erp วิวัฒนาการ ระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP)

ERP วิวัฒนาการ ระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP)

วิวัฒนาการ ระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) แบ่งออกเป็น 5 ยุคได้แก่

ยุคที่ 1 ระบบการวางแผนความต้องการทรัพยากรในการผลิต (Material Requirement Planning, MRP)  เริ่มจากฝ่ายผลิตในภาคอุตสาหกรรมในอเมริกายุคต้นของทศวรรษ 1960 ได้พัฒนา ระบบการวางแผนความต้องการทรัพยากรในการการผลิต ในช่วงแรก MRP เป็นวิธีการในการหาชนิดและจำนวนวัสดุที่ต้องใช้ในการผลิตตามตารางเวลา และจำนวนสินค้าที่ได้วางแผนโดย MPS (Master Production Schedule) MRP เป็นเทคนิคในการจัดการ ที่สามารถหารายการวัสดุที่ต้องใช้ในการผลิตสินค้าสำเร็จรูป ตามแผนการผลิตหลักที่ได้วางไว้ โดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย สามารถสร้างใบรายการวัสดุ (Bill of Material, BOM) ได้อย่างรวดเร็ว และสามารถบอกชนิดของวัสดุ จำนวนที่ต้องการ และเวลาที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ 

แต่วิธี MRP นี้ไม่มีความสามารถในการตรวจสอบหาข้อแตกต่างระหว่างแผนการผลิตกับสภาพการผลิตจริงที่ shop floor เนื่องจากไม่มีฟังก์ชั่นเกี่ยวกับการป้อนกลับข้อมูลกลับมาปรับแผนใหม่ อย่างไรก็ตาม วิธี MRP ก็ยังดีกว่าวิธีการควบคุมสินค้าคงคลังแบบเดิม ช่วยให้สามารถลดจำนวนวัสดุคงคลัง และยกประสิทธิภาพการวางแผนการผลิตและการสั่งซื้อวัตถุดิบได้เป็นอย่างดี 

ยุคที่ 2 ระบบการวางแผนความต้องการทรัพยากรในการผลิต แบบระบบปิด (Closed Loop MRP) ประมาณช่วงปี 1970 MRP ได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถในการป้อนกลับข้อมูลการผลิตจริงใน shop floor ได้ และยังเพิ่มแนวคิดเรื่อง การวางแผนความต้องการกำลังการผลิต (Capacity Requirement Planning) MRP จึงได้วิวัฒนาการโดยรวมเอาความสามารถรับ feed back จากฝ่ายการผลิตและ CRP จะรวมการวางแผนการผลิตและการบริหารการผลิตเข้าเชื่อมโยงกัน จากที่เคยทำงานแยกกัน 

ยุคที่ 3 ระบบการวางแผนทรัพยากรในโรงงาน (Manufacturing Resource Planning, MRP II) ประมาณช่วงปี 1980 MRP ได้ขยายความสามารถโดยรวมการทำงานระบบต่างๆ ที่มีการทำงานในโรงงานมารวมเข้าด้วยกัน มีการวางแผนและบริหารทรัพยากรการผลิตที่เพิ่มความสามารถ ในขั้นนี้นอกจาก การวางแผนควบคุมกำลังการผลิต และแผนการใช้วัตถุดิบในการผลิต เข้าไปในระบบด้วย  MRP II ได้เพิ่มความสามารถไปอีกเช่น การวางแผนงบการจัดซื้อวัตถุดิบ การวางแผนต้นทุนสินค้าคงคลังของระบบบริหารสินค้าคงคลัง การวางแผนกำลังคนที่สัมพันธ์กับกำลังการผลิต ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับต้นทุนการผลิต ทำให้ MRP II เป็นระบบที่สามารถส่งข้อมูลทุกชนิด ที่ระบบบัญชีต้องการให้แก่ระบบบัญชีได้ MRP II ธุรกิจการผลิตสามารถที่จะวางแผนและบริหารระบบงานเช่น การขาย บัญชี บุคคล การผลิต และสินค้าคงคลังเข้าด้วยกัน ด้วยความสามารถนี้ทำให้ MRP II เริ่มถูกเรียกว่า BRP (Business Resource Planning) และเริ่มเป็นแนวคิดหลักของระบบ CIM (Computer Integrated Manufacturing) 

ยุคที่ 4 ระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร (Enterprise Resource Planning, ERP) ในยุคนี้ได้ขยายแนวคิดของ MRP II ให้สามารถใช้ได้ทั้งองค์กรธุรกิจที่เริ่มหลากหลาย โดยการรวมระบบงานหลักทุกอย่างในองค์กรเข้ามาเป็นระบบเดียวกัน สามารถตัดสินใจด้านธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแบบเรียลไทม์ โดยอาศัยข้อมูลทุกชนิดจากทุกระบบงานในองค์กรที่ระบบนำมาบันทึกเก็บไว้ในฐานข้อมูลรวมเดียวกัน แนวคิด ERP เกิดจากการขยาย MRP II ซึ่งเป็นระบบที่มีความสามารถในเพียงส่วนของการผลิต ให้เป็นระบบที่สามารถใช้งานครอบคุลมทั้งองค์กรบริษัท 

ยุคที่ 5 ในอนาคต ระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร (Enterprise Resource Planning, ERP) ในอนาคตอาจต้องมีการพัฒนาระบบงานให้สามารถตอบสนองอุตสาหกรรมยุค 4.0 และ ธุรกิจดิจิตอล (E-Business) มากยิ่งขึ้น โดยเน้นในด้านความรวดเร็วและทำให้ขอบเขตของการทำงานที่หลากหลาย เชื่อมโยงในทุกสิ่งของให้กว้างมากขึ้นไปกว่าเดิม คาดว่า ERP ก็จะมีวิวัฒนาการต่อไปอีก