2008 อุทยานแห่งชาติเขาซานชิงชาน (Mount Sanqingshan National Park)
google map
อุทยานแห่งชาติเขาซานชิงชาน: มรดกโลกทางธรรมชาติและศูนย์กลางแห่งเต๋าอันศักดิ์สิทธิ์
อุทยานแห่งชาติเขาซานชิงชาน (Mount Sanqingshan National Park) ตั้งอยู่ในมณฑลเจียงซี (Jiangxi Province) สาธารณรัฐประชาชนจีน (China) เป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ (World Natural Heritage site) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) การขึ้นทะเบียนนี้เป็นการรับรองถึงคุณค่าอันโดดเด่นในระดับสากลของภูมิทัศน์อันงดงามตระการตา ซึ่งโดดเด่นด้วยยอดเขาและเสาหินแกรนิตที่มีรูปร่างเป็นเอกลักษณ์ พร้อมด้วยป่าไม้ที่หลากหลายและปรากฏการณ์ทางอุตุนิยมวิทยาอันน่าทึ่งที่รังสรรค์ทัศนียภาพอันงดงามเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
นอกเหนือจากความยิ่งใหญ่ทางธรรมชาติแล้ว เขาซานชิงชานยังเป็นภูเขาเต๋า (Taoist mountain) อันศักดิ์สิทธิ์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,600 ปี โดยชื่อ "ซานชิง" (Sanqing) หมายถึง "สามบริสุทธิ์" (The Three Pure Ones) ซึ่งอ้างอิงถึงยอดเขาหลักสามยอดที่เชื่อกันว่ามีรูปร่างคล้ายเทพเจ้าสำคัญที่สุดในลัทธิเต๋า ภายในอุทยานประกอบด้วยสถาปัตยกรรมเต๋าโบราณจำนวนมาก อาทิ วัด (temples) วัง (palaces) และเจดีย์ (pagodas) ทำให้ที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง" (open-air museum) ของสถาปัตยกรรมเต๋าโบราณ และเป็นหน่วยพิทักษ์โบราณวัตถุทางวัฒนธรรมแห่งชาติ (national cultural relics protection unit) ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติเขาซานชิงชานยังได้รับการกำหนดให้เป็นอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก (UNESCO Global Geopark) และมีสถานะเป็นจุดชมทิวทัศน์สำคัญแห่งชาติ (National Key Scenic Spot), พื้นที่ท่องเที่ยวระดับ AAAAA แห่งชาติ (National AAAAA Tourist Area), และแหล่งมรดกธรรมชาติแห่งชาติ (National Natural Heritage site) โดยได้รับการบริหารจัดการโดยคณะกรรมการจัดการเขาซานชิงชาน (Mt. Sanqingshan Management Committee)
คุณค่าโดดเด่นระดับสากล (Outstanding Universal Value)
อุทยานแห่งชาติเขาซานชิงชานได้รับการยอมรับถึงคุณค่าโดดเด่นระดับสากลภายใต้เกณฑ์ (vii) ของยูเนสโก ซึ่งระบุถึงพื้นที่ที่มีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันเหนือชั้น หรือมีความงามทางธรรมชาติอันน่าทึ่งและมีความสำคัญทางสุนทรียภาพ ยอดเขาและเสาหินแกรนิตที่มีรูปร่างแปลกตาอันเป็นเอกลักษณ์คือแก่นแท้ของภูมิทัศน์ที่นี่ ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากกระบวนการทางธรณีวิทยาอันซับซ้อนที่ก่อให้เกิดลักษณะทางธรณีวิทยาที่หาได้ยากยิ่ง ตัวอุทยานประกอบด้วยยอดเขาที่แตกต่างกันมากกว่า 48 ยอด และหินรูปร่างแปลกตา 52 แห่ง ที่สร้างสรรค์ทัศนียภาพที่มักถูกเปรียบเปรยว่าเป็น "แดนสวรรค์" (fairy land)
ความงามทางธรรมชาติของเขาซานชิงชานยังได้รับการเสริมเติมด้วยป่าไม้ที่หลากหลาย ซึ่งครอบคลุมระบบนิเวศหลายระดับ และปรากฏการณ์ทางอุตุนิยมวิทยาที่โดดเด่น เช่น ทะเลหมอก (sea of clouds), แสงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณและยามอัสดง (sunrises and sunsets), และทิวทัศน์น้ำแข็งในฤดูหนาว สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สร้างความประทับใจและความรู้สึกดื่มด่ำแก่ผู้มาเยือน นอกจากนี้ คุณค่าทางธรรมชาติยังผสานเข้ากับคุณค่าทางวัฒนธรรมในฐานะแหล่งกำเนิดและศูนย์กลางสำคัญของลัทธิเต๋า ซึ่งเพิ่มพูนมิติความสำคัญของอุทยานในฐานะพื้นที่ที่มีความเชื่อมโยงอันลึกซึ้งระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ
บริบททางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม (Historical and Architectural Context)
บริบททางประวัติศาสตร์: เขาซานชิงชานมีสถานะเป็นภูเขาเต๋าอันศักดิ์สิทธิ์มายาวนานกว่า 1,600 ปี โดยหลักฐานทางประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นถึงการเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรมของลัทธิเต๋ามาตั้งแต่สมัยโบราณ ชื่อ "ซานชิง" (Sanqing) มาจากความเชื่อที่ว่ายอดเขาหลักสามยอดของภูเขามีลักษณะคล้ายคลึงกับ "สามบริสุทธิ์" (The Three Pure Ones) ซึ่งเป็นเทพเจ้าสูงสุดสามองค์ในศาสนาเต๋า แม้การเปรียบเทียบรูปลักษณ์ยอดเขากับเทพเจ้าจะเป็นไปตามตำนานและความเชื่อ แต่การดำรงอยู่ของลัทธิเต๋าในพื้นที่นี้มาอย่างยาวนานและต่อเนื่องเป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการบันทึกไว้
บริบททางสถาปัตยกรรม: เขาซานชิงชานเป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมเต๋าโบราณจำนวนมาก ซึ่งเป็นตัวอย่างที่สำคัญของศิลปะและเทคนิคการก่อสร้างในแต่ละยุคสมัย โครงสร้างเหล่านี้ประกอบด้วย วัด (temples), วัง (palaces), และเจดีย์ (pagodas) ซึ่งสร้างขึ้นอย่างกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ โบราณสถานเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงอาคารทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาเต๋าที่เน้นความสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ การออกแบบมักจะผสานภูมิทัศน์หินผา ต้นไม้ และน้ำตกเข้ากับโครงสร้างทางสถาปัตยกรรม เพื่อสร้างพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เอื้อต่อการทำสมาธิและการปฏิบัติธรรม แม้รายงานวิจัยจะไม่ได้ระบุขนาดหรือสัดส่วนของสถาปัตยกรรมเฉพาะเจาะจง แต่การรวมตัวของสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ทำให้เขาซานชิงชานมีสถานะเป็น "พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง" ที่สำคัญยิ่งต่อการศึกษาประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมเต๋าของจีน
จุดเด่นที่สำคัญ (Key Highlights)
-
เสาหินแกรนิตและยอดเขาที่เป็นเอกลักษณ์: อุทยานโดดเด่นด้วยภูมิทัศน์หินแกรนิตที่วิจิตรบรรจง โดยมีมากกว่า 48 ยอดเขาที่แตกต่างกัน และหินรูปร่างแปลกตาถึง 52 แห่ง ที่เกิดขึ้นจากการผุพังและการกัดเซาะตามธรรมชาติมานับล้านปี ทำให้เกิดรูปร่างที่ชวนให้จินตนาการถึงสิ่งมีชีวิตหรือวัตถุต่างๆ
-
ความงามทางธรรมชาติอันน่าทึ่ง: ประกอบด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์และระบบนิเวศที่หลากหลาย ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล นอกจากนี้ ปรากฏการณ์ทางอุตุนิยมวิทยา เช่น การเกิดทะเลหมอกยามเช้า และทิวทัศน์น้ำแข็งในฤดูหนาว ยังเพิ่มความงดงามและเสน่ห์ให้กับภูมิทัศน์
-
ศูนย์กลางวัฒนธรรมเต๋าอันศักดิ์สิทธิ์: ด้วยประวัติศาสตร์กว่า 1,600 ปี เขาซานชิงชานเป็นหนึ่งในภูเขาเต๋าที่สำคัญที่สุดในประเทศจีน มีวัด วัง และเจดีย์เต๋าโบราณจำนวนมาก ที่สะท้อนถึงความศรัทธาและปรัชญาของลัทธิเต๋า ซึ่งยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
-
ภูมิทัศน์แบบ "แดนสวรรค์": การผสมผสานระหว่างยอดเขาหินแกรนิตที่สูงตระหง่าน ป่าไม้เขียวขจี และปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ ทำให้เขาซานชิงชานได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานที่ที่มีความงามราวกับ "แดนสวรรค์" หรือดินแดนแห่งเทพนิยาย
อุทยานแห่งชาติเขาซานชิงชานตั้งอยู่ในเมืองซ่างเหรา (Shangrao City) มณฑลเจียงซี (Jiangxi Province) สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของคณะกรรมการจัดการเขาซานชิงชาน (Mt. Sanqingshan Management Committee) ในฐานะที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวระดับ AAAAA แห่งชาติ อุทยานมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐาน
อุทยานแห่งชาติเขาซานชิงชาน เป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติที่เปี่ยมล้นด้วยคุณค่าอันโดดเด่นระดับสากล ด้วยภูมิทัศน์หินแกรนิตที่มีรูปร่างเป็นเอกลักษณ์ ป่าไม้อันหลากหลาย และปรากฏการณ์ทางอุตุนิยมวิทยาที่รังสรรค์ความงามอันน่าอัศจรรย์ สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงความภาคภูมิใจของประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นสมบัติล้ำค่าของมวลมนุษยชาติ นอกเหนือจากความงดงามทางธรรมชาติแล้ว การเป็นศูนย์กลางสำคัญของลัทธิเต๋าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าหนึ่งสหัสวรรษครึ่ง และเป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมโบราณอันทรงคุณค่า ยังเป็นการเน้นย้ำถึงความเชื่อมโยงอันลึกซึ้งระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ และมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดมา อุทยานแห่งนี้จึงเป็นตัวอย่างอันสมบูรณ์แบบของการผสมผสานระหว่างมรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และความซับซ้อนของโลกใบนี้ และคุณค่าที่ต้องได้รับการอนุรักษ์ไว้สำหรับคนรุ่นหลัง
.
-------------------------
ที่มา
- https://whc.unesco.org/en/list
- http://www.globalgeopark.org
- https://www.unesco.org/en/mab/wnbr/
รวบรวมรูปภาพ
-------------------------
------------------------
.
