UGG Thailand 2021 อุทยานธรณีโลก โคราช (Korat Geopark)
อุทยานธรณีโลกยูเนสโก โคราช (Korat Geopark) อัญมณีแห่งการอนุรักษ์และท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยา
แผนที่: https://maps.app.goo.gl/HQmPQVgh6mut3Rkq8
อุทยานธรณีโลกยูเนสโก โคราช (Korat UNESCO Global Geopark) "ดินแดนแห่งบรรพชีวิน เควสตา และฟอสซิลสุดมหัศจรรย์"
ตำแหน่งที่ตั้งพิกัด Google Maps: https://maps.app.goo.gl/G2bygRPEN3pSKfZ78
อุทยานธรณีโลกยูเนสโก โคราช (Korat UNESCO Global Geopark) ตั้งอยู่ใน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยคุณค่าและความสำคัญในระดับโลกในด้านธรณีวิทยา บรรพชีวินวิทยา และวัฒนธรรม อุทยานแห่งนี้ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกให้เป็น "อุทยานธรณีโลก" เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 นับเป็นแห่งที่สองของประเทศไทยต่อจาก อุทยานธรณีโลกสตูล และเป็นอุทยานแห่งที่ 4 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อุทยานธรณีวิทยานี้ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในลุ่มน้ำลำตะคอง บริเวณขอบด้านตะวันตกเฉียงใต้ของที่ราบสูงโคราช จังหวัดนครราชสีมา ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ป่าเต็งรังเป็นป่าประเภทหลักในพื้นที่ ครอบคลุมพื้นที่ 3,167 ตารางกิโลเมตรมีประชากรประมาณ 741,000 คน (2561)
อุทยานธรณีโลกโคราช: ดินแดนแห่งคิวเอสตาและซากดึกดำบรรพ์ มรดกธรณีสู่การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์
อุทยานธรณีโลกโคราช (Khorat UNESCO Global Geopark) ตั้งอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากยูเนสโก (UNESCO) เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2566 นับเป็นอุทยานธรณีโลกลำดับที่สองของประเทศไทย การได้รับสถานะนี้เป็นการตอกย้ำถึงคุณค่าทางธรณีวิทยาอันโดดเด่น ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการอนุรักษ์ธรณี (Geoconservation) การศึกษาธรณีศาสตร์ (Earth Science Education) และการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงธรณี (Geo-tourism) อย่างยั่งยืน
อุทยานธรณีโลกโคราชไม่เพียงเป็นแหล่งรวมมรดกทางธรณีวิทยาที่สำคัญ แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของผู้คนหลอมรวมกันอย่างมีเอกลักษณ์ ด้วยฉายา "ดินแดนแห่งคิวเอสตาและซากดึกดำบรรพ์" (Cuesta and Fossil Land) หรือ "นครแห่งชีวิตโบราณ" (Paleontopolis) อุทยานแห่งนี้จึงเป็นห้องเรียนธรรมชาติขนาดใหญ่ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจได้เรียนรู้เรื่องราวของโลก ตั้งแต่ยุคโบราณหลายล้านปีจนถึงปัจจุบัน ผ่านภูมิประเทศที่น่าทึ่ง แหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่อุดมสมบูรณ์ และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สะท้อนความผูกพันกับผืนดิน การเดินทางในอุทยานธรณีโลกโคราชจึงไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวพักผ่อน แต่เป็นการเดินทางเพื่อสร้างความเข้าใจในประวัติศาสตร์โลก และความรับผิดชอบในการอนุรักษ์มรดกอันล้ำค่านี้ไว้ให้ยั่งยืน
บริบททางภูมิศาสตร์และธรณีวิทยา (Geographical & Geological Context)
อุทยานธรณีโลกโคราชครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 3,167 ตารางกิโลเมตร ในจังหวัดนครราชสีมา มีประชากรราว 741,000 คน (ข้อมูลปี 2561) พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณลุ่มน้ำลำตะคอง (Lam Takhong river basin) ทางขอบด้านตะวันตกเฉียงใต้ของที่ราบสูงโคราช (Khorat Plateau) ลักษณะภูมิประเทศที่โดดเด่นคือภูมิทัศน์แบบคิวเอสตา (Cuesta Landscape) ซึ่งเป็นเนินหรือสันเขาที่มีด้านหนึ่งลาดชันน้อย และอีกด้านหนึ่งลาดชันมาก และยังเป็นหนึ่งในระบบคิวเอสตาที่ยาวที่สุดในโลก
พื้นฐานทางธรณีวิทยาของอุทยานประกอบด้วยหินมีโซโซอิก (Mesozoic rocks) ในกลุ่มหินโคราช (Khorat Group) รวมถึงหมวดหินมหาสารคาม (Maha Sarakham Formation) และหมวดหินภูทอก (Phu Thok Formation) ซึ่งเป็นหินตะกอนที่หลากหลาย ได้แก่ หินทราย (Sandstone), หินกรวดมน (Conglomerate), หินทรายแป้ง (Siltstone), หินดินดาน (Shale), หินโคลน (Claystone) และหินเกลือ (Rock Salt) การยกตัวของเทือกเขาหิมาลัย (Himalayas) เมื่อหลายล้านปีก่อน มีบทบาทสำคัญในการเกิดที่ราบสูงและแอ่งแผ่นดิน ทำให้ชั้นหินสลับซับซ้อนยกตัวขึ้นและสึกกร่อน ก่อให้เกิดระบบคิวเอสตาอันเป็นเอกลักษณ์
แหล่งธรณีวิทยาที่สำคัญ (Key Geosites)
อุทยานธรณีโลกโคราชโดดเด่นด้วยแหล่งธรณีวิทยาที่สำคัญหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านภูมิทัศน์และซากดึกดำบรรพ์:
- ภูมิทัศน์โค้งงอแบบคิวเอสตา (Cuesta Landscape) ภูมิทัศน์คิวเอสตาเป็นลักษณะทางธรณีวิทยาที่โดดเด่นที่สุดของอุทยานแห่งนี้ เกิดจากการวางตัวของชั้นหินตะกอนที่แข็งและอ่อนสลับกันไป เมื่อชั้นหินเหล่านี้ถูกยกตัวขึ้นและกัดกร่อนโดยกระบวนการทางธรรมชาติ เช่น การไหลของน้ำและลม ชั้นหินที่แข็งกว่าจะต้านทานการกัดกร่อนได้ดีกว่า จึงเหลือเป็นแนวสันเขาหรือหน้าผาชัน ในขณะที่ชั้นหินที่อ่อนกว่าจะถูกกัดกร่อนออกไปกลายเป็นพื้นที่ลาดเอียง ทำให้เกิดภูมิทัศน์ที่มีลักษณะเป็นเนินเขาหรือสันเขาที่มีด้านหนึ่งลาดชันมาก และอีกด้านหนึ่งลาดชันน้อย ซึ่งระบบคิวเอสตาในอุทยานธรณีโลกโคราชนี้ถือเป็นหนึ่งในระบบที่ยาวที่สุดในโลก สะท้อนถึงธรณีประวัติอันยาวนานของภูมิภาค
- แหล่งซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์และสัตว์ดึกดำบรรพ์ (Dinosaur and Ancient Fauna Fossil Sites) อุทยานธรณีโลกโคราชเป็นขุมทรัพย์แห่งซากดึกดำบรรพ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไดโนเสาร์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมโบราณ มีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ที่หลากหลายและมีอายุตั้งแต่ 16 ล้านปี ถึง 10,000 ปีที่แล้ว สิ่งที่น่าสนใจคือการค้นพบไดโนเสาร์หลายชนิด เช่น Sirindhorna khoratensis (สิรินธรน่า โคราชเอนซิส), Ratchasimasaurus suranareae (ราชสีมาซอรัส สุรนารีเอ), Siamodon nimngami (สยามโมดอน นิมงามมิ), และ Siamraptor suwati (สยามแรปเตอร์ สุวัฒติ) รวมถึงจระเข้ Khoratosuchus jintasakuli (โคราชโตซูคัส จินตสกุลลี) นอกจากนี้ ยังมีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของช้างโบราณถึง 10 สกุล จาก 55 สกุลที่รู้จักทั่วโลก ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยเติมเต็มความเข้าใจในวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตในภูมิภาคนี้
- ป่าไม้กลายเป็นหิน (Petrified Wood Forest) อุทยานธรณีโลกโคราชยังเป็นที่รู้จักในฐานะ "นครแห่งชีวิตโบราณ" (Paleontopolis) เนื่องจากมีการค้นพบไม้กลายเป็นหิน (Petrified Wood) จำนวนมหาศาล ไม้กลายเป็นหินเหล่านี้เกิดจากกระบวนการธรณีวิทยาที่ซับซ้อน โดยเมื่อต้นไม้ล้มลงและถูกฝังใต้ตะกอนอย่างรวดเร็ว สารละลายแร่ซิลิกา (Silica) ในน้ำใต้ดินจะซึมเข้าแทนที่เนื้อไม้ทีละน้อยๆ จนกระทั่งโครงสร้างของเนื้อไม้เดิมถูกแทนที่ด้วยแร่ธาตุทั้งหมด แต่ยังคงรักษารูปทรงและรายละเอียดของต้นไม้ไว้ได้อย่างน่าทึ่ง ไม้กลายเป็นหินเหล่านี้เป็นหลักฐานสำคัญของสภาพแวดล้อมทางธรณีวิทยาและชีวภาพในอดีต รวมถึงเป็นแหล่งข้อมูลที่มีค่าสำหรับการศึกษาพืชพรรณโบราณ
ความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม (Biodiversity & Culture)
ความสัมพันธ์ระหว่างหิน ดิน น้ำ ป่า และมนุษย์ เป็นหัวใจสำคัญของอุทยานธรณีโลกโคราช ภูมิทัศน์แบบคิวเอสตาและชั้นหินตะกอนที่หลากหลายได้ก่อกำเนิดดินและแหล่งน้ำที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นรากฐานของความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งป่าเต็งรัง (Deciduous Dipterocarp Forest) ที่เป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์หลายชนิด
นอกจากมรดกทางธรณีวิทยาและชีวภาพแล้ว อุทยานยังอุดมไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ผู้คนในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์โคราชไทย (Khorat Thai) ซึ่งมีภาษาและวัฒนธรรมดนตรีเป็นของตนเอง ได้สร้างสรรค์และสืบทอดวิถีชีวิตที่ผูกพันกับธรรมชาติและธรณีวิทยามาอย่างยาวนาน ตัวอย่างเช่น ปราสาทหินพนมวัน (Prasat Hin Phanomwan) และโบราณสถานเมืองเสมา (Sema ancient remains) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมขอมโบราณที่สร้างขึ้นจากหินทรายในท้องถิ่น และวัดเขาจันทน์งาม (Wat Khao Chan Ngam) ซึ่งมีภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ อายุ 3,000-4,000 ปี บนหน้าผาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา สะท้อนถึงการตั้งถิ่นฐานและความเชื่อของมนุษย์ยุคแรกเริ่มในพื้นที่ การบริหารจัดการอุทยานธรณีจึงเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ การศึกษา และการพัฒนาที่ยั่งยืน
แนวทางการท่องเที่ยวเชิงธรณี (Traveler Guidelines)
การท่องเที่ยวในอุทยานธรณีโลกโคราช มุ่งเน้นการเรียนรู้และเคารพต่อธรรมชาติและวัฒนธรรม เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงธรณีอย่างยั่งยืน นักท่องเที่ยวควรปฏิบัติตามแนวทางดังนี้:
อุทยานธรณีโลกโคราชเป็นมากกว่าแหล่งท่องเที่ยว แต่เป็น "มหานครแห่งชีวิตโบราณ" ที่รวบรวมมรดกธรณีวิทยาอันล้ำค่า ตั้งแต่ภูมิทัศน์คิวเอสตา ซากดึกดำบรรพ์ของไดโนเสาร์และสัตว์โบราณ ไปจนถึงป่าไม้กลายเป็นหินที่น่าทึ่ง การได้รับการยอมรับจากยูเนสโกยังทำให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นเมืองแห่ง "สามมงกุฎ" แห่งที่สี่ของโลก ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพอันโดดเด่นด้านมรดกโลก การอนุรักษ์ชีวภาพ และธรณีวิทยา การเยี่ยมชมอุทยานธรณีโลกโคราชจึงเป็นการผจญภัยที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่เชิญชวนให้เราสำรวจอดีตของโลก ทำความเข้าใจปัจจุบัน และร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่านการอนุรักษ์และการเรียนรู้
เอกสารอ้างอิง (References):
- vovworld.vn
- thailand.go.th
- prd.go.th
- nationthailand.com
- unesco.org
- asianews.network
- unesco.org
- globalgeopark.org
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เที่ยวนครราชสีมา เมือง อุทยานธรณีโคราช (Korat UNESCO Global Geopark)
- เที่ยวนครราชสีมา ปากช่อง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ / มรดกโลก
- เที่ยวนครราชสีมา สีคิ้ว เขายายเที่ยง ผาชมวิว (Yai Thiang Cliff)
-
-
-
.
-------------------------
ที่มา
- http://www.globalgeopark.org
- https://www.unesco.org/en/mab/wnbr/
รวบรวมรูปภาพ
-------------------------
-------------------------


