iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ
มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา

1997 เมืองโบราณผิงเหยา (Ancient City of Ping Yao)

 

google map

เมืองโบราณผิงเหยา มรดกโลกที่คงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และการเงินแห่งราชวงศ์ฮั่น (Ancient City of Ping Yao: A World Heritage Site Preserving Historical and Financial Value of the Han Dynasty)

เมืองโบราณผิงเหยา (Ancient City of Ping Yao) ตั้งอยู่ในมณฑลชานซี สาธารณรัฐประชาชนจีน ถือเป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของเมืองฮั่นจีนดั้งเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม โดยสะท้อนถึงวิวัฒนาการของการวางผังเมืองและรูปแบบสถาปัตยกรรมในจีนยุคจักรวรรดิ (Imperial China) ตลอดระยะเวลาห้าศตวรรษ เมืองแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) ในปีคริสต์ศักราช 1997 (พุทธศักราช 2540) ภายใต้เกณฑ์ที่ (ii), (iii) และ (iv) การขึ้นทะเบียนนี้เป็นการยอมรับคุณค่าอันเป็นสากลของเมืองผิงเหยาในฐานะที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของจีนระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 19 (พุทธศักราช 2344) ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 (พุทธศักราช 2443) และยังคงรักษารูปแบบทางประวัติศาสตร์ของเมืองระดับอำเภอ (county-level cities) ในราชวงศ์ฮั่นไว้ได้อย่างสมบูรณ์ เมืองโบราณผิงเหยาเป็นเมืองโบราณเพียงแห่งเดียวในประเทศจีนที่ยังคงรักษาโครงสร้างดั้งเดิมไว้ได้ทั้งหมดโดยปราศจากสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ภายในกำแพงเมือง แหล่งมรดกโลกนี้ประกอบด้วยองค์ประกอบหลักสามส่วน ได้แก่ ตัวเมืองผิงเหยาที่มีกำแพงล้อมรอบ, วัดซวงหลิน (Shuanglin Temple) ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 6 กิโลเมตร, และวัดเจิ้นกว๋อ (Zhenguo Temple) ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 12 กิโลเมตร

คุณค่าสากลอันโดดเด่น (Outstanding Universal Value)

เมืองโบราณผิงเหยาได้รับการยอมรับในฐานะแหล่งมรดกโลกด้วยคุณค่าสากลอันโดดเด่นตามเกณฑ์ที่กำหนดดังนี้:

  • เกณฑ์ (ii): แสดงให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนคุณค่าของมนุษย์ที่สำคัญในช่วงเวลาหนึ่ง หรือภายในพื้นที่วัฒนธรรมของโลก ในด้านการพัฒนาสถาปัตยกรรมหรือเทคโนโลยี ศิลปะอนุสาวรีย์ การวางผังเมือง หรือการออกแบบภูมิทัศน์ เมืองโบราณผิงเหยาเป็นเครื่องยืนยันถึงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและคุณค่าที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการวางผังเมืองและสถาปัตยกรรม ซึ่งแสดงถึงวิวัฒนาการของรูปแบบเมืองในจีนยุคจักรวรรดิเป็นเวลาห้าศตวรรษ ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 (พุทธศักราช 1843-1946) ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 20 (พุทธศักราช 2443) การเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของจีนในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 (พุทธศักราช 2344) ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 (พุทธศักราช 2443) ยังสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของเมืองในการพัฒนาเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของภูมิภาค

  • เกณฑ์ (iii): เป็นเอกลักษณ์หรืออย่างน้อยก็เป็นพยานพิเศษสำหรับประเพณีทางวัฒนธรรมหรืออารยธรรมที่ยังคงมีชีวิตอยู่หรือที่ได้สูญหายไปแล้ว ผิงเหยาเป็นตัวอย่างที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างยอดเยี่ยมของเมืองฮั่นจีนดั้งเดิม โดยรักษารูปแบบทางประวัติศาสตร์ของเมืองระดับอำเภอในราชวงศ์ฮั่นจากคริสต์ศตวรรษที่ 14 (พุทธศักราช 1843-1946) ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 20 (พุทธศักราช 2443) ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ยังเป็นพยานถึงยุคสมัยของการพัฒนาเศรษฐกิจในฐานะศูนย์กลางทางการเงินที่รุ่งเรือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอารยธรรมจีนที่เคยมีชีวิตชีวา

  • เกณฑ์ (iv): เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของประเภทของอาคาร กลุ่มสถาปัตยกรรม หรือภูมิทัศน์ที่แสดงถึงขั้นตอนสำคัญในประวัติศาสตร์มนุษย์ เมืองโบราณผิงเหยาพร้อมด้วยวัดซวงหลินและวัดเจิ้นกว๋อ เป็นกลุ่มอาคารที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะสถาปัตยกรรมและการวางผังเมืองที่สำคัญตลอดหลายศตวรรษ กำแพงเมืองและบ้านเรือนแบบลานภายใน (courtyard houses) ที่เป็นเอกลักษณ์เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรมในราชวงศ์หมิงและชิง วัดเจิ้นกว๋อมีหอประชุมหลักที่เป็นหนึ่งในอาคารไม้ที่เก่าแก่ที่สุดของจีนที่สร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปู ส่วนวัดซวงหลินขึ้นชื่อเรื่องคอลเลกชันประติมากรรมดินเผาที่ลงสีแล้วกว่า 2,000 ชิ้น ซึ่งได้รับสมญานามว่าเป็น "คลังสมบัติแห่งศิลปะประติมากรรมสีสันตะวันออก"

บริบททางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม (Historical and Architectural Context)

เมืองโบราณผิงเหยาก่อตั้งขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 14 (พุทธศักราช 1843-1946) และเป็นตัวแทนที่สำคัญของการวางผังเมืองแบบฮั่นจีน ซึ่งสะท้อนถึงวิวัฒนาการทางสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมตลอดกว่าห้าศตวรรษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 19 (พุทธศักราช 2344) และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 (พุทธศักราช 2443) ผิงเหยาได้กลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของประเทศจีน เป็นที่ตั้งของธนาคารเอกชนแห่งแรกของจีนที่ชื่อว่า "รื่อเชิ่งชาง (Rishengchang Draft Bank)" ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปีคริสต์ศักราช 1823 (พุทธศักราช 2366) บทบาทนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญทางเศรษฐกิจและอิทธิพลของเมืองในประวัติศาสตร์จีน

ในด้านสถาปัตยกรรม เมืองผิงเหยาคงรักษารูปแบบของเมืองโบราณได้อย่างสมบูรณ์แบบ กำแพงเมืองโบราณ (Ancient City Wall) ซึ่งล้อมรอบเมืองเก่าทั้งหมด ถือเป็นหนึ่งในกำแพงเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ดีที่สุดในประเทศจีน มีความยาวประมาณ 6 กิโลเมตร และสูงประมาณ 12 เมตร โครงสร้างอันแข็งแกร่งนี้เป็นพยานถึงเทคนิคการก่อสร้างและการป้องกันในยุคโบราณ ภายในกำแพงเมืองยังคงเต็มไปด้วยบ้านเรือนแบบลานภายใน (Traditional Courtyard Houses) ที่สร้างด้วยอิฐอันเป็นเอกลักษณ์ สะท้อนถึงวิถีชีวิตและรูปแบบสถาปัตยกรรมของชาวฮั่นจีน

ส่วนประกอบสำคัญอื่นๆ ได้แก่ วัดซวงหลิน (Shuanglin Temple) ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 6 กิโลเมตร โดดเด่นด้วยประติมากรรมดินเผาที่ลงสีแล้วกว่า 2,000 ชิ้น ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความประณีตและถือเป็นมรดกทางศิลปะอันล้ำค่า และวัดเจิ้นกว๋อ (Zhenguo Temple) ซึ่งอยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 12 กิโลเมตร มีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และรูปปั้นพระพุทธรูปที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี โดยเฉพาะหอประชุมหลักของวัดที่เชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในอาคารไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศจีนที่สร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปู ซึ่งแสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาทางวิศวกรรมสถาปัตยกรรมโบราณ

จุดเด่นที่สำคัญ (Key Highlights)

เมืองโบราณผิงเหยามอบประสบการณ์การเดินทางย้อนเวลาอันน่าประทับใจ ด้วยจุดเด่นที่สำคัญดังนี้:

  • กำแพงเมืองโบราณ (Ancient City Wall): เป็นกำแพงเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน มีความยาวประมาณ 6 กิโลเมตร และสูงประมาณ 12 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินหรือปั่นจักรยานไปตามกำแพงเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของหลังคาบ้านเรือนและตรอกซอกซอยในเมืองโบราณ

  • ถนนหมิงชิง (Mingqing Street หรือ South Street): ถนนสายหลักที่คึกคักซึ่งตัดผ่านใจกลางเมืองเก่า สองข้างทางเรียงรายด้วยบ้านลานภายในแบบดั้งเดิมที่ปรับเปลี่ยนเป็นร้านค้า ร้านอาหาร บาร์ และเกสต์เฮาส์ เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการเดินเล่น ชิมอาหารท้องถิ่น ช้อปปิ้งหัตถกรรม และชมวิถีชีวิตผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเย็น

  • ธนาคารรื่อเชิ่งชาง (Rishengchang Draft Bank): ถือเป็นธนาคารแห่งแรกของจีน ก่อตั้งขึ้นในปีคริสต์ศักราช 1823 (พุทธศักราช 2366) สถาบันการเงินในอดีตแห่งนี้มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจของจีน ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติทางการธนาคารโบราณ

  • อาคารที่ว่าการอำเภอโบราณ (Ancient County Government Building): สถานที่นี้เปิดโอกาสให้ผู้เยี่ยมชมได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบการปกครองและกระบวนการยุติธรรมของจีนในยุคจักรวรรดิ

  • ศาลเจ้าขงจื๊อ (Confucian Temple): เป็นหนึ่งในศาลเจ้าขงจื๊อที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศจีน นำเสนอภาพรวมของปรัชญาและประวัติศาสตร์การศึกษาที่รุ่มรวยของประเทศ

  • วัดเจ้าเมือง (Temple of the City God): อาคารที่เปี่ยมด้วยสีสันและชีวิตชีวา อุทิศให้แก่เทพเจ้าผู้พิทักษ์เมือง

  • บ้านลานภายในแบบดั้งเดิม (Traditional Courtyard Houses): สำรวจบ้านอิฐแบบลานภายในจำนวนมากที่เป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมเมือง

  • วัดซวงหลิน (Shuanglin Temple): ตั้งอยู่นอกกำแพงเมือง วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านคอลเลกชันประติมากรรมดินเผาที่ลงสีแล้วกว่า 2,000 ชิ้น ซึ่งได้รับสมญานามว่าเป็น "คลังสมบัติแห่งศิลปะประติมากรรมสีสันตะวันออก" และยังเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกอีกด้วย

  • วัดเจิ้นกว๋อ (Zhenguo Temple): เป็นอีกหนึ่งแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากผิงเหยาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 12 กิโลเมตร มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และรูปปั้นพระพุทธรูปที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี โดยมีหอประชุมหลักที่เป็นหนึ่งในอาคารไม้ที่เก่าแก่ที่สุดของจีนที่สร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปู

  • อาหารท้องถิ่น (Local Cuisine): ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นของผิงเหยา รวมถึงเนื้อผิงเหยา (Pingyao Beef), บะหมี่หลากหลายชนิด เช่น บะหมี่เส้นมีด (knife-cut noodles) และบะหมี่แป้งข้าวโอ๊ต (oat flour noodles), ชุ่ยจิ่ว (Shuijiu) (ข้าวเหนียวหมัก), ซาลาเปาทอดไส้เนื้อ (fried beef buns) และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพุทรา ร้านอาหารหลายแห่งมีเมนูภาษาอังกฤษให้บริการ

  • ประสบการณ์ทางวัฒนธรรม (Cultural Experiences): นอกจากการเที่ยวชมสถานที่แล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น การตัดกระดาษ หรือเพลิดเพลินกับการแสดง "See Pingyao Again" ซึ่งเป็นการนำเสนอเรื่องราวชีวิตในจีนโบราณอย่างสมจริง

เมืองโบราณผิงเหยา เป็นแหล่งมรดกโลกที่ทรงคุณค่า ซึ่งไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตของสถาปัตยกรรมและผังเมืองฮั่นจีนดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังเป็นประจักษ์พยานถึงบทบาทสำคัญของตนในฐานะศูนย์กลางทางการเงินของจีนในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 (พุทธศักราช 2344) และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 (พุทธศักราช 2443) คุณค่าสากลอันโดดเด่นของเมืองนี้เกิดจากการอนุรักษ์ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจน การเยี่ยมชมเมืองผิงเหยาจึงเป็นการเดินทางที่ลึกซึ้งสู่แก่นแท้ของอารยธรรมจีน ซึ่งนำเสนอความเข้าใจอันลึกซึ้งเกี่ยวกับอดีตที่ยังคงมีชีวิตชีวาจนถึงปัจจุบัน

 

 

.

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward