แหล่งมรดกโลก เอเชียตะวันออก เกาหลีใต้ 1997 ป้อมฮวาซ็อง (Hwaseong Fortress)

 1997 ป้อมฮวาซ็อง (Hwaseong Fortress)

ป้อมฮวาซอง: มรดกสถาปัตยกรรมทางทหารแห่งราชวงศ์โชซอน สู่คุณค่าระดับโลก

ป้อมฮวาซอง (Hwaseong Fortress) ตั้งอยู่ที่เมืองซูวอน (Suwon) จังหวัดคยองกี (Gyeonggi) สาธารณรัฐเกาหลีใต้ เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโกที่ได้รับการยอมรับในคุณค่าทางประวัติศาสตร์อันสำคัญและความเป็นเลิศทางสถาปัตยกรรม ป้อมแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540)

ป้อมฮวาซองถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1794 (พ.ศ. 2337) ถึง ค.ศ. 1796 (พ.ศ. 2339) โดยพระเจ้าช็องโจ (King Jeongjo) แห่งราชวงศ์โชซอน (Joseon Dynasty) มีวัตถุประสงค์หลายประการ ได้แก่ การเป็นป้อมปราการป้องกันเมือง การเป็นฐานการเมืองแห่งใหม่ และเป็นสถานที่เพื่อแสดงความเคารพต่อพระบรมอัฐิของพระบิดา คือ เจ้าชายชังฮอน (Crown Prince Jangheon) หรือที่รู้จักในนามเจ้าชายซาโด (Prince Sado) พระเจ้าช็องโจมีพระราชประสงค์ให้ซูวอนเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ที่เจริญรุ่งเรือง มีตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงกรุงโซล (Seoul) กับทะเลตะวันตก (West Sea) และจีน ทั้งยังเป็นสถานที่ที่พระองค์สามารถดำเนินปฏิรูปได้โดยปราศจากอิทธิพลของการแบ่งฝักฝ่ายในราชสำนัก

กำแพงอันโอฬารของป้อมมีความยาว 5.74 กิโลเมตร (หรือประมาณ 5.52 กิโลเมตรตามข้อมูลบางแหล่ง) ครอบคลุมพื้นที่ 130 เฮกตาร์ โดยออกแบบให้สอดรับกับลักษณะภูมิประเทศของพื้นที่ มีลำธารซูวอนชอน (Suwoncheon stream) ไหลผ่านใจกลางป้อม ป้อมฮวาซองเป็นตัวแทนของสุดยอดสถาปัตยกรรมทางการทหารในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ซึ่งได้รวมแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูงจากทั้งยุโรปและเอเชียตะวันออกเข้าไว้ด้วยกัน การออกแบบภายใต้การกำกับดูแลของสถาปนิกช็อง ยักยง (Chŏng Yagyong หรือ Jeong Yak-Yong) ได้นำหลักการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ (Silhak) มาประยุกต์ใช้ ซึ่งส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรม รวมถึงการใช้อิฐเป็นวัสดุก่อสร้าง และการใช้รอกและเครนที่มีประสิทธิภาพในระหว่างการก่อสร้าง

คุณค่าสากลอันโดดเด่น (Outstanding Universal Value)

ป้อมฮวาซองได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกภายใต้เกณฑ์สองประการ ซึ่งสะท้อนถึงคุณค่าสากลอันโดดเด่น ดังนี้:

• เกณฑ์ (ii): ป้อมแห่งนี้เป็นสุดยอดของสถาปัตยกรรมทางการทหารในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ที่ผสานแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูงจากทั้งยุโรปและเอเชียตะวันออกเข้าไว้ด้วยกัน การก่อสร้างแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญในเทคนิคการก่อสร้างและการใช้วัสดุ ซึ่งสะท้อนถึงการแลกเปลี่ยนความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์และเทคนิคที่สำคัญระหว่างตะวันออกและตะวันตก ยิ่งไปกว่านั้น การออกแบบของป้อมยังมีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อสถาปัตยกรรม การวางผังเมือง และการจัดภูมิทัศน์ของเกาหลี

• เกณฑ์ (iii): ป้อมฮวาซองเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความก้าวหน้าทางสังคมและเทคนิคที่รวดเร็วในเกาหลีช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดยผสมผสานวิธีการสร้างป้อมปราการแบบดั้งเดิมเข้ากับการวางผังเมืองที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งช่วยให้ป้อมสามารถทำหน้าที่ได้ไม่เพียงแค่เพื่อการป้องกันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบทบาทด้านการบริหารและการค้าด้วย

คุณค่าสากลอันโดดเด่นของป้อมฮวาซองยังคงมาจากลักษณะการออกแบบที่ครอบคลุมในฐานะป้อมปราการที่สร้างด้วยหินและอิฐในช่วงราชวงศ์โชซอน ซึ่งได้รับพระราชบัญชาจากพระเจ้าช็องโจในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 เพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ ได้แก่ การป้องกัน การสร้างฐานอำนาจทางการเมืองใหม่ และการแสดงความเคารพต่อพระบรมอัฐิของพระบิดา การออกแบบภายใต้การกำกับดูแลของช็อง ยักยง นักปราชญ์ชั้นนำ โดดเด่นด้วยการวางแผนอย่างพิถีพิถัน การบูรณาการองค์ประกอบทั้งที่อยู่อาศัยและการป้องกัน และการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ล่าสุด ต่างจากป้อมปราการหลายแห่งในจีนและญี่ปุ่น ป้อมฮวาซองใช้ประโยชน์จากพื้นที่ทั้งที่ราบและเนินเขาอย่างชาญฉลาดเพื่อประสิทธิภาพการป้องกันสูงสุด และผสมผสานหน้าที่ทางทหาร การเมือง และการค้าเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ ป้อมแห่งนี้ยังสะท้อนถึงความกตัญญูอันลึกซึ้งของพระเจ้าช็องโจได้อย่างชัดเจน บันทึกการก่อสร้างอย่างละเอียดที่เรียกว่า "ฮวาซอง ซองยอก อึยเกว" (Hwaseong seongyeok uigwe) ซึ่งจัดพิมพ์ในปี ค.ศ. 1801 (พ.ศ. 2344) มีคุณค่าอย่างยิ่ง เนื่องจากช่วยให้สามารถบูรณะป้อมได้อย่างสมบูรณ์แบบหลังความเสียหายจากความขัดแย้ง เช่น สงครามเกาหลี แสดงให้เห็นถึงแนวปฏิบัติการบันทึกข้อมูลขั้นสูงของราชวงศ์โชซอน

บริบททางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม

บริบททางประวัติศาสตร์

ป้อมฮวาซองเป็นผลงานชิ้นเอกที่ถือกำเนิดขึ้นในยุคราชวงศ์โชซอน โดยมีพระเจ้าช็องโจเป็นผู้ริเริ่มการก่อสร้างระหว่างปี ค.ศ. 1794 (พ.ศ. 2337) ถึง ค.ศ. 1796 (พ.ศ. 2339) วัตถุประสงค์หลักในการสร้างป้อมนี้เป็นประวัติศาสตร์อันชัดเจน ไม่ใช่ตำนานเล่าขาน พระเจ้าช็องโจมีพระราชประสงค์ที่จะสร้างเมืองซูวอนให้เป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ เพื่อดำเนินโครงการปฏิรูปทางสังคมและการเมืองให้ห่างไกลจากความขัดแย้งของฝ่ายต่างๆ ในราชสำนัก และที่สำคัญยิ่งคือเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิของพระบิดา โดยการสร้างป้อมนี้ถือเป็นการแสดงออกซึ่งพระราชปณิธานอันแน่วแน่และพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่

การก่อสร้างป้อมได้มอบหมายให้ช็อง ยักยง (Jeong Yak-Yong) สถาปนิกและนักปราชญ์ผู้มีชื่อเสียง เป็นผู้รับผิดชอบการออกแบบและกำกับดูแล เขาได้นำหลักปรัชญาชิลฮัก (Silhak) หรือ "การเรียนรู้เชิงปฏิบัติ" มาประยุกต์ใช้ ซึ่งเน้นการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการแก้ปัญหาและพัฒนาสังคมอย่างเป็นรูปธรรม หลักการนี้ได้ปฏิวัติวิธีการก่อสร้างป้อมปราการในเกาหลี โดยผสมผสานความรู้ดั้งเดิมเข้ากับนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างกลมกลืน

บริบททางสถาปัตยกรรม

สถาปัตยกรรมของป้อมฮวาซองสะท้อนถึงการผสมผสานอันยอดเยี่ยมระหว่างความรู้ทางการทหารแบบตะวันออกและตะวันตก ป้อมมีกำแพงที่มีความยาวถึง 5.74 กิโลเมตร (หรือบางแหล่งระบุ 5.52 กิโลเมตร) ล้อมรอบพื้นที่ 130 เฮกตาร์ การออกแบบกำแพงนั้นสอดรับกับลักษณะภูมิประเทศของเนินเขาและที่ราบอย่างชาญฉลาด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันเมือง ซึ่งแตกต่างจากป้อมปราการแบบดั้งเดิมที่มักจะสร้างบนที่สูงเท่านั้น วัสดุหลักที่ใช้ในการก่อสร้างคือก้อนหินและอิฐ ซึ่งแสดงถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในยุคนั้น นอกจากนี้ ยังมีการใช้เครื่องทุ่นแรงต่างๆ เช่น รอกและเครน เพื่ออำนวยความสะดวกในการยกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดระยะเวลาและแรงงานในการก่อสร้างอย่างมาก

ภายในป้อมฮวาซองมีพระราชวังชั่วคราวฮวาซอง แฮงกุง (Hwaseong Haenggung) ซึ่งเป็นที่ประทับของพระเจ้าช็องโจในยามเสด็จมายังซูวอน ป้อมแห่งนี้ยังมีคุณลักษณะด้านการป้องกันที่หลากหลายและครบครัน ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงสภาพสมบูรณ์ อาทิ:

• ประตูหลักสี่ทิศ: จังอันมุน (Janganmun) ทางทิศเหนือ, พัลดัลมุน (Paldalmun) ทางทิศใต้, ชังนยงมุน (Changnyongmun) ทางทิศตะวันออก และฮวาซอมุน (Hwaseomun) ทางทิศตะวันตก

• ประตูระบายน้ำ: เช่น ฮวาฮงมุน (Hwahongmun) ซึ่งเป็นประตูระบายน้ำที่มีความสวยงามและมีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับน้ำของลำธารซูวอนชอนที่ไหลผ่านใจกลางป้อม

• หอสังเกตการณ์ (Observation Towers), ป้อมบัญชาการ (Command Posts), ประตูลับ (Secret Gates), หอสัญญาณไฟ (Beacon Towers), ป้อมปราการยื่นออกไป (Bastions) และบังเกอร์ (Bunkers) ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกจัดวางอย่างเป็นระบบเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการป้องกัน และแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาที่สำคัญในการก่อสร้างและการใช้วัสดุที่สะท้อนถึงการแลกเปลี่ยนความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์และเทคนิคระหว่างตะวันออกและตะวันตก

ป้อมฮวาซองได้ส่งอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อการพัฒนาสถาปัตยกรรม การวางผังเมือง และการจัดภูมิทัศน์ของเกาหลี โดยมีการซ่อมแซมและบูรณะหลายครั้งตลอดประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบูรณะครั้งใหญ่ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 (พ.ศ. 2513-2522) หลังจากได้รับความเสียหายจากสงคราม

จุดเด่นสำคัญ (Key Highlights)

ป้อมฮวาซองมีความโดดเด่นด้วยองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมหลายประการ ที่สะท้อนถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และคุณค่าสากลของสถานที่แห่งนี้:

• สี่ประตูหลักอันสง่างาม (Four Main Gates): ประกอบด้วยประตูจังอันมุน (Janganmun) ทางทิศเหนือ, ประตูพัลดัลมุน (Paldalmun) ทางทิศใต้, ประตูชังนยงมุน (Changnyongmun) ทางทิศตะวันออก และประตูฮวาซอมุน (Hwaseomun) ทางทิศตะวันตก ซึ่งแต่ละประตูมีความงดงามทางสถาปัตยกรรมและมีบทบาทสำคัญในการป้องกันเมือง

• พระราชวังชั่วคราวฮวาซอง แฮงกุง (Hwaseong Haenggung): เป็นพระราชวังชั่วคราวที่ตั้งอยู่ภายในกำแพงป้อม ซึ่งพระเจ้าช็องโจใช้เป็นที่ประทับเมื่อเสด็จมายังซูวอน แสดงถึงความสำคัญทางการบริหารและการเมืองของป้อมแห่งนี้

• คุณลักษณะด้านการป้องกันที่หลากหลาย (Diverse Defensive Features): นักท่องเที่ยวสามารถสังเกตเห็นองค์ประกอบต่างๆ ที่เป็นนวัตกรรมด้านการป้องกัน เช่น ประตูระบายน้ำฮวาฮงมุน (Hwahongmun) ซึ่งเป็นสะพานและประตูระบายน้ำที่มีความงาม หอสังเกตการณ์ ป้อมบัญชาการ ประตูลับ หอสัญญาณไฟ ป้อมปืน และบังเกอร์ ซึ่งแสดงถึงเทคนิคทางการทหารขั้นสูง

• กำแพงป้อมอันยาวเหยียด (Extended Fortress Walls): การเดินสำรวจกำแพงป้อมที่ยาวกว่า 5.74 กิโลเมตร เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ให้ทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองและภูมิทัศน์โดยรอบ พร้อมกับได้สัมผัสถึงประวัติศาสตร์อันยาวนาน

• ลำธารซูวอนชอน (Suwoncheon Stream): ลำธารที่ไหลผ่านใจกลางป้อม ไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงามทางธรรมชาติ แต่ยังมีบทบาทสำคัญในระบบน้ำและการป้องกันของป้อม

• การแสดงทางวัฒนธรรมและเทศกาล (Cultural Performances and Festival): ป้อมฮวาซองยังคงเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม โดยมีการแสดงศิลปะเกาหลีแบบดั้งเดิมเป็นประจำ และเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลวัฒนธรรมซูวอนฮวาซอง (Suwon Hwaseong Cultural Festival) ประจำปีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

คู่มือและข้อบังคับสำหรับผู้เยี่ยมชม

ป้อมฮวาซองเป็นแหล่งมรดกโลกที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยการบริหารจัดการที่เน้นความสะดวกสบายและประสบการณ์อันทรงคุณค่า

• ที่ตั้งและการเดินทาง: ป้อมฮวาซองตั้งอยู่ในเมืองซูวอน จังหวัดคยองกี (Gyeonggi-do Province) ห่างจากกรุงโซลไปทางใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร สามารถเดินทางเข้าถึงได้ง่ายด้วยรถไฟโดยสารประจำทาง (commuter train) โดยใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมง

• การเข้าถึงและการสำรวจ: หลายส่วนของป้อมได้ถูกบูรณาการเข้ากับเขตเมืองซูวอน ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงพื้นที่ส่วนใหญ่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง วิธีที่ดีที่สุดในการสัมผัสประสบการณ์ป้อมฮวาซองคือการเดินตามกำแพงป้อมที่มีความยาว 5.74 กิโลเมตร ซึ่งจะมอบทิวทัศน์อันงดงามและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ คำแนะนำคือควรเริ่มต้นจากประตูพัลดัลมุน (Paldalmun Gate) แล้วเดินตามเข็มนาฬิกา

• เวลาทำการและค่าธรรมเนียม:

  • ป้อมฮวาซอง: โดยทั่วไปแล้ว การเข้าชมป้อมฮวาซองไม่มีค่าเข้าชม อย่างไรก็ตาม มีช่วงเวลาเข้าชมอย่างเป็นทางการของพื้นที่โดยรอบคือ 09:00 น. ถึง 18:00 น. ในช่วงฤดูร้อน (เดือนมีนาคมถึงตุลาคม) และ 09:00 น. ถึง 17:00 น. ในช่วงฤดูหนาว (เดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์)

  • พระราชวังฮวาซอง แฮงกุง (Hwaseong Haenggung): เปิดทำการในเวลาใกล้เคียงกัน โดยมีค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 2,000 วอน

  • ตั๋วรวม: มีตั๋วรวมที่ครอบคลุมการเข้าชมพระราชวังฮวาซอง แฮงกุง, พิพิธภัณฑ์ซูวอน (Suwon Museum) และพิพิธภัณฑ์ซูวอนฮวาซอง (Suwon Hwaseong Museum) ในราคา 4,000 วอนสำหรับผู้ใหญ่

• กิจกรรมและทัวร์:

  • รถรางท่องเที่ยวป้อมฮวาซอง (Hwaseong Fortress Tourist Trolley): ให้บริการทัวร์ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ อย่างสะดวกสบาย มีค่าบริการ 6,000 วอนสำหรับผู้ใหญ่

  • ประสบการณ์ยิงธนูแบบเกาหลีโบราณ (Traditional Korean Archery): นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้เพื่อสัมผัสศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิม

  • การแสดงและการเทศกาล: ป้อมแห่งนี้มีการแสดงประจำวัน และเป็นเจ้าภาพจัดเทศกาลวัฒนธรรมซูวอนฮวาซอง (Suwon Hwaseong Cultural Festival) ทุกฤดูใบไม้ร่วง

• เว็บไซต์ทางการ: สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติม นักท่องเที่ยวสามารถอ้างอิงจากเว็บไซต์ของมูลนิธิวัฒนธรรมซูวอน (Suwon Cultural Foundation) ที่ www.swcf.or.kr

ป้อมฮวาซองแห่งซูวอน เป็นมากกว่าเพียงแค่ป้อมปราการป้องกันเมือง แต่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงนวัตกรรม ความเฉลียวฉลาด และความกตัญญูของพระเจ้าช็องโจแห่งราชวงศ์โชซอน การออกแบบและก่อสร้างป้อมแห่งนี้ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 (พ.ศ. 2337-2339) ภายใต้การนำของช็อง ยักยง ได้รวบรวมวิทยาการและเทคนิคขั้นสูงจากทั้งตะวันออกและตะวันตกเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน ทำให้เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของสถาปัตยกรรมทางการทหารที่มีคุณค่าสากล

ด้วยกำแพงยาว 5.74 กิโลเมตร คุณลักษณะด้านการป้องกันที่ซับซ้อน และพระราชวังฮวาซอง แฮงกุงที่ตั้งอยู่ภายใน ป้อมฮวาซองจึงเป็นประจักษ์พยานถึงความก้าวหน้าทางสังคมและเทคนิคของเกาหลีในยุคนั้น บันทึกการก่อสร้าง "ฮวาซอง ซองยอก อึยเกว" ยังเป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยให้สามารถฟื้นฟูมรดกอันล้ำค่านี้ขึ้นมาใหม่ได้หลังความเสียหาย บทบาทของป้อมที่ไม่เพียงแต่ด้านการทหาร แต่ยังรวมถึงการบริหารและการค้า ได้หล่อหลอมให้เมืองซูวอนเป็นศูนย์กลางที่สำคัญ และส่งอิทธิพลต่อการพัฒนาสถาปัตยกรรมและการวางผังเมืองของเกาหลีมาจนถึงปัจจุบัน ป้อมฮวาซองจึงยังคงยืนหยัดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มาสัมผัสคุณค่าอันเป็นสากลนี้

 ดูเพิ่มเติมได้ที่ เที่ยวเกาหลีใต้ ซูวอล ป้อมฮวาซอง (Hwaseong Haenggung Palace)

.

------------------------

...

...