iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้
ขั้นตอนดำเนินการการยกระดับความพร้อมอุตสาหกรรม 3 ขั้นตอน
กิจกรรม 4.0 (อุตสาหกรรม 4.0) ได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องในสายตาเขียนเน้นย้ำที่เน้นย้ำและการพัฒนาประเทศตามการสอบสวนประเทศประเทศไทย 4.0 (ประเทศไทย 4.0) ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักที่รัฐบาลมุ่งมั่นใช้ในประเทศโดยการเปลี่ยนแปลงที่อาจส่ง ผลที่ทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างต่อภาคอุตสาหกรรมธุรกิจธุรกิจระบบเทคโนโลยีและโลจิสติกส์โครงการผู้ใช้และผู้ประกอบการสามารถกำหนดและใหญ่ซึ่งต่างต้องตื่นตัวตัวให้ทันทันใดเปลี่บย การเปลี่ยนแปลงของโลกที่เริ่มต้นในมุมมองนำเทคโนโลยีสารสนเทศเกตเวย์ การผลิตที่ทันสมัยในระบบควบคุมในทิศทางต่ออนาคตอุตสาหกรรมของประเทศไทย ดังนั้นการยกระดับอุตสาหกรรมสมัยใหม่หรืออุตสาหกรรมอัจฉริยะ (อุตสาหกรรมอัจฉริยะ) นวัตกรรมมีและทิศทาง การดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ขั้นตอนนี้เป็นผลสำเร็จและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
การยกระดับความพร้อมของอุตสาหกรรมมีความจำเป็น และจำเป็นต้องทำอย่างเป็นระบบและเป็นขั้นตอน เพื่อให้การลงทุนในงานด้านนนี้มีประสิทธิภาพสูงสุด อาจแบ่งแบบการดำเนินการเป็น 3 ขั้นตอน คือ
1. การเริ่มต้น (Initiation) เป็นการวิเคราะห์และประเมินสถานภาพป้จจุบันของ ผู้ประกอบการ เพื่อให้เข้าใจ สภาพป้ญหา และทราบความพร้อมของตนเองในป้จจุบัน
2. การออกแบบคัดเลือกระบุเทคโนโลยีที่เหมาะสม (Solutioning) จะเป็นการวางแผน (Roadmap) การยกระดับความพร้อม และการจัดหาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ป้ญหาของผู้ประกอบการ
3. การลงมือนำมาปฏิบัติและประยุกต์ใช้งานจริง (Implementation and Operation) จะเป็นการติดตั้งและประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยี เพื่อให้ใช้งานได้จริงในสถานที่จริง ช่วยในการทำงานประกอบการให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นเพื่อยกระดับความพร้อมของงานด้านอุตสาหกรรมได้อย่างเป็นระบบ
จากที่กล่าวมาจะเป็นสามขั้นตอนหลักที่มีของ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งในการทำงานอาจมีหลายแบบในการงานแผนการทำงาน เช่น ขั้นตอนการปฏิบัติงานในอุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) ซึ่งเราสามารถเลือกแนวทางมาใช้ได้ตามความเหมาะสมและบริบทในงานที่มี
กระบวนการยกระดับความพร้อม จำเป็นต้องอาศัยเครื่องมีอที่เป็นมาตรฐานและมีความเหมาะสมกับบริบทของ อุตสาหกรรมอย่างแท้จริง หลายประเทศทั่วโลกมีการพัฒนาเครื่องมีอที่ใช้ชี้วัดความพร้อม ซึ่งอาจเรียกว่า Readiness Index หรือ Maturity Index เช่น ระบบ Smart Industry Readiness Index (SIRI) ของประเทศสิงคโปร์, ระบบ Industrie 4.0 Readiness Check ของประเทศเยอรมนี, ระบบ Maturity Measurement of Productivity Again (iBench4.0) ของไต้หวัน, ระบบ lndustry4WRD Readiness Assessment ของประเทศมาเลเซีย เป็นต้น
จากการที่การทำงานในแต่ละประเทศจะมีบริบททางสังคม และงานด้านอุตสาหกรรมในแต่ละประเทศที่ยังมีความแตกต่างกัน ในประเทศไทยก็ได้มีการจัดทำดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมในงานอุตสาหกรรรมขึ้นมา โดยเน้นการทำงานเพื่อให้เกิดความสอดคล้องเหมาะสมต่อการทำงานในระบบของอุตสาหกรรมของไทย และเหมาะสมกับบริบทความต้องการในประเทศและสังคมไทยมากที่สุด และการมีดัชนีชี้วัดของไทยเรา ยังจะเป็นการสร้างองค์ความรู้และผู้เชี่ยวชาญภายในประเทศ ลดการพึ่งพิงระบบผู้เชี่ยวชาญมาทำการประเมินจากต่างประเทศ ช่วยลดความเสี่ยงของข้อมูลรั่วไหลออกสู่ภายนอกประเทศ เกิดการทำงานที่ช่วยหมุนเวียนเศรษฐกิจภายในประเทศ ช่วยเพิ่มอัตราการจ้างงานภายในประเทศ หากมีการสร้างอาชีพที่ปรึกษา (Consultant) และผู้รับเหมาระบบ (System Integrator: SI) เพื่อช่วยในการทำงานด้านนี้ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย
---------------------------------------------
สนใจข้อมูลเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่นี่
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมอุตสาหกรรมไทย 4.0 (Thailand I 4.0 Index)
---------------------------------------------
ที่มาข้อมูล
---------------------------------------------
ข้อมูลที่น่าสนใจประวัติศาสตร์อุตสาหกรรม 4.0 ที่นี่ที่นี่
อุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) รวมข้อมูล---------------------------------------------
Industry4_index_thai ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมของอุตสาหกรรมไทย 4.0 ตัวชี้วัดประสิทธิภาพ KPIs
ตัวชี้วัดประสิทธิภาพ (KPIs) ในการวัดระดับความพร้อมของอุตสาหกรรมไทย 4.0 จำนวน 15 KPIs
ตัวชี้วัดประสิทธิภาพ ด้านการผลิต (Productivity KPIs) |
|
KPI 1: Asset & Equipment Efficiency |
คือ ประสิทธิภาพในการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขององค์กรให้ เกิดประโยชน์สูงสุดในการผลิตสินค้า |
KPI 2: Workforce Efficiency |
คือ ประสิทธิภาพของพนักงานขององค์กร โดยปกติองค์กรที่พนักงานมีประสิทธิภาพจะ ใช้ man-hour ในการทำงานนอ้ ยกว่าองค์กรที่มีพนักงานที่มีประสิทธิภาพต่ำ |
KPI 3: Utilities Efficiency |
คือ ประสิทธิภาพในการใช้พลังงานและทรัพยากรนำ้ รวมถึงประสิทธิภาพในการจัดการ ของเสียที่เกิดขึ้นและถูกปล่อยออกมาจากสายการผลิต |
KPI 4: Inventory Efficiency |
คือ ประสิทธิภาพในการจัดการให้มีระดับวัตถุดิบ/สินค้าคงคลังในระดับที่ตำ่ ที่สดุ เพื่อ ช่วยเรื่องการบริหารกระแสเงินสด |
KPI 5: Materials Efficiency |
คือ ประสิทธิภาพของการผลิตที่ให้ได้ Yield สูงสุด หรือมีของเสียน้อยที่สุด |
ตัวชี้วัดประสิทธิภาพ ด้านคุณภาพ (Quality KPIs) |
|
KPI 6: Process Quality |
คือ การทำให้กระบวนการผลิตและกระบวนการสนับสนนุ การผลติ มีประสิทธิภาพและมี ความยืดหยุ่น สามารถผลิตผลติ ภัณฑ์ได้ตามข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ กระบวนการผลิตมีความสม่ำเสมอ ความเบี่ยงเบนและความผิดปกติพารามิเตอร์การ ผลิตมีน้อย สงผลให้มีจำนวนชนิ้ งานเสียทนี่ ้อย หรือใช้วัตถุดิบในการผลิตที่ลดลง เพื่อให้ได้จำนวนสินค้าเท่าเดิม |
KPI 7: Product Quality |
คือ ความสามารถในการผลิตผลิตภัณฑ์ให้ใกล้เคียงกับข้อกำหนดเป้าหมายมากที่สุด มี ข้อบกพร่องในสัดส่วนที่ตำ่ ที่สุด ทั้ง WIP และผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย ลดต้นทุนจาก การ Rework & Repair & Replacement ผลิตภัณฑ์ |
KPI 8: Safety |
คือ การป้องกันอุบัติการณ์ (incident) ที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัยและความปลอดภัยใน สถานปฏิบัติงาน เพื่อช่วยลดโอกาสการหยุดชะงักของสายการผลิตและทำให้การ ดำเนินงานของบริษัทดำเนินไปอย่างราบรื่น |
KPI 9: Security |
คือ การมุ่งป้องกันการละเมิดความปลอดภัย (ทางกายภาพและดิจิทัล) ในสถาน ประกอบการ |
ตัวชี้วัดประสิทธิภาพ ด้านความยึดหยุ่น (Flexibility KPIs) |
|
KPI 10: Planning & Scheduling Effectiveness |
คือ ความสามารถในการปรับตัวของกระบวนการวางแผนและการจัดตารางเวลาการ ผลิต ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ และความสามารถ จัดการห่วงโซ่อุปทานของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
KPI 11: Production Flexibility |
คือ ความสามารถในการเพิ่มและกระจายกระบวนการผลิตได้ด้วยหลักการแบบ plug- and-play หรือการที่พนักงานสามารถดำเนินการปรับแต่งหรือกำหนดค่าใหม่ให้กับ อุปกรณ์ เครื่องจักร และระบบคอมพิวเตอร์ ได้โดยง่ายและรวดเร็ว จึงช่วยให้ ผู้ประกอบการที่มีจำนวนของ SKU มากสามารถดำเนินการผลิตแบบ small lot หรือ mixed ได้ |
KPI 12: Workforce Flexibility |
คือ ความสามารถของพนักงานในทกระดับขององค์กร ให้ปฏิบัติงานได้หลากหลาย ชวย ให้ผู้ประกอบการมีทางเลือกในการบริหารเลือกใช้พนักงานได้แม้ในช่วงที่มีความผัน ผวนของธุรกิจ |
ตัวชี้วัดประสิทธิภาพ ด้านการตลาด (Market KPIs) | |
KPI 13: Time to Market | คือ ระยะเวลาที่ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ (หรือพัฒนาจากผลิตภัณฑ์เดิม) จนกระทั่งนำผลิตภัณฑ์นั้นเข้าสู่ตลาดได้ ผลตภัณฑ์ที่เข้าสู่ตลาดได้ก่อนมีแนวโน้มที่ จะสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้มากกว่า และด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลในปัจจุบัน ทำให้ปริมาณและการแลกเปลี่ยนของข้อมูลในห่วงโซ่อุปทานของผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น เป็นอย่างมาก และทำให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงข้อมูลความคิดเห็นของกลุ่ม ลูกค้าได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะชวยลดระยะเวลาที่ต้องใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ ตลาดนั่นเอง |
KPI 14: Customer Loyalty |
คือ การมีนโยบายและระบบสนบั สนนุ ในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าปัจจุบันและ กลุ่มลูกค้าใหม่ โดยสามารถรักษาลูกค้าปัจจุบนั และสนองความต้องการแก่กลุ่ม ลูกค้าใหม่ได้ เช่นมีนโยบายทางการตลาด กิจกรรมต่างๆ และระบบสนบั สนุน ที่ สามารถทำให้ลูกค้าปัจจุบันยังคงซื้อสินค้าซ้ำและต่อเนื่อง และสามารถทำให้กลุ่ม ลูกค้าเป้าหมายตัดสินใจซื้อสินค้าของบริษัท เป็นต้น |
KPI 15: Time to Delivery | คือ ระยะเวลาที่บริษัทใช้ตั้งแต่การรับคำสั่งซื้อ-เริ่มการผลิต จนถึงการส่งมอบ ผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า ซึ่งในบางอุตสาหกรรมคำสั่งซื้อผลิตภัณฑจะมีความอ่อนไหว ด้านเวลาในการส่งมอบ และการจัดส่งล่าช้าอาจส่งผลให้สูญเสียโอกาสทางธุรกิจใน อนาคตได้ |
---------------------------------------------
สนใจข้อมูลเรื่องราวเพิ่มเติม คลิกที่นี่
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมอุตสาหกรรมไทย 4.0 (Thailand I 4.0 Index)
---------------------------------------------
ที่มาข้อมูล
---------------------------------------------
สนใจข้อมูลเรื่องราวอุตสาหกรรม 4.0 เพิ่มเติม คลิกที่นี่
อุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) รวมข้อมูล---------------------------------------------
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมของอุตสาหกรรมไทย 4.0
มิติ 1 เทคโนโลยีเครือข่าย (network Technology)
มิติ 1 เทคโนโลยีเครือข่าย (network Technology) ส่งเสริมการนำระบบเครือข่ายมาใช้ช่วยในการทำงาน ทำการเชื่อมโยงการส่งข้อมูลในองค์กร เช่น เชื่อมโยงระบบการผลิต เชื่อมโยงระบบบริหารธุรการขององค์กร และเชื่อมโยงระบบช่วยในการทำงานเสริม (Facilities) มุ่งผลสำเร็จให้ระบบมีความสามารถเชื่อมโยงการทำงานเกิดเครือข่ายการส่งข้อมูลทั้งระบบแบบไร้รอยต่อ สามารถแสดงผลข้อมูลเพื่อตอบสนองการทำงานได้ทั้งระบบในเวลาทันที ตัวอย่างระบบเครือข่าย
มิติ 1 เทคโนโลยีเครือข่าย (network Technology) คือ ความพร้อมของระบบการผลิต ระบบบริหารและธุรการขององค์กร และระบบการจัดการ Facilities ที่เป็นแบบการใช้ เทคโนโลยีเครือข่าย (network Technology) ในการทำงาน มีการเชื่อมตั้งแต่เริ่มไปจนถึงระดับสมบูรณ์ติดต่อกันได้แบบไร้รอยต่อ ได้แก่
- มิติย่อยที่ 04 การเชื่อมโยงเครือข่ายในงานการผลิต (Production Network)
เทคโนโลยีเครือข่ายในงานการผลิต ช่วยให้ระบบการผลิตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว, และช่วยลดความผิดพลาดในกระบวนการผลิตขององค์กร.
- มิติย่อยที่ 05 การเชื่อมโยงเครือข่ายในองค์กร (Enterprise Network)
เทคโนโลยีเครือข่ายในองค์กร ช่วยให้องค์กรสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ, สร้างความปลอดภัยและควบคุมข้อมูลให้สอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจของตน.
- มิติย่อยที่ 06 การเชื่อมโยงเครือข่ายในระบบอำนวยความสะดวก (Facility Network)
- ตัวอย่าง โครงการระบบเทคโนโลยีเครือข่าย (Network Technology)
เครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ เช่น การให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure as a Service: IaaS), การให้บริการแพลตฟอร์ม (Cloud Platform as a Service: PaaS), การให้บริการซอฟต์แวร์ (Software as a Service; SaaS), การให้บริการระบบจัดเก็บข้อมูล (data Storage as a Service; dSaaS) และการให้บริการร่วมรวมลำดับความเชื่อมโยง (Composite Service; CaaS)
---------------------------------------------
สนใจข้อมูลเรื่องราวเพิ่มเติม คลิกที่นี่
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมอุตสาหกรรมไทย 4.0 (Thailand I 4.0 Index)
---------------------------------------------
ที่มาข้อมูล
---------------------------------------------
สนใจข้อมูลเรื่องราวอุตสาหกรรม 4.0 เพิ่มเติม คลิกที่นี่
อุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) รวมข้อมูล---------------------------------------------
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมของอุตสาหกรรมไทย 4.0
มิติ 1 เทคโนโลยีเครือข่าย (network Technology) ตัวอย่างโครงการ
ภาพ ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมของอุตสาหกรรมไทย (Thailand i4.0 Index)
มิติ 1 เทคโนโลยีเครือข่าย (network Technology) ส่งเสริมการนำระบบเครือข่ายมาใช้ช่วยในการทำงาน ทำการเชื่อมโยงการส่งข้อมูลในองค์กร เช่น เชื่อมโยงระบบการผลิต เชื่อมโยงระบบบริหารธุรการขององค์กร และเชื่อมโยงระบบช่วยในการทำงานเสริม (Facilities) มุ่งผลสำเร็จให้ระบบมีความสามารถเชื่อมโยงการทำงานเกิดเครือข่ายการส่งข้อมูลทั้งระบบแบบไร้รอยต่อ สามารถแสดงผลข้อมูลเพื่อตอบสนองการทำงานได้ทั้งระบบในเวลาทันที ตัวอย่างระบบเครือข่าย
ตัวอย่าง TOR โครงการ
แผนโครงการส่งเสริมเพิ่มขีดความสามารถอุตสาหกรรม โดยใช้ระบบเทคโนโลยีเครือข่าย (Network Technology)
หลักการและเหตุผล
ระบบเทคโนโลยีเครือข่าย (Network Technology) เป็นองค์ประกอบสำคัญในอุตสาหกรรมยุคใหม่ ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดความซ้ำซ้อน ลดต้นทุน และเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ โดยประเทศไทยมีศักยภาพในอุตสาหกรรมหลายประเภท จึงจำเป็นต้องเร่งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมหันมาใช้ระบบเทคโนโลยีเครือข่าย เพื่อยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ
วัตถุประสงค์ของโครงการ
เป้าหมายของโครงการ
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดความซ้ำซ้อน ลดต้นทุน และเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการลง 15% ภายในปี 2573
กลุ่มเป้าหมายของโครงการ
เชิงปริมาณ
- ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่เข้าร่วมกิจกรรม ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพในการใช้งานระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติ จำนวน ... ราย
- เพิ่มจำนวนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ใช้ระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติ เป็น ... % ภายในปี 25...
เชิงคุณภาพ
- ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่เข้าร่วมกิจกรรม จำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ ... สามารถนำระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติ ไปใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการกระบวนการได้
- ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่เข้าร่วมกิจกรรม มีความพึงพอใจต่อกระบวนการให้บริการ ไม่น้อยกว่าร้อยละ ...
- เพิ่มผลิตภาพการผลิตและลดต้นทุนการผลิตลง ... % ภายในปี 25...
- ลดปริมาณของเสียในการทำงานลง ... % ภายในปี 25...
กลุ่มเป้าหมายของโครงการ
ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทุกขนาด ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ
ตัวชี้วัดของโครงการ
- จำนวนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ใช้ระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติ
- ผลิตภาพการผลิต
- ต้นทุนการผลิต
- จำนวนของเสียลดลง
- ประสิทธิภาพการทำงาน
- ความซ้ำซ้อน
- มูลค่าให้กับสินค้าและบริการ
ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทุกขนาด ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ
จำนวนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ใช้ระบบเทคโนโลยีเครือข่าย
ขอบเขตงาน
โครงการฯ จะดำเนินการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมหันมาใช้ระบบเทคโนโลยีเครือข่าย ผ่านกิจกรรมต่างๆ ดังนี้
การให้ความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับระบบเทคโนโลยีเครือข่าย
การสนับสนุนเงินทุนในการซื้อระบบเทคโนโลยีเครือข่าย
การจัดหาแหล่งทุนและสินเชื่อสำหรับการลงทุนในระบบเทคโนโลยีเครือข่าย
การพัฒนาบุคลากรด้านระบบเทคโนโลยีเครือข่าย
ระยะเวลาดำเนินโครงการ
โครงการฯ จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2566 ถึงปี 2573
ขั้นตอนหลักการดำเนินงาน
โครงการฯ แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ดังนี้
ระยะเตรียมความพร้อม (ปี 25…)
ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการด้านระบบเทคโนโลยีเครือข่ายของผู้ประกอบการอุตสาหกรรม
จัดทำแผนงานและกลยุทธ์ในการส่งเสริมระบบเทคโนโลยีเครือข่าย
ประชาสัมพันธ์โครงการฯ ให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรม
ระยะดำเนินการ (ปี 25…-25…)
ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในการส่งเสริมระบบเทคโนโลยีเครือข่าย
ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของโครงการฯ
ระยะประเมินผล (ปี 25…)
ประเมินผลความสำเร็จของโครงการฯ
จัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงานของโครงการฯ
วิธีการดำเนินงาน
โครงการฯ จะดำเนินการผ่านหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานภาครัฐจะเป็นผู้กำหนดนโยบายและกลยุทธ์ในการส่งเสริมระบบเทคโนโลยีเครือข่าย ส่วนหน่วยงานเอกชนจะเป็นผู้ดำเนินการตามกิจกรรมต่างๆ ที่แผนงานกำหนด
การส่งมอบงาน
โครงการฯ จะส่งมอบผลการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้
แผนการดำเนินโครงการ
โครงการฯ จะดำเนินการตามแผนงานและกลยุทธ์ที่กำหนดไว้ โดยจะมีการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการฯ บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้
งบประมาณของโครงการ
งบประมาณของโครงการฯ จะมาจาก…
ผลที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการ
โครงการฯ คาดว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมไทย ดังนี้
สรุป
โครงการส่งเสริมเพิ่มขีดความสามารถอุตสาหกรรม โดยใช้ระบบเทคโนโลยีเครือข่าย เป็นโครงการที่สำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ โดยโครงการฯ มุ่งเน้นที่จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมหันมาใช้ระบบเทคโนโลยีเครือข่าย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดความซ้ำซ้อน ลดต้นทุน และเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมไทยในระยะยาว
รายละเอียดเพิ่มเติม
นอกจากกิจกรรมหลักๆ ที่ระบุไว้ในแผนโครงการแล้ว โครงการฯ ยังอาจพิจารณาดำเนินการกิจกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม ดังนี้
- การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลและศูนย์ฝึกอบรมด้านระบบเทคโนโลยีเครือข่าย
- การจัดทำมาตรฐานและข้อบังคับเกี่ยวกับระบบเทคโนโลยีเครือข่าย
- การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
---------------------------------------------
สนใจข้อมูลเรื่องราวเพิ่มเติม คลิกที่นี่
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมอุตสาหกรรมไทย 4.0 (Thailand I 4.0 Index)
---------------------------------------------
ที่มาข้อมูล
---------------------------------------------
สนใจข้อมูลเรื่องราวอุตสาหกรรม 4.0 เพิ่มเติม คลิกที่นี่
อุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) รวมข้อมูล---------------------------------------------
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมของอุตสาหกรรมไทย 4.0
มิติ 1 เทคโนโลยี อัตโนมัติ (Automation Technology)
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมของอุตสาหกรรมไทย 4.0 มิติ 1 เทคโนโลยี (Technology) คือ ความพร้อมของระบบการผลิต ระบบบริหารและธุรการขององค์กร และระบบการจัดการ Facilities ที่เป็นแบบ Automation และมี Network ที่เชื่อมต่อกันแบบไร้รอยต่อ ประกอบด้วย 6 มิติย่อย ได้แก่
- มิติย่อยที่ 01 ระบบอัตโนมัติในงานการผลิต (Production Automation)
ระบบอัตโนมัติในงานการผลิต อาจมีการปรับเปลี่ยนและประสานงานระหว่าง hardware และ software เพื่อให้กระบวนการผลิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและคุณภาพสูงในอุตสาหกรรมการผลิตต่าง ๆ ซึ่งช่วยลดความพยายามและเพิ่มผลผลิตในองค์กรและบรรยากาศการผลิตที่ปลอดภัย (ดูข้อมูลเพิ่มเติม ระบบอัตโนมัติในงานการผลิต (Production Automation))
- มิติย่อยที่ 02 ระบบอัตโนมัติในองค์กร (Enterprise Automation)
ระบบอัตโนมัติในองค์กรช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการทางธุรกิจ และการสรุปข้อมูลในองค์กร ช่วยลดความผิดพลาดและค่าใช้จ่ายในกระบวนการทางธุรกิจและบริหารองค์กร (ดูข้อมูลเพิ่มเติม ระบบอัตโนมัติในองค์กร (Enterprise Automation))
- มิติย่อยที่ 03 ระบบอัตโนมัติในงานอำนวยความสะดวก (Facility Automation)
ระบบอัตโนมัติในงานอำนวยความสะดวกช่วยในการลดค่าใช้จ่าย, ประหยัดพลังงาน, และเพิ่มความปลอดภัยและสะดวกสบายในอาคารและสถานที่ต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ (ดูข้อมูลเพิ่มเติม ระบบอัตโนมัติในงานอำนวยความสะดวก (Facility Automation))
---------------------------------------------
สนใจข้อมูลเรื่องราวเพิ่มเติม คลิกที่นี่
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมอุตสาหกรรมไทย 4.0 (Thailand I 4.0 Index)
---------------------------------------------
ที่มาข้อมูล
---------------------------------------------
สนใจข้อมูลเรื่องราวอุตสาหกรรม 4.0 เพิ่มเติม คลิกที่นี่
อุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) รวมข้อมูล---------------------------------------------
เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward