ทำไมต้องใช้ Cloud Computing
แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) รวมถึงการเติบโตของการใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่ทั้งแท็บเล็ต สมาร์ทโฟน ผนวกรวมกับการให้บริการเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายแบบ 3G ที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างให้ได้ใช้บริการในปัจจุบัน ทำให้ความต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่เหล่านั้นมีความนิยมเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีการใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาลในแต่ละวัน บริการ Cloud Computing จึงเข้ามามีบทบาทในการบริหารจัดการข้อมูล และการรับฝากข้อมูลเพื่อความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลจากอุปกรณ์เคลื่อนที่เหล่านั้น ปัจจัยทางด้านเทคโนโลยีจึงมีความสำคัญต่อการให้บริการ Cloud Computing อย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก นอกจากนั้น ยังมี Emerging technology ใหม่ๆ ที่ช่วยสนับสนุนการทำงานขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังจะเห็นได้จากแนวโน้มเทคโนโลยีเด่นของ Gartner (Top 10 strategic technology trends) ที่คาดว่าจะมีผลต่อองค์กรและภาคธุรกิจ ดังนี้
แนวโน้มเทคโนโลยี
Mobile Device Battles: กระแสความนิยมของสมาร์ทโฟนจะได้รับความนิยมสูงขึ้นจากกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปที่นิยมใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งจะทำให้เกิดการแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดระหว่างเครื่องโทรศัพท์สมาร์ฑโฟน ทั้งแพลตฟอร์ม Android, IOS และ Windows 8 รวมถึงการแย่งซิงส่วนแบ่งตลาดระหว่างเครื่องโทรศัพท์สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ส่งผลให้การทำธุรกิจต้องมีระบบที่รองรับการใช้งานผ่านเครื่องพีซี สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตไปพร้อมๆ กัน
Mobile Applications and HTML5: การพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ จะเริ่มมีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น โดยเริ่มจากการพัฒนาแอพพลิเคชั่นแบบเดิม (Native-application) และผสมผสานหลายแพลตฟอร์ม (Hybrid-application) ไปจนถึงแอพพลิเกชั่นบุนแพลตฟอร์ม HTML5 หรือ เทศโนโลยีการเขียนเว็บไซต์แนบใหม่ทั้งชุดภาษาและ AP (Application Program Inteface) ที่ใช้ในการพัฒนาแอพพลิเคชั่น
Personal Cloud: การที่ผู้ใช้งานก็บข้อมูลส่วนตัวในรูปแบบดิจิทัสผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา และสามารถเรียกใช้ข้อมูลที่เก็บไว้จากอุปกรณ์ใดก็ได้ ปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมอย่างมากไม่ว้นแม้แต่ประเทศไทย
The Internet of Things: ความสามารถในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ โดยอาศัย Embedded senรors เช่น การจ่ายเงินด้วยโทรศัพท์มื่อถือ อุปกรณ์นำทางในรถยนต์ ไปจนกระทั่งสมาร์ททีวีที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ไม่ต่างจากการเชื่อมต่อผ่านคอมพิวเตอร์
Hybrid IT and Cloud Computing: Cloud Computing เป็นเทคโนโลยีที่ติดอันดับต้นของเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจขององค์กรสำหรับปี 2013 ซึ่งGartner ได้ให้ความสำคัญกับ Cloud Computing เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันเริ่มมีการประยุกต์และผสมผสานการใช้งานทางด้าน I หรือ Hybrid IT เพิ่มมากขึ้น
Strategic Big Data: กลยุทธ์องค์กรจะเปลี่ยนจากการทำโครงการเดี่ยวมาเป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการใช้งานข้อมูลขนาดใหญ่ภายในองค์กร ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีในการบริหารจัดการข้อมูล และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีความหลากหลาย และซับซ้อนมากขึ้น
Actionable Analytics: การที่มีความนิยมใช้ Mobile devices, Social technology และ Big data ส่งผลให้กระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลจะเปลี่ยนจาก Offline analytics เป็น In-line embedded analytics โดยที่ผู้ใช้สามารถดึงผลการวิเคราะห์ข้อมูลผ่านโทรศัพท์มือถือได้ทุกที่ทุกเวลา
Mainstream In-Memory Computing: การประมวลผลข้อมูลที่เคยใช้เวลานานหลายชั่วโมงจะเหลือเพียงไม่กี่นาที หรือ อาจเหลือเพียงไม่กี่วินาที ดังนั้น จะเกิดบริการใหม่ๆ บนระบบ Cloud Computing แบบเรียลไทม์
Integrated Ecosystemร: การให้บริการระบบ T จะเริ่มเปลี่ยนจากระบบการให้บริการที่มีความเฉพาะด้านมาเป็นแบบ Integrated systems เนื่องจากผู้ใช้มืความต้องการระบบที่ง่ายต่อการใช้งาน ราคาถูก และมีความมั่นคงปลอดภัย โดยประกอบด้วย 3 ด้านของการใช้งานรูปแบบใหม่ ได้แก่
1) การรวมฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน
2) การใช้ Cloud-based marketplaces เช่น Salesforce.com
3) End-to-end ecosystems เช่น การให้บริการ Cloud ของ Apple เป็นต้น
Enterprise App Stores: เทรนด์เทคโนโลยีนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจขององค์กร ด้วยการเปิดให้บุคลากรภายในองค์กรสามารถเชื่อมต่อและเข้าถึงข้อมูลองค์กรได้ด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ส่วนบุคคล หรือ BYOD (Bring your own device)
ที่มาข้อมูล
---------------------------------
สนใจเรื่องราวเพิ่มเติมคลิกที่นี่