2006 แหล่งโบราณคดีหยินซู (The archaeological site of Yin Xu)
google map
แหล่งโบราณคดีหยินซู: มรดกแห่งอารยธรรมยุคทองของจีนโบราณ
แหล่งโบราณคดีหยินซู (Yin Xu) เป็นพื้นที่ทางโบราณคดีที่สำคัญยิ่ง ตั้งอยู่ใกล้เมืองอันหยาง (Anyang City) มณฑลเหอหนาน (Henan Province) สาธารณรัฐประชาชนจีน ห่างจากกรุงปักกิ่งไปทางใต้ประมาณ 500 กิโลเมตร ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปีคริสต์ศักราช 2006 (พุทธศักราช 2549) แหล่งโบราณคดีแห่งนี้เป็นตัวแทนของราชธานีสุดท้ายในยุคปลายของราชวงศ์ชาง (late Shang Dynasty) ซึ่งรุ่งเรืองระหว่าง 1300 ถึง 1046 ปีก่อนคริสต์ศักราช (B.C.E.) หรือประมาณ 757 ถึง 503 ปีก่อนพุทธศักราช (B.B.E.) อันเป็นยุคทองของวัฒนธรรม หัตถกรรม และวิทยาศาสตร์จีนในยุคสำริด (Chinese Bronze Age) แหล่งหยินซูได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองหลวงโบราณแห่งแรกของจีนที่ได้รับการยืนยันจากเอกสารทางประวัติศาสตร์ จารึกบนกระดูกเสี่ยงทาย (oracle bone inscriptions) และการขุดค้นทางโบราณคดีอย่างครบถ้วน
คุณค่าสากลอันโดดเด่น (Outstanding Universal Value)
แหล่งโบราณคดีหยินซู เป็นประจักษ์พยานอันเป็นเลิศถึงคุณค่าสากลอันโดดเด่นหลายประการที่สะท้อนถึงอารยธรรมจีนยุคแรกเริ่ม:
-
เกณฑ์ (ii) – แสดงให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนคุณค่าของมนุษย์ที่สำคัญยิ่งในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือในเขตวัฒนธรรมใดวัฒนธรรมหนึ่งของโลก ในการพัฒนาทางด้านสถาปัตยกรรม หรือทางด้านเทคโนโลยี อนุสรณ์สถานศิลปะ การวางผังเมือง หรือการออกแบบภูมิทัศน์: หยินซูแสดงให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนอิทธิพลที่สำคัญและการพัฒนาระดับสูงสุดของวัฒนธรรมสำริดโบราณของจีน รวมถึงระบบการเขียน จารึกบนกระดูกเสี่ยงทายแสดงถึงความก้าวหน้าทางภาษาและการปกครอง
-
เกณฑ์ (iii) – เป็นพยานหลักฐานที่โดดเด่นหรือเป็นเอกลักษณ์ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประเพณีวัฒนธรรม หรืออารยธรรมที่ยังคงดำรงอยู่ หรือที่สาบสูญไปแล้ว: แหล่งนี้เป็นหลักฐานที่พิเศษของประเพณีวัฒนธรรมและพัฒนาการทางวิทยาศาสตร์ในช่วงปลายราชวงศ์ชาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาระบบปฏิทินสุริยคติและจันทรคติ (solar and lunar calendar system) ซึ่งสะท้อนความรู้ทางดาราศาสตร์โบราณ
-
เกณฑ์ (iv) – เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทอาคารชุดทางสถาปัตยกรรม หรือทางเทคโนโลยี หรือภูมิทัศน์ที่แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ: โครงสร้างของพระราชวังและสุสานหลวงที่ขุดค้นพบ ณ แหล่งหยินซู เป็นต้นแบบสำหรับสถาปัตยกรรมจีนในยุคต่อมา แสดงให้เห็นถึงรูปแบบการวางผังเมืองและเทคนิคการก่อสร้างที่ก้าวหน้าในยุคนั้น
-
เกณฑ์ (vi) – มีความเกี่ยวข้องโดยตรงหรือชัดเจนกับเหตุการณ์ หรือขนบธรรมเนียมประเพณี แนวคิด ความเชื่อ งานศิลปะ และงานวรรณกรรมอันมีค่ายิ่งในระดับสากล: การค้นพบจารึกบนกระดูกเสี่ยงทาย (oracle bones) เป็นหลักฐานที่จับต้องได้และมีค่ายิ่งสำหรับประวัติศาสตร์ยุคแรกเริ่มของระบบการเขียน ภาษา ความเชื่อ และระบบสังคมของจีน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของอักษรจีนในปัจจุบัน
บริบททางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม
แหล่งโบราณคดีหยินซูเป็นที่ตั้งของราชธานีหยิน ซึ่งเป็นเมืองหลวงสุดท้ายของราชวงศ์ชาง (Shang Dynasty) ซึ่งปกครองจีนในช่วงประมาณ 1600 ถึง 1046 ปีก่อนคริสต์ศักราช (B.C.E.) หรือประมาณ 1143 ถึง 503 ปีก่อนพุทธศักราช (B.B.E.) การขุดค้นทางโบราณคดีเริ่มขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 คริสต์ศักราช (พุทธศักราช 2444-2543) และได้เปิดเผยความจริงทางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างจากตำนานพื้นบ้าน ในเชิงสถาปัตยกรรม แหล่งหยินซูได้เผยให้เห็นร่องรอยของสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่และมีความซับซ้อน ได้แก่:
-
พื้นที่พระราชวังและศาลบรรพบุรุษหลวง (Palace and Royal Ancestral Shrines Area): ประกอบด้วยฐานรากของบ้านเรือนกว่า 80 หลังคาเรือน รวมถึงอาคารที่มีขนาดใหญ่ แสดงถึงการวางผังเมืองและโครงสร้างการปกครองที่ชัดเจนในยุคนั้น การออกแบบและเทคนิคการก่อสร้างของอาคารเหล่านี้เป็นรากฐานและต้นแบบสำหรับสถาปัตยกรรมจีนในยุคถัดไป
-
สุสานหลวง (Royal Tombs): มีการค้นพบสุสานของเชื้อพระวงศ์จำนวนมาก ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญในการศึกษาพิธีกรรมการฝังศพและโครงสร้างทางสังคมของราชวงศ์ชาง
-
สุสานของฟู่ห่าว (Tomb of Fu Hao): เป็นสุสานเพียงแห่งเดียวของสมาชิกราชวงศ์ชางที่ยังคงสภาพสมบูรณ์และไม่ถูกปล้นสะดม ภายในสุสานมีการค้นพบวัตถุโบราณที่ประณีตและมีค่ายิ่งจำนวนมาก เช่น ภาชนะสำริด หยก และเครื่องประดับ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงระดับความก้าวหน้าทางหัตถกรรมของราชวงศ์ชางอย่างน่าทึ่ง
จุดเด่นที่สำคัญ (Key Highlights)
-
สุสานหลวงและพระราชวัง: โครงสร้างเหล่านี้ไม่เพียงเป็นศูนย์กลางอำนาจของราชวงศ์ชาง แต่ยังเป็นต้นแบบทางสถาปัตยกรรมที่สำคัญของจีนในยุคต่อมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุสานของฟู่ห่าว (Fu Hao) ซึ่งเป็นพระมเหสีของพระเจ้าอู่ติง (King Wu Ding) ที่เต็มไปด้วยเครื่องบูชาอันล้ำค่า แสดงถึงฐานะทางสังคมและความมั่งคั่งของชนชั้นสูงในยุคนั้น
-
จารึกบนกระดูกเสี่ยงทาย (Oracle Bones) และระบบการเขียน: การค้นพบกระดูกเสี่ยงทาย ซึ่งเป็นกระดูกสะบักวัวและกระดองเต่าที่สลักอักษรจีนโบราณ ถือเป็นหลักฐานที่มีค่าที่สุดชุดหนึ่งสำหรับการศึกษาการพัฒนาระบบการเขียนที่เก่าแก่ที่สุดของโลก อักษรเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นของอักษรจีนและให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเชื่อ ระบบสังคม และภาษาของจีนในยุคแรกเริ่ม
-
ความสำเร็จทางวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์: โบราณวัตถุที่พบในหยินซูเป็นหลักฐานอันโดดเด่นของประเพณีและวัฒนธรรมปลายราชวงศ์ชาง รวมถึงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคนิค เช่น ระบบปฏิทินที่ซับซ้อน ซึ่งแสดงถึงภูมิปัญญาและองค์ความรู้ที่ลึกซึ้ง
-
เครื่องสำริดและเครื่องปั้นดินเผา: การค้นพบภาชนะสำริดและเครื่องปั้นดินเผาจำนวนมากที่ประณีต แสดงถึงความเชี่ยวชาญด้านโลหะวิทยาและศิลปะหัตถกรรมที่ยอดเยี่ยมของราชวงศ์ชาง
แหล่งโบราณคดีหยินซู เป็นพยานหลักฐานอันล้ำค่าที่สะท้อนถึงยุคทองของอารยธรรมจีนโบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปลายราชวงศ์ชาง การค้นพบพระราชวัง สุสานหลวง จารึกบนกระดูกเสี่ยงทาย และวัตถุโบราณอื่นๆ ได้มอบความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับพัฒนาการทางวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม วิทยาศาสตร์ และระบบการเขียนของจีน แหล่งมรดกโลกแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของชาติจีน แต่ยังเป็นมรดกที่ทรงคุณค่าสำหรับมวลมนุษยชาติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถอันโดดเด่นของมนุษย์ในการสร้างสรรค์และพัฒนาอารยธรรม
.
-------------------------
ที่มา
- https://whc.unesco.org/en/list
- http://www.globalgeopark.org
- https://www.unesco.org/en/mab/wnbr/
รวบรวมรูปภาพ
-------------------------
------------------------
.
