จัดการ Facility ขององค์กรนั้น สามารถ ปรับเปลี่ยนได้โดยมีผลกระทบจำกัด |
Facility ที่ออกแบบไว้ หรือระบบอัตโนมัติที่ควบคุมการทำงานนั้น มี feature รองรับการปรับเปลี่ยนคุณสมบัติ การทำงานได้โดยง่าย เช่น ผ่าน user interface ที่สะดวกต่อพนักงานในการปรับเปลี่ยนค่า configure ของระบบ |
6 Company-wide automation |
ระบบอัตโนมัติที่ควบคุมการทำงานของ Facility นั้น เชื่อมโยงข้อมูลร่วมกับ Platforms ของระบบอัตโนมัติระดับ Shop Floor และระบบอัตโนมัติ ระดับ Enterprise ทำให้เกิดเป็นโครงข่ายอัจฉริยะ (Autonomous Networks) |
ระบบอัตโนมัติทั้ง 3 domain ในองค์กร คือ Shop Floor, Enterprise และ Facility สามารแลกเปลี่ยนเชื่อมโยง ข้อมูลเพื่อทำงานร่วมกันได้ เช่น ระบบ BAS ที่ดึงข้อมูลแผนการผลิต เพื่อนำมาปรับค่า Temp., pressure และ %Rh ในห้องผลิตให้เหมาะสมกับการผลิตในครั้งนั้น ๆ |
-
---------------------------------------------
สนใจข้อมูลเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่นี่
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมอุตสาหกรรมไทย 4.0 (Thailand I 4.0 Index)
-------------------------------------------------
ที่มาข้อมูล
-------------------------------------------------
ข้อมูลที่น่าสนใจประวัติศาสตร์อุตสาหกรรม 4.0 ที่นี่ที่นี่
อุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) รวมข้อมูล-------------------------------------------------