2008 หมู่บ้านดินถู่โหลวแห่งฝูเจี้ยน (Fujian Tulou)
google map
หมู่บ้านดินถู่โหลวแห่งฝูเจี้ยน: มรดกโลกแห่งสถาปัตยกรรมเพื่อการตั้งถิ่นฐานและวิถีชีวิตชุมชน (Fujian Tulou: A World Heritage of Settlement Architecture and Communal Living)
หมู่บ้านดินถู่โหลวแห่งฝูเจี้ยน (Fujian Tulou) เป็นกลุ่มอาคารดินที่มีลักษณะเฉพาะตัว ตั้งอยู่ในภูมิภาคภูเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลฝูเจี้ยน (Fujian Province) สาธารณรัฐประชาชนจีน ห่างจากช่องแคบไต้หวัน (Taiwan Strait) เข้าไปในแผ่นดินใหญ่ อาคารเหล่านี้เป็นผลงานสถาปัตยกรรมชนบทอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งส่วนใหญ่สร้างขึ้นโดยชาวฮากกา (Hakka people) สะท้อนถึงการตอบสนองต่อการตั้งถิ่นฐานของชุมชนที่คงอยู่ยาวนานหลายศตวรรษ อาคารถู่โหลวจำนวน 46 แห่ง กระจายตัวอยู่ตามพื้นที่กว่า 120 กิโลเมตร ก่อสร้างขึ้นระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 20 (พุทธศตวรรษที่ 20 ถึงพุทธศตวรรษที่ 25) โดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศขึ้นทะเบียนให้หมู่บ้านดินถู่โหลวแห่งฝูเจี้ยนเป็นแหล่งมรดกโลก (World Heritage Site) เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 32 ณ เมืองควิเบกซิตี (Quebec City) ประเทศแคนาดา ความโดดเด่นของถู่โหลวอยู่ที่การอนุรักษ์สภาพดั้งเดิมไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของรูปแบบการตั้งถิ่นฐานเพื่อการอยู่ร่วมกันของชุมชนที่ยังคงดำรงอยู่ตลอดช่วงเวลาอันยาวนาน
คุณค่าโดดเด่นสากล (Outstanding Universal Value)
หมู่บ้านดินถู่โหลวแห่งฝูเจี้ยน ได้รับการยอมรับในฐานะแหล่งมรดกโลกภายใต้เกณฑ์ทางวัฒนธรรมของยูเนสโก (UNESCO's cultural criteria) จำนวน 3 ข้อ ซึ่งตอกย้ำถึงคุณค่าโดดเด่นสากล (Outstanding Universal Value) ของแหล่งนี้:
-
เกณฑ์ (iii): ถู่โหลวเป็นประจักษ์พยานอันโดดเด่นของขนบธรรมเนียมทางวัฒนธรรมที่สืบทอดมายาวนาน ในการสร้างอาคารป้องกันเพื่อการอยู่อาศัยร่วมกันของชุมชน สะท้อนให้เห็นถึงประเพณีการก่อสร้างที่ซับซ้อน และแนวคิดเรื่องความกลมกลืนและความร่วมมือกันภายในกลุ่ม
-
เกณฑ์ (iv): ถู่โหลวมีความโดดเด่นเป็นพิเศษในด้านขนาด ประเพณีการก่อสร้าง และการใช้งาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการตอบสนองของสังคมต่อช่วงเวลาต่างๆ ทางประวัติศาสตร์เศรษฐกิจและสังคม
-
เกณฑ์ (v): ในรูปแบบของอาคาร ถู่โหลวเป็นการสะท้อนที่เป็นเอกลักษณ์ของการใช้ชีวิตแบบรวมหมู่และความจำเป็นในการป้องกัน และในความสัมพันธ์ที่กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ถือเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์
คุณค่าโดดเด่นสากลของถู่โหลวคือการเป็นภาพสะท้อนที่พิเศษยิ่งของการตอบสนองของชุมชนต่อการตั้งถิ่นฐานที่ดำรงอยู่มาอย่างยาวนาน แสดงให้เห็นถึงศิลปะอันยอดเยี่ยมของการก่อสร้างด้วยดินที่พัฒนาขึ้น คิดค้น และวิวัฒนาการมาตลอดเจ็ดศตวรรษ ความสัมพันธ์ของอาคารกับภูมิทัศน์ยังสะท้อนถึงหลักการฮวงจุ้ย (Feng Shui principles) รวมถึงแนวคิดด้านความงามและความกลมกลืน ถู่โหลวจึงเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของประเพณีการก่อสร้างที่แสดงถึงการใช้ชีวิตแบบรวมหมู่และการจัดระเบียบเพื่อการป้องกัน โดยแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมได้อย่างชัดเจน
บริบททางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม (Historical and Architectural Context)
บริบททางประวัติศาสตร์
การก่อสร้างหมู่บ้านดินถู่โหลว มีรากฐานมาจากประวัติศาสตร์การอพยพของชาวฮากกา (Hakka people) ซึ่งอพยพจากภาคเหนือตอนกลางของจีนมายังภูมิภาคภูเขาทางตะวันออกเฉียงใต้ของมณฑลฝูเจี้ยน (Fujian) ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 12 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 20 (พุทธศตวรรษที่ 17 ถึงพุทธศตวรรษที่ 25) การพัฒนาบ้านเรือนที่มีลักษณะคล้ายป้อมปราการเหล่านี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง (Ming Dynasty) ระหว่าง ค.ศ. 1368–1644 (พ.ศ. 1911–2187) ซึ่งเป็นผลมาจากการเผชิญหน้ากับความขัดแย้งและความจำเป็นในการป้องกันตนเองจากกลุ่มโจรติดอาวุธ ด้วยเหตุนี้ ถู่โหลวจึงถูกออกแบบมาเพื่อให้ตระกูลทั้งหมดสามารถอยู่อาศัยร่วมกันในที่ตั้งถิ่นฐานที่แข็งแรงได้ อาคารถู่โหลวที่ซับซ้อนและวิจิตรงดงามที่สุดส่วนใหญ่สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 17 และ 18 (พุทธศตวรรษที่ 22 และ 23)
บริบททางสถาปัตยกรรม
ถู่โหลวเป็นอาคารดินขนาดใหญ่ มีลักษณะปิดล้อมและมีการเสริมความแข็งแรง รูปแบบที่พบบ่อยที่สุดคือทรงกลมหรือทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยมีลานเปิดตรงกลาง อาคารเหล่านี้มีแนวคิดทางสถาปัตยกรรมแบบ "ปิดภายนอก เปิดภายใน" ("closed outside, open inside") กำแพงด้านนอกสร้างด้วยดินอัด (rammed earth) ที่มีความหนามาก โดยมีความสูงตั้งแต่สามถึงห้าชั้น และส่วนล่างสุดของกำแพงด้านนอกอาจหนาถึง 2 เมตร ฐานรากมักสร้างด้วยหินทราย โดยมีส่วนล่างของกำแพงด้านนอกหนาได้ถึง 3 เมตร เพื่อเพิ่มความทนทานและแข็งแรงเพื่อการป้องกัน ภายในอาคารมีทางเข้าหลักเพียงทางเดียว และมีหน้าต่างเฉพาะที่ชั้นสองขึ้นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกัน
วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างถู่โหลวเป็นวัสดุในท้องถิ่น ได้แก่ ดินเหนียว ดินลูกรัง ปูนขาว และหิน สำหรับโครงสร้างภายในใช้ไม้ไผ่ที่จัดเรียงในแนวตั้งเพื่อเสริมความแข็งแรง บางส่วนที่สำคัญของอาคารอาจได้รับการเสริมความแข็งแรงด้วยส่วนผสมของข้าวเหนียวและน้ำตาลทรายแดง เพื่อเพิ่มความทนทานเป็นพิเศษ
ภายในถู่โหลว ห้องพักจะถูกแบ่งตามแนวตั้งระหว่างครอบครัวต่างๆ ซึ่งส่งเสริมความเท่าเทียมกัน เนื่องจากพื้นที่ของแต่ละครอบครัวมีขนาดใกล้เคียงกัน ทุกคนจะใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน โดยทั่วไปแล้ว ชั้นหนึ่งมักใช้เป็นห้องครัวและพื้นที่รับประทานอาหาร ชั้นสองสำหรับเก็บธัญพืช และชั้นบนสุดสำหรับห้องนอน
จุดเด่นสำคัญ (Key Highlights)
ถู่โหลว 46 แห่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกนั้นกระจายตัวอยู่ในเขตหนานจิง (Nanjing), หย่งติ้ง (Yongding) และหัวอาน (Hua'an) ของมณฑลฝูเจี้ยน โดยมีจุดเด่นสำคัญดังนี้:
-
กลุ่มถู่โหลวเถียนหลัวเคิง (Tianluokeng Tulou Cluster): มีชื่อเสียงจากการจัดเรียงอาคารที่เป็นเอกลักษณ์ โดยมีอาคารทรงกลมสี่หลังล้อมรอบอาคารทรงสี่เหลี่ยมหนึ่งหลัง มักถูกเรียกว่า "สี่จานหนึ่งซุป" (four dishes and one soup)
-
เฉิงฉีโหลว (Chengqi Lou): ได้รับฉายาว่า "ราชาแห่งถู่โหลว" (the king of tulou) ตั้งอยู่ในกลุ่มถู่โหลวเกาเป่ย (Gaobei Tulou cluster) เป็นถู่โหลวทรงกลมขนาดใหญ่ที่มีวงแหวนซ้อนกันสี่ชั้น
-
เจิ้นเฉิงโหลว (Zhencheng Lou): รู้จักกันในชื่อ "เจ้าชายแห่งถู่โหลว" (the prince of tulou) เป็นถู่โหลวสองวงแหวนที่ตั้งอยู่ในกลุ่มถู่โหลวหงเคิง (Hongkeng cluster) และมีการแสดงอิทธิพลตะวันตกในส่วนของหอประชุมบรรพบุรุษ
-
จี้ชิ่งโหลว (Jiqinglou): เป็นถู่โหลวทรงกลมที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในกลุ่มถู่โหลวชูซี่ (Chuxi Tulou cluster) ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1419 (พ.ศ. 1962)
-
อี้ว์ชางโหลว (Yuchang Lou): สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1308 (พ.ศ. 1851) เป็นหนึ่งในถู่โหลวที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงอยู่ และมีชื่อเสียงจากเสาที่เอียงอย่างเห็นได้ชัด
-
เหอกุยโหลว (Hegui Lou): เป็นถู่โหลวทรงสี่เหลี่ยมที่สูงที่สุด ซึ่งสร้างอยู่บนพื้นที่บึงน้ำเมื่อกว่า 200 ปีที่แล้ว
-
หมู่บ้านทาเซีย (Taxia Village): เป็นส่วนหนึ่งของแหล่งมรดกโลกยูเนสโก มีชื่อเสียงในด้านการผสมผสานระหว่างธรรมชาติ สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม และวัฒนธรรมฮากกา โดยมีลำธารไหลผ่านหมู่บ้าน
หมู่บ้านดินถู่โหลวแห่งฝูเจี้ยน เป็นพยานหลักฐานอันล้ำค่าของมรดกทางวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรม ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตแบบรวมหมู่และความเฉลียวฉลาดในการป้องกันตนเองของชาวฮากกา อาคารดินอันแข็งแกร่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคี ความเท่าเทียม และการปรับตัวของมนุษย์ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ถู่โหลวแต่ละแห่งเป็นตัวแทนของศิลปะการก่อสร้างด้วยดินที่พัฒนาขึ้นตลอดเจ็ดศตวรรษ แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมทางโครงสร้างและความสัมพันธ์อันกลมกลืนกับภูมิทัศน์หุบเขาอันอุดมสมบูรณ์ การขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกจึงเป็นการเน้นย้ำถึงคุณค่าโดดเด่นสากลของถู่โหลว ซึ่งสมควรได้รับการอนุรักษ์ไว้สำหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต
.
-------------------------
ที่มา
- https://whc.unesco.org/en/list
- http://www.globalgeopark.org
- https://www.unesco.org/en/mab/wnbr/
รวบรวมรูปภาพ
-------------------------
------------------------
.
