1998 พระราชวังฤดูร้อน สวนหลวงในกรุงปักกิ่ง (Summer Palace, an Imperial Garden in Beijing)
google map
พระราชวังฤดูร้อน สวนหลวงในกรุงปักกิ่ง: มรดกแห่งสุนทรียภาพและการออกแบบสวนจีนอันล้ำค่า
(Summer Palace, an Imperial Garden in Beijing: A Heritage of Exquisite Chinese Garden Design and Aesthetic Value)
พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ถือเป็นสวนหลวงอิมพีเรียลที่มีความโดดเด่นและเป็นศูนย์มรดกโลกของยูเนสโก (UNESCO World Heritage Centre) ได้รับการยกย่องว่าเป็น "ผลงานชิ้นเอกของการออกแบบสวนภูมิทัศน์จีน" ที่หลอมรวมเนินเขาธรรมชาติและผืนน้ำเปิดเข้ากับองค์ประกอบที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน อาทิ ศาลา หอ ตำหนัก วัด และสะพาน ก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่กลมกลืนและเปี่ยมด้วยสุนทรียภาพ
เดิมทีพระราชวังแห่งนี้มีชื่อว่า ชิงอี๋ยวน (Qingyiyuan) หรือ "อุทยานแห่งคลื่นน้ำใส" เริ่มต้นก่อสร้างขึ้นในปีคริสต์ศักราช 1750 (พ.ศ. 2293) ภายใต้พระบรมราชโองการของจักรพรรดิเฉียนหลง (Emperor Qianlong) เพื่อเป็นของขวัญแด่พระมารดา การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากสวนคลาสสิกทางตอนใต้ของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจำลองทิวทัศน์ของทะเลสาบซีหู (West Lake) ในเมืองหางโจว แม้จะได้รับความเสียหายอย่างหนักในช่วงสงครามฝิ่นครั้งที่สองในปีคริสต์ศักราช 1860 (พ.ศ. 2403) และอีกครั้งในกบฏนักมวย (Boxer Rebellion) ปีคริสต์ศักราช 1900 (พ.ศ. 2443) แต่พระราชวังก็ได้รับการบูรณะฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภายใต้การกำกับดูแลของพระนางซูสีไทเฮา (Empress Dowager Cixi) ระหว่างปีคริสต์ศักราช 1884 (พ.ศ. 2427) ถึง 1895 (พ.ศ. 2438) หลังจากการปฏิวัติในปีคริสต์ศักราช 1911 (พ.ศ. 2454) สถานที่แห่งนี้ได้เปลี่ยนสถานะจากทรัพย์สินของจักรพรรดิมาเป็นสวนสาธารณะและเปิดให้ประชาชนเข้าชมในปีคริสต์ศักราช 1924 (พ.ศ. 2467)
พระราชวังฤดูร้อนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม ปีคริสต์ศักราช 1998 (พ.ศ. 2541)
คุณค่าสากลอันโดดเด่น (Outstanding Universal Value)
พระราชวังฤดูร้อนได้รับการยอมรับจากยูเนสโกว่ามีคุณค่าสากลอันโดดเด่น (Outstanding Universal Value: OUV) โดยผ่านเกณฑ์ทางวัฒนธรรมสามข้อ ได้แก่ (i), (ii) และ (iii) ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญในระดับโลก:
-
เกณฑ์ (i): พระราชวังฤดูร้อนเป็นตัวอย่างอันยอดเยี่ยมของศิลปะแห่งการสร้างสรรค์ในการออกแบบสวนภูมิทัศน์จีน โดยผสานโครงสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้นเข้ากับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน ก่อให้เกิดสุนทรียภาพที่โดดเด่น
-
เกณฑ์ (ii): สถานที่แห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของปรัชญาและการปฏิบัติในการออกแบบสวนจีน ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อการพัฒนาศิลปะรูปแบบนี้ทั่วทั้งโลกตะวันออก
-
เกณฑ์ (iii): สวนหลวงของจักรพรรดิจีน ซึ่งพระราชวังฤดูร้อนเป็นตัวอย่างอันล้ำค่า ยืนหยัดเป็นสัญลักษณ์อันทรงพลังของอารยธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก
ยูเนสโกได้อธิบายเพิ่มเติมว่า พระราชวังฤดูร้อนคือผลงานชิ้นเอกของการออกแบบสวนภูมิทัศน์จีน ที่ผสานเนินเขาธรรมชาติและแหล่งน้ำเปิดเข้ากับองค์ประกอบประดิษฐ์ เช่น ศาลา โถง ตำหนัก วัด และสะพาน เพื่อสร้างสรรค์การผสมผสานที่ลงตัวและมีคุณค่าทางสุนทรียภาพที่โดดเด่น การออกแบบดั้งเดิม การวางแผน และภูมิทัศน์ของสถานที่แห่งนี้ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างพิถีพิถัน ซึ่งตอกย้ำถึงอิทธิพลอันยั่งยืนต่อศิลปะและวัฒนกรรมสวนแบบตะวันออก
บริบททางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม (Historical and Architectural Context)
พระราชวังฤดูร้อน มีประวัติศาสตร์ยาวนานย้อนกลับไปถึงปีคริสต์ศักราช 1750 (พ.ศ. 2293) ในรัชสมัยของจักรพรรดิเฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง (Qianlong Emperor of the Qing Dynasty) ผู้ทรงมีพระราชดำริให้ก่อสร้างขึ้นเป็น "อุทยานแห่งคลื่นน้ำใส" (Qingyiyuan) โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อเป็นพระราชอุทยานส่วนพระองค์และเป็นสถานที่เฉลิมฉลองวันประสูติของพระมารดา การออกแบบสวนหลวงแห่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจอย่างลึกซึ้งจากสุนทรียภาพและรูปแบบของสวนคลาสสิกในภาคใต้ของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจำลองทิวทัศน์อันงดงามของทะเลสาบซีหู (West Lake) ในเมืองหางโจว
ในเชิงสถาปัตยกรรม พระราชวังฤดูร้อนแสดงให้เห็นถึงปรัชญาการออกแบบที่โดดเด่น ซึ่งเน้นการหลอมรวมภูมิทัศน์ธรรมชาติเข้ากับงานสถาปัตยกรรมที่มนุษย์สร้างขึ้นอย่างแนบเนียน ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ใดที่บ่งชี้ถึงตำนานเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ มีเพียงข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏ การออกแบบสวนแห่งนี้ใช้ประโยชน์จากลักษณะทางภูมิศาสตร์ตามธรรมชาติอย่างชาญฉลาด โดยมีเนินเขาสูง 60 เมตร (ประมาณ 200 ฟุต) ชื่อว่า เนินเขามงคลอายุยืนยาว (Longevity Hill - Wanshou Shan) ซึ่งประดับประดาด้วยสิ่งก่อสร้างอันวิจิตรตระการตา และ ทะเลสาบคุนหมิง (Kunming Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาบที่มนุษย์สร้างขึ้นขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่ส่วนสำคัญของอุทยาน คิดเป็นสามในสี่ของพื้นที่ทั้งหมด 2.9 ตารางกิโลเมตร (1.1 ตารางไมล์) ของพระราชวัง
แม้จะประสบกับความเสียหายใหญ่หลวงถึงสองครั้งจากสงครามฝิ่นครั้งที่สองในปีคริสต์ศักราช 1860 (พ.ศ. 2403) และกบฏนักมวยในปีคริสต์ศักราช 1900 (พ.ศ. 2443) แต่พระราชวังฤดูร้อนก็ได้รับการบูรณะและฟื้นฟูอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้การนำของพระนางซูสีไทเฮา (Empress Dowager Cixi) ระหว่างปีคริสต์ศักราช 1884 (พ.ศ. 2427) ถึง 1895 (พ.ศ. 2438) ซึ่งเป็นช่วงที่เพิ่มความงดงามและองค์ประกอบใหม่ๆ ให้กับสถานที่แห่งนี้ ภายหลังการล่มสลายของราชวงศ์ชิงในปีคริสต์ศักราช 1911 (พ.ศ. 2454) พระราชวังแห่งนี้ได้ถูกเปลี่ยนสถานะจากทรัพย์สินส่วนพระองค์ของจักรพรรดิมาเป็นสวนสาธารณะ และเปิดให้สาธารณชนเข้าชมในปีคริสต์ศักราช 1924 (พ.ศ. 2467) ทำให้คุณค่าทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์นี้ยังคงอยู่คู่โลกสืบไป
จุดเด่นสำคัญ (Key Highlights)
พระราชวังฤดูร้อนมีจุดเด่นและสิ่งก่อสร้างที่สำคัญมากมาย ซึ่งสะท้อนถึงความงดงามทางสุนทรียศาสตร์และภูมิปัญญาในการออกแบบสวนหลวงของจีน:
-
ทะเลสาบคุนหมิง (Kunming Lake): เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มนุษย์สร้างขึ้น ครอบคลุมพื้นที่ส่วนสำคัญของสวน แสดงให้เห็นถึงเทคนิคการจัดการภูมิทัศน์น้ำอันซับซ้อน
-
เนินเขามงคลอายุยืนยาว (Longevity Hill - Wanshou Shan): เนินเขาสูงประมาณ 60 เมตร (200 ฟุต) ซึ่งประดับด้วยสถาปัตยกรรมจำนวนมาก เป็นจุดศูนย์กลางทางภูมิทัศน์ของพระราชวัง
-
ระเบียงยาว (The Long Corridor): ทางเดินมีหลังคายาว 728 เมตร (ประมาณครึ่งไมล์) ประดับประดาอย่างวิจิตรด้วยภาพเขียนที่บอกเล่าเรื่องราวจากประวัติศาสตร์จีน เทพนิยาย และนิทานพื้นบ้าน เป็นผลงานศิลปะที่มีความต่อเนื่องยาวนาน
-
เรือหินอ่อน (The Marble Boat - Boat of Purity and Ease): ศาลาที่ไม่เหมือนใครริมทะเลสาบที่ยื่นออกไปในทะเลสาบคุนหมิง เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและความมั่นคง
-
สะพานสิบเจ็ดโค้ง (Seventeen-Arch Bridge): สะพานอันงดงามที่มีโค้งทั้งหมด 17 โค้ง เชื่อมต่อชายฝั่งเข้ากับเกาะหนานหู (Nanhu Island)
-
หอพระพุทธศาสนา (Tower of Buddhist Incense): โครงสร้างแปดเหลี่ยมสูงตระหง่านสามชั้น ตั้งอยู่บนเนินเขามงคลอายุยืนยาว เคยเป็นสถานที่สำหรับการสวดมนต์ของพระนางซูสีไทเฮา
-
หอบำเพ็ญคุณงามความดีและอายุยืนยาว (Hall of Benevolence and Longevity): หอบริหารหลักซึ่งพระนางซูสีไทเฮาและจักรพรรดิกวางซู (Emperor Guangxu) ทรงบริหารราชการแผ่นดิน
-
อุทยานแห่งความกลมกลืน (Garden of Harmonious Interests): พื้นที่ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใครมากกว่า 20 แห่ง สะท้อนถึงความหลากหลายและความซับซ้อนของการออกแบบสวน
พระราชวังฤดูร้อน สวนหลวงในกรุงปักกิ่ง เป็นศูนย์รวมของสุนทรียภาพทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาในการออกแบบสวนจีนที่หาที่เปรียบไม่ได้ การที่สถานที่แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก ยืนยันถึงคุณค่าสากลอันโดดเด่นในฐานะผลงานชิ้นเอกของการผสมผสานธรรมชาติเข้ากับสถาปัตยกรรม ความสามารถในการสะท้อนปรัชญาการออกแบบสวนจีนที่ส่งอิทธิพลไปทั่วโลก และการเป็นสัญลักษณ์อันทรงพลังของอารยธรรมจีนอันยิ่งใหญ่ การอนุรักษ์พื้นที่แห่งนี้อย่างพิถีพิถัน ตอกย้ำถึงความสำคัญในการรักษาแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมที่เปี่ยมด้วยความงดงามทางประวัติศาสตร์และศิลปะอันลึกซึ้งไว้ให้แก่มวลมนุษยชาติต่อไป
-------------------------
ที่มา
- https://whc.unesco.org/en/list
- http://www.globalgeopark.org
- https://www.unesco.org/en/mab/wnbr/
รวบรวมรูปภาพ
-------------------------
------------------------
.
