2000 ถ้ำหลงเหมิน (Longmen Grottoes)
google map
ถ้ำหลงเหมิน (Longmen Grottoes): มรดกโลกแห่งพุทธศิลป์และประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์
ถ้ำหลงเหมิน (Longmen Grottoes) ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองลั่วหยาง (Luoyang) มณฑลเหอหนาน (Henan Province) สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO World Heritage List) เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีคริสตศักราช 2000 (พ.ศ. 2543) สถานที่แห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นประจักษ์พยานอันโดดเด่นของความคิดสร้างสรรค์ทางศิลปะของมนุษย์ และเป็นตัวแทนของจุดสูงสุดแห่งศิลปะการแกะสลักหินของจีน
ถ้ำหลงเหมินถูกแกะสลักลงบนหน้าผาหินปูนริมสองฝั่งแม่น้ำอี้ (Yi River) ประกอบด้วยถ้ำและซอกหิน (niches) กว่า 2,300 แห่ง ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปเกือบ 110,000 องค์ ซึ่งมีขนาดแตกต่างกันอย่างมาก ตั้งแต่ขนาดเล็กเพียง 2.5 เซนติเมตร ไปจนถึงพระพุทธรูปไวโรจนะ (Vairocana Buddha) ขนาดมหึมาสูง 17 เมตร ในถ้ำเฟิงเซียนซื่อ (Fengxiansi Cave) นอกจากนี้ ยังพบจารึกบนศิลา (steles) มากกว่า 2,800 ชิ้น และเจดีย์ (Buddhist pagodas) มากกว่า 60 องค์
การก่อสร้างถ้ำหลงเหมินเริ่มต้นขึ้นในปีคริสตศักราช 493 (พ.ศ. 1036) ในรัชสมัยของจักรพรรดิเสี้ยวเหวิน (Emperor Xiaowen) แห่งราชวงศ์เว่ยเหนือ (Northern Wei Dynasty) ซึ่งได้ย้ายเมืองหลวงมายังลั่วหยาง ช่วงเวลาที่การแกะสลักดำเนินไปอย่างเข้มข้นที่สุดคือตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 8 ครอบคลุมทั้งราชวงศ์เว่ยเหนือและราชวงศ์ถัง (Tang Dynasty) โดยประมาณร้อยละ 30 ของถ้ำทั้งหมดสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์เว่ยเหนือ และร้อยละ 60 สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง
คุณค่าสากลอันโดดเด่น (Outstanding Universal Value)
ถ้ำหลงเหมินได้รับการยอมรับว่ามีคุณค่าสากลอันโดดเด่นตามเกณฑ์ทางวัฒนธรรมสามประการของยูเนสโก ดังนี้:
-
เกณฑ์ (i): ประติมากรรมเหล่านี้เป็นประจักษ์พยานอันโดดเด่นของความคิดสร้างสรรค์ทางศิลปะของมนุษย์ แสดงถึงความสามารถอันน่าทึ่งในการสร้างสรรค์งานพุทธศิลป์ขนาดใหญ่และละเอียดอ่อนบนหน้าผาหิน
-
เกณฑ์ (ii): สถานที่แห่งนี้สะท้อนถึงความสมบูรณ์แบบของรูปแบบศิลปะที่สืบทอดมายาวนาน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการวิวัฒนาการทางวัฒนธรรมของภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผสมผสานศิลปะจีนเข้ากับอิทธิพลจากเอเชียกลาง
-
เกณฑ์ (iii): งานแกะสลักหินอันวิจิตรงดงามเหล่านี้รวบรวมระดับวัฒนธรรมที่สูงส่งและสังคมที่มีความซับซ้อนของจีนในสมัยราชวงศ์ถังไว้ได้อย่างชัดเจน
ถ้ำหลงเหมินนำเสนอภาพที่อุดมสมบูรณ์ของนัยยะทางศาสนาและวัฒนธรรม โดยแสดงให้เห็นถึงการหลอมรวมศิลปะจีนเข้ากับอิทธิพลจากเอเชียกลางอย่างกลมกลืน และสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบอันลึกซึ้งของพระพุทธศาสนาในภาคตะวันออกของประเทศจีน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์จำนวนมหาศาลที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ศิลปะ อักษรวิจิตร ดนตรี เครื่องแต่งกาย การแพทย์ สถาปัตยกรรม และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
บริบททางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม (Historical and Architectural Context)
ประวัติศาสตร์: การก่อสร้างถ้ำหลงเหมินเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในปีคริสตศักราช 493 (พ.ศ. 1036) หลังจากจักรพรรดิเสี้ยวเหวินแห่งราชวงศ์เว่ยเหนือได้ทรงย้ายราชธานีมายังเมืองลั่วหยาง การย้ายเมืองหลวงครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่หลายของพุทธศาสนาและศิลปะการแกะสลักหินในภูมิภาคนี้ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากพุทธศิลป์ที่พัฒนามาก่อนในถ้ำม่อเกา (Mogao Grottoes) และถ้ำหยุนกัง (Yungang Grottoes) ช่วงเวลาการสร้างสรรค์ที่เข้มข้นที่สุดกินเวลายาวนานกว่า 300 ปี ตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 8 ซึ่งครอบคลุมราชวงศ์เว่ยเหนือและราชวงศ์ถัง
สถาปัตยกรรมและการแกะสลัก: ถ้ำหลงเหมินโดดเด่นด้วยการแกะสลักลงบนหน้าผาหินปูนธรรมชาติที่ทอดยาวเลียบแม่น้ำอี้ หน้าผาเหล่านี้ถูกเปลี่ยนให้เป็นมหาวิหารทางพุทธศาสนาขนาดใหญ่ โดยมีถ้ำและซอกหินมากกว่า 2,300 แห่ง แต่ละแห่งบรรจุพระพุทธรูปขนาดต่างๆ ที่แสดงถึงวิวัฒนาการทางศิลปะในแต่ละยุคสมัย
-
สมัยราชวงศ์เว่ยเหนือ: คิดเป็นประมาณร้อยละ 30 ของถ้ำทั้งหมด ลักษณะเด่นของศิลปะในยุคนี้คือพระพักตร์ที่เรียวยาว บอบบาง และรอยยิ้มอันสงบ ถ้ำกู่หยางต้ง (Guyangdong) เป็นถ้ำที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในสมัยราชวงศ์เว่ยเหนือ แสดงให้เห็นถึงรูปแบบศิลปะเริ่มต้นที่มีความเคร่งขรึมและสง่างาม รวมถึงจารึกอักษรวิจิตรจำนวนมาก
-
สมัยราชวงศ์ถัง: คิดเป็นประมาณร้อยละ 60 ของถ้ำทั้งหมด ศิลปะในยุคนี้มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น พระพักตร์อิ่มเอิบ สมบูรณ์ และแสดงออกถึงความเมตตา ถ้ำเฟิงเซียนซื่อ (Fengxiansi Cave) เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดของศิลปะราชวงศ์ถัง ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปไวโรจนะ (Vairocana Buddha) ขนาดใหญ่ถึง 17 เมตร ซึ่งเป็นศูนย์กลางของกลุ่มประติมากรรม แสดงถึงความยิ่งใหญ่และสง่างามอันเป็นเอกลักษณ์ของยุคทองแห่งพุทธศิลป์จีน
องค์ประกอบอื่นๆ: นอกจากพระพุทธรูปแล้ว ถ้ำหลงเหมินยังเป็นแหล่งรวมจารึกบนศิลามากกว่า 2,800 ชิ้น ซึ่งเป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ อักษรวิจิตร และปรัชญาพุทธศาสนาอันมีค่า ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีเจดีย์มากกว่า 60 องค์ ที่สะท้อนถึงรูปแบบสถาปัตยกรรมและพิธีกรรมทางศาสนาในแต่ละช่วงเวลา ข้อมูลทั้งหมดที่ปรากฏในถ้ำเหล่านี้ ถือเป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์และหลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญ ไม่มีหลักฐานของตำนานที่ชัดเจนปรากฏในบันทึกที่เกี่ยวข้องกับถ้ำหลงเหมิน
จุดเด่นสำคัญ (Key Highlights)
ถ้ำหลงเหมินนำเสนอจุดเด่นหลายประการที่ดึงดูดนักวิชาการและนักท่องเที่ยวเชิงมรดก:
-
ประติมากรรมพุทธรูปขนาดใหญ่: พระพุทธรูปไวโรจนะ (Vairocana Buddha) สูง 17 เมตร ในถ้ำเฟิงเซียนซื่อ (Fengxiansi Cave) ถือเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นและเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบที่สุดของศิลปะการแกะสลักหินในสมัยราชวงศ์ถัง (Tang Dynasty) รายล้อมด้วยพระโพธิสัตว์และเทพผู้พิทักษ์ขนาดมหึมา
-
ความหลากหลายของรูปแบบศิลปะ: ถ้ำแห่งนี้แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของพุทธศิลป์จีน ตั้งแต่รูปแบบที่สง่างามแต่เคร่งขรึมของราชวงศ์เว่ยเหนือ (Northern Wei Dynasty) ในถ้ำกู่หยางต้ง (Guyangdong) ไปจนถึงรูปแบบที่สมจริงและมีชีวิตชีวาของราชวงศ์ถัง
-
จารึกและเจดีย์: จารึกบนศิลา (steles) กว่า 2,800 ชิ้น ไม่เพียงเป็นงานศิลปะอักษรวิจิตรที่งดงาม แต่ยังเป็นแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์อันล้ำค่าเกี่ยวกับศาสนา สังคม และวัฒนธรรม นอกจากนี้ เจดีย์กว่า 60 องค์ ยังสะท้อนถึงสถาปัตยกรรมพุทธศาสนาที่หลากหลาย
-
การผสมผสานทางวัฒนธรรม: ถ้ำหลงเหมินเป็นพยานหลักฐานถึงการหลอมรวมศิลปะจีนพื้นถิ่นเข้ากับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากอินเดียและเอเชียกลาง ซึ่งเป็นผลมาจากการเผยแผ่พระพุทธศาสนาผ่านเส้นทางสายไหม
-
ทัศนียภาพธรรมชาติอันงดงาม: การแกะสลักบนหน้าผาหินปูนริมแม่น้ำอี้ (Yi River) ผสมผสานเข้ากับภูมิทัศน์ธรรมชาติ สร้างสรรค์ความงามที่ลงตัวระหว่างงานฝีมือของมนุษย์และธรรมชาติ
ถ้ำหลงเหมิน (Longmen Grottoes) เป็นมรดกโลกที่มีความสำคัญอย่างยิ่งทางประวัติศาสตร์และศิลปะ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความคิดสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัดของมนุษย์ และการพัฒนาที่รุ่งโรจน์ของพุทธศิลป์ในประเทศจีนตลอดหลายศตวรรษ การแกะสลักหินที่วิจิตรบรรจงและหลากหลายรูปแบบสะท้อนให้เห็นถึงความลึกซึ้งทางวัฒนธรรมและความศรัทธาทางศาสนาในสมัยราชวงศ์เว่ยเหนือและราชวงศ์ถัง อีกทั้งยังเป็นแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์อันล้ำค่าที่ช่วยให้เข้าใจถึงสังคม ศาสนา และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในอดีต ด้วยคุณค่าสากลอันโดดเด่น ถ้ำหลงเหมินจึงยังคงเป็นสถานที่ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มาสัมผัสความงามและเรียนรู้เรื่องราวอันยิ่งใหญ่แห่งพุทธศิลป์จีน
-------------------------
ที่มา
- https://whc.unesco.org/en/list
- http://www.globalgeopark.org
- https://www.unesco.org/en/mab/wnbr/
รวบรวมรูปภาพ
-------------------------
------------------------
.
