CT51 การพัฒนาการ Outsourcing สู่การสร้างความร่วมมือระดับ Global: แนวทางใหม่สำหรับการสร้างความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรม (From Outsourcing to Global Collaboration: New Ways to Build Competitiveness)
ลิขสิทธิ์ © พ.ศ.2551 กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
ผู้เขียน ดร. พงษ์ธนา วณิชย์กอบจินดา
บทนำ
ผู้ผลิตในหลาย ๆ ประเภทอุตสาหกรรม ได้มองว่าวัตถุประสงค์หลักของการ Outsource เป็นการลดต้นทุนในกระบวนการทั้งในด้านภาคธุรกิจทั้งในด้านอุตสาหกรรมการผลิตและบริการ แต่ผู้ผลิตบางรายนั้นได้มองไปถึงโอกาสในการทำไร ทั้งในด้านของการออกแบบผลิตภัณฑ์ ความสามารถในการส่งสินค้าถึงผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว และช่องทางการตลาดใหม่ ซึ่งรูปแบบนี้ได้ถูกเรียกว่า Global Collaboration ซึ่งได้เป็นแนวทางใหม่ในการสร้างความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรม ซึ่งผลของการปรับเปลี่ยนจาก Traditional Outsourcing ไปเป็น Global Collaboration ได้แสดงดังแผนภาพที่ 1
แผนภาพที่ 1 ประโยชน์ที่ได้รับจากการเปลี่ยนแปลงจาก Traditional Outsourcing ไปเป็น Global Collaboration
ในบทความฉบับนี้ผู้จะนำเสนอแนวทางกลยุทธ์ในการเปลี่ยนจาก Traditional Outsourcing ไปเป็น Global Collaboration เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมไทย
การพัฒนากลยุทธ์ Global Collaboration
ในอดีตการทำการ Outsourcing หรือการทำ Global Collaboration อาจดูไม่ได้ต่างกันเนื่องจาก การพิจารณานั้นมีเพียงแค่การมองหาวัตถุดิบ ชิ้นส่วนสำหรับการประกอบขั้นสุดท้าย หรือ ผลิตภัณฑ์จากการจ้างเหมา ในที่ต่าง ๆ ของโลก ด้วยการพิจารณาที่ราคาที่ถูกกว่าเผื่อลดต้นทุนการผลิตในภาพรวมเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันทางด้านราคาเท่านั้น แต่ไม่ได้พิจารณาถึงส่วนต่าง ๆ หรือกิจกรรมอื่น ๆ หรือ ความเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการผลิต ดังแสดงในตัวอย่างในบทความที่ผ่านมาเรื่อง ”แนวทางการป้องกันเพื่อลดผลกระทบของความเสียหายเกิดในโซ่อุปทาน กรณีศึกษา Nokia” โดยที่ทั้ง Nokia และ Suppliers ของ Nokia ต่างพิจารณาทั้งการ Outsourcing เพื่อลดต้นทุนของตนเอง แต่มิได้พิจารณาถึงการ Collaborative ระหว่าง Nokia และ Suppliers เพื่อสื่อสารถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเช่นหากเกิดการส่ง Parts ไม่ทันและทำให้เกิดการผลิตล่าช้าซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายทั้งระบบ Supply Chain ดังนั้นในกลยุทธ์ในการพัฒนาการ Outsourcing เพื่อนำไปสู่ Global Collaboration ใน Supply Chain มีดังนี้ 1) Consider more than cost reduction; 2) Align global collaboration strategy with business strategy; 3) Strategies should be company-wide and multi-year; 4) Involve partners in the strategy process;
1. พิจารณาประโยชน์และโอกาสที่จะได้รับในการร่วมมือมากกว่าการลดต้นทุน (Consider more than cost reduction) Outsourcing นับว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญในการลดต้นทุน แต่อย่างไรก็ตามในการวางกลยุทธ์สำหรับ Global Collaboration จะต้องพิจารณาประโยชน์ และโอกาสที่จะได้รับในการ Collaborative อาทิเช่น การสร้างมูลค่าเพิ่มในผลิตภัณฑ์โดยการร่วมมือค้นคว้าร่วมกัน การวิจัยตลาดความต้องการที่เพิ่มขึ้นและลดลงที่แท้จริง การพัฒนาที่ก่อให้เกิดทรัพย์สินทางปัญญารวมถึงการจดสิทธิบัตร การพัฒนาความรู้ในการการผลิต การหาช่องทางการตลาดใหม่ ๆ และการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า
2. วางแนวกลยุทธ์ในการร่วมมือให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจ (Align global collaboration strategy with business strategy) ในงานวิจัยนี้ยังได้ให้ความสำคัญถึงการวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันระหว่างองค์กรให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจขององค์กรในการทำ Global Sourcing Strategy รวมถึงการทำ Research and Development (R&D) เช่นการพัฒนาระบบการผลิตที่สนับสนุนผลิตภัณฑ์ หรือระบบ Handling ทำให้มีประสิทธิภาพในการผลิตดีขึ้น หรือแม้กระทั่งการร่วมกันพัฒนาในด้านทรัพย์สินทางปัญหาการจดสิทธิบัตรของผลิตภัณฑ์
3. กลยุทธ์ความร่วมมือควรเป็นระดับองค์กร และเป็นการร่วมมือในระยะยาว (Strategies should be company-wide and multi-year) ในการวางแผนความร่วมมือนี้ไม่ใช่เพียงแค่ระดับของโครงการหรือแค่หนึ่งชิ้นงานแต่ควรร่วมมือกันแผนระดับขององค์กร และเป็นการร่วมมือในระยะยาว เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของธุรกิจในอนาคตโดยมีการแสดงถึงวัตถุประสงค์ของกลยุทธ์ในการทำความร่วมมือในระดับองค์กร และระดับธุรกิจ ได้แก่
- จากเพียงแค่การ Outsourcing เปลี่ยนเป็นกระบวนการวางแผนทางธุรกิจ การจัดการทรัพย์สินทางปัญญา การทำสัญญาร่วมกันในการร่วมมือเพื่อผลประโยชน์และโอกาส
- ร่วมมือกันในการพัฒนาบุคลากรร่วมกัน หรือการวางแผนงานร่วมกัน
- การพัฒนากลยุทธ์การเป็น Partnership ซึ่งกันและกัน
เป็นต้น
องค์กรต่าง ๆ และผู้ผลิตที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ล้วนแต่มีการวางแผนในลักษณะของ Global Collaboration มากกว่าการ Outsourcing ซึ่งสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน องค์กรที่ได้ใช้กลยุทธ์และเป็นที่รู้จักดีได้แก่ Toyota รวมถึงทีได้กล่าวมาในบทความก่อนหน้านี้ได้แก่ Nokia
4. ร่วมมือกับ Partners ในการวางแผน และตรวจสอบกระบวนการ (Involve partners in the strategy process and Monitoring) ควรมีการวางแผนกระบวนการผลิตร่วมกันรวมถึงการตรวจสอบเพื่อป้องกันการผิดพลาด เนื่องการความผิดพลาดที่เกิดขึ้นใน Supply Chain จะส่งผลกระทบต่อทั้ง Supplier & Manufacturer ทั้งก่อนหน้าและตามหลัง ดังนั้นในการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพควรมีการวางแผนในระบบการผลิตร่วมกัน และวางแผนการตรวจสอบสถานะของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ และมีการ Tracking สถานะผลิตภัณฑ์ได้อย่าง Real Time
สรุป
จากอดีตที่ผู้ผลิตต่าง ๆ ต่างมองว่าการ Outsourcing หรือแม้กระทั่งการทำ Global Sourcing จะเป็นการช่วยลดต้นทุนในการผลิตเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันลงได้ แต่อย่างไรก็ตามการ Outsourcing และ Global Sourcing ที่ไม่ได้มีการวางแผนร่วมกันอาจทำให้เกิดความเสี่ยงหรือความเสียในระบบ Supply Chain ของอุตสาหกรรมการผลิตนั้นๆ ด้วยสามารถสาเหตุเช่น วัตถุดิบไม่สามารถส่งถึงผู้ผลิตได้ตามกำหนดการนัดหมาย ปัญหาด้านคุณภาพ หรือแม้กระทั้งการเกิด Bottleneck ในระบบการผลิตเนื่องมากการคาดการณ์ปริมาณการผลิตผิดพลาดหรือการมีคำสั่งซื้อเข้ามากจนเกินความสามารถในการผลิต ณ ปัจจุบัน ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในการผลิตในระบบการผลิตหรือโรงงานผลิตถัด ๆ ไป
ดังนั้นในปัจจุบันจึงผู้ผลิตจึงได้มีการทำสร้างความร่วมมือระหว่างองค์กร (Collaboration) กับ Supplier หรือ Outsourcer โดยมีการร่วมมือกันวางแผนการผลิต การออกแบบระบบการผลิตที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ การวิจัยผลิตภัณฑ์ การร่วมมือพัฒนาด้านทรัพย์สินทางปัญญาและการจดสิทธิบัตร การวิจัยความต้องการของลูกค้า และการมองหาช่องทางการตลาดใหม่ วิธีนี้จะสามารถลดต้นทุนของทั้งกระบวนการผลิตและยังป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นซึ่งจะนำไปสู่ความสามารถในการแข่งขันที่ยั่งยืนขององค์กรได้อีกด้วย
เอกสารอ้างอิง
Allee V., 2006, Collaboration, Innovation, and Value in Global Telecom, The Learning Organization, Vol. 13, No. 6, pp. 569 – 578.
MacCormack A, Forbath T, Brooks P, and Kalaher P, 2007, From Outsourcing to Global Collaboration: A New Way to Build Competitiveness, Harvard Business School Press, Boston, MA
--------------------------------
สนใจบทความฉบับสมบูรณ์เพิ่มเติม ดาวน์โหลดที่เอกสารแนบด้านล่าง
สนใจบทความอื่นในชุดนี้คลิกดูได้ตามหัวข้อด้านล่าง
CT51 เอกสารเผยแพร่เรื่อง “การจัดการโลจิสติกส์เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน” ปี 2551
เอกสารเผยแพร่เรื่อง “การจัดการโลจิสติกส์เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ปี 2551” จึงเป็นการนำบทความดังกล่าวที่น่าสนใจจำนวน 80 บทความ นำมาจัดทำเป็นรูปเล่มเพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สะดวกสำหรับผู้สนใจในการศึกษากรณีศึกษาความรู้ด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิผล
--------------------------------
ที่มา
เอกสารเผยแพร่เรื่อง “การจัดการโลจิสติกส์เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน” ปี 2551
โดย สำนักโลจิสติกส์ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่