2000 หมู่บ้านโบราณทางตอนใต้ของมณฑลอานฮุย-ซีตี้และหงชุน (Ancient Villages in Southern Anhui – Xidi and Hongcun)
google map
หมู่บ้านโบราณทางตอนใต้ของมณฑลอานฮุย-ซีตี้และหงชุน: มรดกแห่งสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมจีนโบราณ
หมู่บ้านโบราณทางตอนใต้ของมณฑลอานฮุย-ซีตี้และหงชุน (Ancient Villages in Southern Anhui – Xidi and Hongcun) ตั้งอยู่ในอำเภออี๋ (Yi County) เมืองหวงซาน (Huangshan City) มณฑลอานฮุย (Anhui Province) สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO World Heritage List) เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) การประกาศดังกล่าวเป็นการยกย่องคุณค่าอันโดดเด่นของการอนุรักษ์แหล่งที่อยู่อาศัยแบบที่ไม่ใช่เมือง (non-urban settlements) ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์อย่างน่าทึ่ง ซึ่งเป็นแบบแผนที่ส่วนใหญ่ได้สูญหายไปหรือถูกเปลี่ยนแปลงไปในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา
หมู่บ้านทั้งสองแห่งนี้เป็นเสมือนหน้าต่างที่เปิดไปสู่ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในวัฒนธรรมระดับภูมิภาคของมณฑลอานฮุยในยุคก่อนสมัยใหม่ โดยแสดงให้เห็นถึงการบูรณาการระหว่างกิจกรรมเชิงพาณิชย์ (commercial activities) การจัดระเบียบสังคมแบบตระกูล (clan-based social organization) และรูปแบบสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ การวางผังโดยรวม ภูมิทัศน์ รูปแบบสถาปัตยกรรม การตกแต่ง และเทคนิคการก่อสร้างของหมู่บ้านซีตี้และหงชุนยังคงรักษาลักษณะดั้งเดิมของหมู่บ้านในมณฑลอานฮุยตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 (พุทธศตวรรษที่ 19) จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 20 (พุทธศตวรรษที่ 25)
คุณค่าสากลอันโดดเด่น (Outstanding Universal Value)
หมู่บ้านโบราณทางตอนใต้ของมณฑลอานฮุย-ซีตี้และหงชุนได้รับการยอมรับว่ามีคุณค่าสากลอันโดดเด่นตามเกณฑ์การขึ้นทะเบียนขององค์การยูเนสโก 3 ข้อ ได้แก่:
-
เกณฑ์ที่ (iii): หมู่บ้านซีตี้และหงชุนแสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดถึงรูปแบบการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ในยุคศักดินา (feudal period) ซึ่งมีพื้นฐานมาจากเศรษฐกิจการค้าที่รุ่งเรือง
-
เกณฑ์ที่ (iv): อาคารและรูปแบบถนนของหมู่บ้านสะท้อนถึงโครงสร้างทางเศรษฐกิจสังคมของช่วงเวลาอันยาวนานในประวัติศาสตร์จีน
-
เกณฑ์ที่ (v): หมู่บ้านเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างยอดเยี่ยมของชุมชนชนบทแบบดั้งเดิมในประเทศจีน ซึ่งเป็นรูปแบบที่ส่วนใหญ่ได้สูญหายไปหรือถูกเปลี่ยนแปลงไปในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา
คุณค่าเหล่านี้ยังรวมถึงการเป็นตัวแทนของการบูรณาการศาสตร์ วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่สมัยโบราณ สะท้อนถึงวัฒนธรรมของสังคมศักดินา (feudal society) ในยุคราชวงศ์หมิง (Ming Dynasty) และราชวงศ์ชิง (Qing Dynasty) (ค.ศ. 1368-1912 / พ.ศ. 1911-2455) ด้วยการเน้นย้ำที่ลัทธิขงจื๊อ (Confucianism) การศึกษา และหลักฮวงจุ้ย (Fengshui) อย่างเข้มแข็ง ทำให้หมู่บ้านซีตี้และหงชุนเป็นแหล่งข้อมูลอันล้ำค่าสำหรับการศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมระดับภูมิภาค ด้วยคุณค่าทางวิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม และสุนทรียภาพ รวมถึงการอนุรักษ์ลักษณะเฉพาะของหมู่บ้านจีนดั้งเดิม
บริบททางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม (Historical and Architectural Context)
หมู่บ้านซีตี้และหงชุนเป็นตัวอย่างที่หาได้ยากของสถาปัตยกรรมและผังเมืองที่รอดพ้นจากการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย โดยยังคงรักษารูปแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์
หมู่บ้านซีตี้ (Xidi Village)
หมู่บ้านซีตี้มีต้นกำเนิดในยุคราชวงศ์ซ่ง (Song Dynasty) (ค.ศ. 960-1279 / พ.ศ. 1503-1822) โดยแรกเริ่มใช้ชื่อว่า ซีชวน (Xichuan, 西川) ซึ่งมีความหมายว่า "แม่น้ำตะวันตก" อันเนื่องมาจากมีสายน้ำหลายสายไหลผ่าน หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขา โดยมีการก่อสร้างเลียบไปตามและระหว่างลำธารสามสายที่ไหลจากทิศตะวันออกไปตะวันตกและมาบรรจบกันที่สะพานฮุยหยวน (Huiyuan Bridge) ทางทิศใต้ของหมู่บ้าน
ความรุ่งเรืองของซีตี้มีความเชื่อมโยงอย่างมีนัยสำคัญกับตระกูลหู (Hu family) ซึ่งเริ่มต้นการค้าขายในปี ค.ศ. 1465 (พ.ศ. 2008) ในช่วงราชวงศ์หมิง (Ming Dynasty) การเติบโตทางเศรษฐกิจนี้นำไปสู่การก่อสร้างอาคารส่วนตัวและอาคารสาธารณะขนาดใหญ่จำนวนมาก รูปแบบถนนของหมู่บ้านซีตี้มีถนนสายหลักที่วิ่งจากตะวันออกไปตะวันตก ขนาบข้างด้วยถนนขนานสองสาย และเชื่อมต่อกันด้วยตรอกซอกซอยแคบๆ หมู่บ้านนี้มีรูปทรงคล้ายเรือและถนนปูด้วยหินสีฟ้าอมเขียวอย่างงดงาม ซีตี้อนุรักษ์เรือนไม้ไว้มากกว่า 124 หลัง จากยุคราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง (Ming and Qing dynasties) ซึ่งหลายหลังมีการแกะสลักที่สวยงามและเปิดให้สาธารณชนเข้าชม ทำให้ซีตี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น "พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมที่อยู่อาศัยของจีนจากยุคหมิงและชิง" (Museum of Chinese Residential Architecture from the Ming and Qing Periods)
หมู่บ้านหงชุน (Hongcun Village)
หมู่บ้านหงชุนก่อตั้งขึ้นราวปี ค.ศ. 1100 (พ.ศ. 1643) ตั้งอยู่ที่เชิงเขาติดกับลำธาร มีชื่อเสียงเป็นพิเศษจากการออกแบบผังโดยรวมที่มีลักษณะคล้ายรูปโค (ox-shaped) ซึ่งเป็นความชาญฉลาดในการจัดการระบบน้ำ หนึ่งในจุดเด่นคือถนนสายหลักที่เชื่อมต่อทะเลสาบใต้ (South Lake, 南湖) และสระน้ำพระจันทร์ (Moon Pond, 月沼) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบน้ำในหมู่บ้าน อาคารที่ได้รับการอนุรักษ์จากราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงจำนวน 137-138 หลัง ยังคงตั้งอยู่ในตำแหน่งดั้งเดิม อาคารสถาบันศึกษาโบราณทะเลสาบใต้ (Ancient Academy of the South Lake หรือ Nanhu Shuyuan, 南湖書院) สะท้อนในทะเลสาบ สร้างทิวทัศน์ที่เงียบสงบพร้อมต้นไม้โบราณและอาคารที่สง่างามโดยรอบ
สถาปัตยกรรมในหงชุนโดดเด่นด้วยการแกะสลักไม้ที่วิจิตรบรรจง โดยเฉพาะที่เฉิงจื่อถาง (Chengzhi Hall, 承志堂) ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม "วังชาวบ้าน" (Folk Palace)
ข้อสังเกต: การกล่าวถึงรูปทรง "โค" ของหงชุนเป็นการอธิบายลักษณะการวางผังหมู่บ้าน ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์และผังเมือง ไม่ใช่ตำนานหรือเรื่องเล่าปรัมปรา
จุดเด่นสำคัญ (Key Highlights)
หมู่บ้านซีตี้ (Xidi Village)
-
เรือนไม้โบราณ: บ้านเรือนไม้ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีกว่า 124 หลัง ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง โดยหลายหลังโดดเด่นด้วยการแกะสลักไม้ อิฐ และหินอันวิจิตรบรรจง
-
ซุ้มประตูหูเหวินกวง: ซุ้มประตูหูเหวินกวง (Hu Wenguang Memorial Archway) เป็นสัญลักษณ์ของเกียรติยศและความรุ่งเรืองของตระกูลหู
-
คฤหาสน์ต้าฟู: คฤหาสน์ต้าฟู (Da Fu Grand House) เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรมที่อยู่อาศัยของชนชั้นสูงในยุคนั้น
-
โครงข่ายถนนและลำธาร: การวางผังถนนที่เป็นระเบียบพร้อมด้วยลำธารที่ไหลผ่าน สะท้อนถึงการออกแบบผังเมืองที่สอดคล้องกับธรรมชาติ
หมู่บ้านหงชุน (Hongcun Village)
-
การออกแบบรูปโค: การวางผังหมู่บ้านโดยรวมที่มีเอกลักษณ์คล้ายรูปโค ซึ่งเป็นระบบการจัดการน้ำที่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพ
-
ทะเลสาบใต้และสระน้ำพระจันทร์: ทะเลสาบใต้ (South Lake, 南湖) และสระน้ำพระจันทร์ (Moon Pond, 月沼) เป็นหัวใจสำคัญของระบบน้ำและภูมิทัศน์อันงดงามของหมู่บ้าน โดยเฉพาะสระน้ำพระจันทร์เป็นจุดที่นิยมสำหรับการถ่ายภาพ
-
สถาบันศึกษาทะเลสาบใต้: สถาบันศึกษาทะเลสาบใต้ (Nanhu Shuyuan, 南湖書院) เป็นศูนย์กลางการศึกษาโบราณที่สะท้อนถึงความสำคัญของการเรียนรู้ในสังคมจีน
-
เฉิงจื่อถาง: หอเฉิงจื่อถาง (Chengzhi Hall, 承志堂) หรือ "วังชาวบ้าน" (Folk Palace) ที่ขึ้นชื่อเรื่องการแกะสลักไม้ที่ซับซ้อนและวิจิตรบรรจง
-
สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์: หมู่บ้านหงชุนเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก" (Crouching Tiger, Hidden Dragon) ทำให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล
หมู่บ้านโบราณทางตอนใต้ของมณฑลอานฮุย-ซีตี้และหงชุน เป็นแหล่งมรดกโลกที่ทรงคุณค่า ซึ่งเป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของการอนุรักษ์ชุมชนชนบทแบบดั้งเดิมของจีนในยุคราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง การวางผังที่สะท้อนการจัดการน้ำ สถาปัตยกรรมที่วิจิตรบรรจง และการสะท้อนโครงสร้างทางสังคมและเศรษฐกิจที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ล้วนเป็นสิ่งที่ยืนยันคุณค่าสากลอันโดดเด่นของสถานที่แห่งนี้ หมู่บ้านเหล่านี้มิได้เป็นเพียงพยานหลักฐานทางประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังคงเป็นแหล่งมีชีวิตที่เผยให้เห็นถึงภูมิปัญญา วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่สืบทอดกันมายาวนาน ทำให้ซีตี้และหงชุนเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญสำหรับการศึกษาและชื่นชมมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของมนุษยชาติ
-------------------------
ที่มา
- https://whc.unesco.org/en/list
- http://www.globalgeopark.org
- https://www.unesco.org/en/mab/wnbr/
รวบรวมรูปภาพ
-------------------------
------------------------
.
