iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้
Customer Life cycle / วงจรการตัดสินใจของผู้บริโภค
Customer Life cycle / วงจรการตัดสินใจของผู้บริโภค การทำธุรกิจจะมีการตลาดที่มีรูปแบบที่ชัดเจน โดยมีการสรุปรูปแบบเส้นทางการพัฒนาลูกค้า (Customer Journey) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินงานทางการตลาด เส้นทางพัฒนาลูกค้าจะช่วยให้ผู้ทำธุรกิจสามารถเข้าใจถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคได้มากขึ้น ใช้ช่วยในการวางแผนสื่อสารไปถึงลูกค้า เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเกิดการรับรู้และซื้อสินค้าเป็นลูกค้าไปในที่สุด
- Traditional Customer Life cycle ในอดีตวงจรการตัดสินใจของผู้บริโภคมีรูปแบบคล้ายกัน การพัฒนาลูกค้าจะเป็นไปตามลำดับขั้นตอน มีทิศทางและขั้นตอนในการกำหนดระดับในการพัฒนาลูกค้า เริ่มตั้งแต่เป็นกลุ่มเป้าหมายพัฒนาจนไปถึงการเป็นลูกค้า กลุ่มที่แบ่งเริ่มติดตามตั้งแต่กลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่ได้เป็นลูกค้า ส่งเสริมให้มีการการค้นหารับรู้ในสินค้าและบริการที่มี พัฒนาต่อไปจนถึงการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการจนมาเป็นลูกค้าของเรา
- Digital Customer Life cycle ในปัจจุบันวงจรการตัดสินใจของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก เนื่องจากการเข้าสู่ยุคโลกดิจิทัลที่มีการนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยในการดำเนินการตลาด ทำให้รูปแบบของ Customer Journey มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ลูกค้ามีช่องทางเข้าถึงข้อมูลที่หลากหลายมากมาย เกิดเป็นกระบวนการตัดสินใจซื้อที่มีหลายรูปแบบเกิดเป็นแบบ Multi-Channel Journey
Customer Oriented Logistics / การออกแบบกระบวนการโลจิสติกส์โดยมองลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง
การออกแบบกระบวนการโลจิสติกส์โดยมองลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง (Customer Oriented Logistics) คือ การปรับเปลี่ยนแนวคิดในการบริหารจัดการโลจิสติกส์สมัยใหม่ ที่เน้นแนวทางที่จะมุ่งคอยสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ตามยุคสมัยที่การตลาดต่างมุ่งแข่งขันโดยให้ความสำคัญกับการให้บริการลูกค้า แนวคิดนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากการดำเนินการโดยใช้แนวคิดขององค์กรหรือผู้ผลิตเป็นผู้กำหนดทิศทางการให้บริการ (Organization Oriented) มาเป็นการเน้นโดยให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Oriented) โดยอุปสงค์ของลูกค้าเป็นตัวกำหนด
การออกแบบกระบวนการโลจิสติกส์โดยมองลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง จะมุ่งเน้นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเป็นหลักเช่น
- การจัดตารางการขนส่งสินค้า ที่อำนวยความสะดวกกับลูกค้ามากที่สุด
- การสอบถามข้อมูลสถานที่ และเวลาที่ลูกค้าจะสะดวกในการรับสินค้า
- การสร้างความยืดหยุ่นในกระบวนการขนส่งสินค้า เพื่อให้สามารถสร้างความหลากหลายรูปแบบในการบริการได้ดีกว่าคู่แข่ง
- การดำเนินธุรกิจส่วนใหญ่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Oriented) โดยใช้อุปสงค์ของลูกค้าเป็นตัวกำหนดรูปแบบของสินค้าหรือบริการที่จะเกิดขึ้นในโซ่อุปทาน ผู้ประกอบการงานด้านโลจิสติกส์จะต้องสามารถทำการตอบสนองตามความต้องการลูกค้าที่เกิดขึ้น และทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจมากที่สุด
การบริการโดยใช้ Organization Oriented Logistics อาจต้องเริ่มกำหนดออกแบบการจัดการโลจิสติกส์ในตั้งแต่ต้น โดยพิจารณาใน 3 เรื่องคือ
- การจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory Management) คือ การวางแผนจัดการสินค้าผลิตออกมาเพื่อขาย การจัดการสินค้าคงคลังให้เหมาะสม เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับการดูแลลูกค้า เนื่องจากจะต้องมีสินค้าที่เพียงพอในการให้บริการแก่ลูกค้า เพราะหากลูกค้าไม่สามารถได้สินค้าในเวลาที่ต้องการ ย่อมจะกระทบความพึงพอใจขอลูกค้าอย่างแน่นอน และอาจเลวร้ายถึงขนาดลูกค้าไปใช้สินค้าคู่แข่งแทนได้เลย การบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่ดีไม่เพียงจะช่วยให้สามารถลดภาระในการเก็บสินค้ามากหรือน้อยเกินจำเป็นแล้ว ยังช่วยให้สินค้ามีจำหน่ายได้เพียงพอต่อความต้องการ และลดต้นทุนการบริหารจัดการได้ดีอีกด้วย
- การตัดสินใจเลือกรูปแบบการขนส่ง (Transportation Decision) คือ การบริหารจัดการเลือกวิธีในการขนส่ง เพื่อให้สามารถส่งสินค้าจากแหล่งต้นทาง (Sources) ไปสู่จุดปลายทาง (Destinations) และถึงมือลูกค้าได้อย่างดี ที่ต้องการซึ่งมีการคัดเลือกวิธีการและเครื่องมือในกาขนส่งที่ดี โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สามารถส่งสินค้าถึงลูกค้าได้ทันทีทุกที่ทุกเวลา มีค่าใช้จ่ายในการขนส่งที่เหมาะสม
- การเลือกทำเลที่ตั้งโรงงานหรือคลังกระจายสินค้า (Location Decision) คือ การเลือกทำเลที่ตั้งโรงงานเพื่อผลิต (Plant Location) หรือคลังสำหรับเก็บสินค้าคงคลัง มุ่งเน้นให้สามารถจัดบริการส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าได้ง่ายที่สุด อาจมีกระจายหาลยจุดหรืออาจรวมจุดเพื่อกระจาย การตัดสินใจจะเลือกตามปัจจัยที่มี อาจไม่ได้เน้นที่ค่าใช้จ่ายต่ำสุด แต่จะเน้นการตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้าให้มากที่สุด
ธุรกิจในปัจจุบันต่างมีการแข่งขันมากขึ้น การนำการบริการโดยใช้ Organization Oriented Logistics มาใช้ช่วยในการวางแผนองค์กร แทนการให้คนในองค์กรเป็นคนออกแบบกระบวนการแบบเดิม แม้ว่ากิจกรรมนี้อาจทำให้ธุรกิจมีต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ก็จะทำให้สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เกิดเป้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้ามีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้น จากการที่ลูกค้าพึงพอใจในบริการ กลับมาซื้อซ้ำ หรือซื้อมากขึ้น หรือช่วยแนะนำสินค้าบอกต่อให้ด้วย
Customers heart of business / ลูกค้าหัวใจสำคัญของธุรกิจ
การตลาด (Marketing) คือ กระบวนการของการสื่อสารคุณค่าของผลิตภัณฑ์หรือบริการไปยังลูกค้า การตลาดอาจถูกตีความว่าเป็นศิลปะแห่งการขายสินค้าในบางครั้ง แต่การขายนั้นเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของการตลาด การตลาด อาจถูกมองว่าเป็นหน้าที่ของกระบวนการทางธุรกิจที่สำคัญ การตลาดที่ดีควรต้องเป็นตัวแทนองค์กรในการสื่อสารคุณค่าสินค้าที่มีไปยังลูกค้า และเป็นผู้นำความต้องการที่มีของลูกค้ากลับคืนสู่องค์กร เพื่อใช้ในการปรับปรุงสินค้าและบริการ การจัดการความสัมพันธ์ต่อลูกค้าที่ดีจะเป็นประโยชน์แก่องค์กร
การตลาดและงานบริการลูกค้า คือ งานที่ต้องเอาความคิดหรือใจของลูกค้ามาใส่ในใจเรา มุ่งที่จะทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจมากที่สุด เพื่อให้ลูกค้าเลือกที่จะใช้บริการของเราต่อไปอีก ป้องกันไม่ให้ลูกค้าเปลี่ยนใจไปเลือกใช้บริการของผู้อื่นหรือคู่แข่ง ดังนั้นผู้ทำงานด้านงานบริการลูกค้า จึงต้องเข้าใจและมีใจรักการทำงานด้านนี้เป็นอย่างดี และสามารถนำสิ่งที่ได้สิ่อสารผ่านการตลาดกลับสู่องค์กรเพื่อการปรับปรุงสม่ำเสมอ
----------------------------------------
แนะนำหนังสือ The Changing World Order: Why Nations Succeed and Fail
สรุปหนังสือดีที่ควรอ่าน “The Changing World Order: Why Nations Succeed and Fail” ของ Ray Dalio
หนังสือ The Changing World Order: Why Nations Succeed and Fail ของ Ray Dalio หรือระเบียบโลกที่เปลี่ยนแปลง : เหตุใดประชาชาติจึงประสบความสำเร็จและล้มเหลว เป็นหนังสือที่ดีมากควรที่เราจะศึกษา โดยผู้เขียนเชื่อว่าโลกกำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในชีวิตของเราหลังจากนี้ โดยจากการศึกษาข้อมูลที่มีผ่านมาหลายครั้งในประวัติศาสตร์ ซึ่งนับได้ว่าเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วเพียงแต่รอวันเวลาหมุนเวียนมาตามวงจรใหญ่ เราจึงควรที่จะต้องศึกษาการเปลี่ยนแปลงในอดีตเพื่อทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้และช่วยคาดการณ์สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นต่อไป
หนังสือ The Changing World Order: Why Nations Succeed and Fail (ระเบียบโลกที่เปลี่ยนแปลง: เหตุใดประชาชาติจึงประสบความสำเร็จและล้มเหลว) จะช่วยให้เราเข้าใจแนวคิดหลักสาระสำคัญของสิ่งที่ขับเคลื่อนของวงจรใหญ่ (Big Cycle) ของการเพิ่มขึ้นและเสื่อมถอยของประเทศต่างๆ ผ่านกาลเวลา แสดงให้เห็นว่าวัฏจักรใหญ่มีการทำงานอย่างไรในช่วง 500 ปีที่ผ่านมาของประวัติศาสตร์ และสิ่งที่ผู้นำโลกในปัจจุบันอย่างสหรัฐฯ ต้องทำเพื่อคงความแข็งแกร่งไว้
หนังสือ ระเบียบโลกที่เปลี่ยนแปลง: เหตุใดประชาชาติจึงประสบความสำเร็จและล้มเหลว เขียนถึง วงจรการเติบโตของประเทศมหาอำนาจโลก ที่มีในอดีตแต่ละยุคโดยเล่าถึงประเทศตั้งแต่เติบโตเป็นมหาอำนาจไปจนเสื่อมลง และมีการเกิดขึ้นทดแทนของประเทศมหาอำนาจรายใหม่ จะกล่าวถึงความรุ่งเรือง รุ่งโรจน์ และถดถอย ของประเทศมหาอำนาจในโลกที่มีผ่านมา ที่แม้ว่าในแต่ละประเทศจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันในหลายส่วน แต่รูปแบบที่พบจะคล้ายคลึงกัน มีการเล่าถึงปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้ประเทศที่จะมาเป็นมหาอำนาจโลกกว้าหน้า หรือจะทำลายความก้าวหน้าจะเข้าสู่การเสื่อมของประเทศมหาอำนาจ และยังเล่าโยงถึงที่มาของความขัดแย้งระหว่างประเทศที่จะบอกว่าจะมีผลลัพธ์ยังไง โดยในเล่มจะยกเรื่องราวของสามมหาอำนาจที่พบผ่านมา คือ ดักซ์ อังกฤษ และอเมริกา มาจนถึงปัจจุบันซึ่งตรงกับช่วงที่พยายามบอกถึงปัญหาว่าทำไมช่วงนี้ เราจึงพบมีปัญหาระหว่างอเมริกากับจีนมากมายหลายครั้ง และอาจบอกได้ว่าทำใมจีนถึงได้กล้าท้าชนสหรัฐ
3 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของระเบียบโลก
1. หลายประเทศไม่มีเงินเพียงพอที่จะชำระหนี้ เริ่มมีการพิมพ์เงินออกมา
2. ความขัดแย้งภายในประเทศจากความเหลื่อมล้ำเรื่องความมั่งคั่งและความเชื่อ
3. ความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจที่กำลังจะผงาดและผู้นำของโลก
นิยามของระเบียบโลกมาตรวัดที่ใช้กำหนดความเป็นมหาอำนาจมี 3 ช่วง
1. ช่วงรุ่งเรือง (The Rise)
2. ช่วงเวลารุ่งโรจน์ (The Top)
3. ช่วงเสื่อมถอย (The Decline)
8 มาตรวัดสัญญาณชีพของแต่ละประเทศ
1. การศึกษา
2. นวัตกรรมและเทคโนโลยี
3. ความสามารถในการแข่งข้นกับตลาดโลก
4. ผลผลิตทางเศรษฐกิจ
5. ส่วนแบ่งทางการค้าของโลก
6. ความเข้มแข็งทางการทหาร
7. ความแข็งแกร่งในการเป็นศูนย์กลางทางการเงิน
8. ความแข็งแกร่งของสกุลเงินในฐานะเงินทุนสำรอง
การสรุปจากภาพใหญ่
จากการศึกษาเรื่องราวย้อนหลังไปประมาณ 500 ปีที่ผ่านมา ในยุคแรกที่เริ่มการผลิตยุคแรกซึ่งเป็นช่วงยุคการเกษตร มีความต้องการใช้แรงงานและการมีปริมาณทรัพยากรมนุษย์ที่เพียงพอ จะถือเป็นปัจจัยหลักในทางขับเคลื่อนประเทศให้เจริญเข้มแข็งและเติบโตไปสู่การเป็นประเทศมหาอำนาจ การศึกษาตัวเลข GDP ในยุคนั้นโลกจะมีการเติบโตขึ้นต่อเนื่องโดยจะมีการเติบโตขยายตัวไปได้อย่างช้าในช่วงแรกก่อนศตวรรษที่ 18 จนมาถึงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุคต่อมาก็จะเริ่มมี GDP ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเป็นช่วงที่เปลี่ยนจากยุคการเกษตรมาเป็นเศรษฐกิจแบบอุตสาหกรรม เริ่มมีนายทุนมีการประดิษฐ์คิดค้นผลิตภัณฑ์สินค้าและเป็นเจ้าของการผลิตสินค้า ในยุคนี้ผู้คนจะเริ่มมีการศึกษามีความฉลาดขึ้น มีถ่ายทอดความรู้ไปสู่คนอื่นมากขึ้น จนเป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาในระบบโรงเรียนไปจนถึงมหาวิทยาลัยในระยะต่อมา
ในหนังสือจะเล่าถึงประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในอดีต โดยพบว่า ประเทศจีน เป็นประเทศที่มีความโดดเด่นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยุค ค.ศ. 600 ต่อมาก็มีการเปลี่ยนประเทศมหาอำนาจมาเป็น ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นประเทศที่มีขนาดเล็ก แต่ก็สามารถก้าวมาเป็นหนึ่งในอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ของโลกในช่วงยุค ค.ศ. 1600
ก่อนที่จะมีการส่งถ่ายเปลี่ยนมือมาเป็น ประเทศสหราชอาณาจักร ในช่วงปี ค.ศ. 1800 และสามารถครองอำนาจไปได้จนถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 หากมองย้อนไปในช่วงยุค ค.ศ. 1700 จะพบว่าในยุคนั้นประเทศที่เริ่มเฟื่องฟูและมีอำนาจมากคือ ประเทศสหราชอาณาจักร อังกฤษ แม้ว่าจะเป็นประเทศที่มีขนาดเล็ก แต่ก็ได้มีอาณานิคมกระจายอยู่นอกราชอาณาจักรเยอะแยะมากมาย จนได้ฉายาว่าเป็น ดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน (The sun never set in the British Empire) แต่แน่นอนว่าอาณาจักรที่รุ่งเรืองก็สามารถถูกแย่งชิงอำนาจไปได้ ถ้าหากมีรากฐานที่อ่อนแอ โดยวิกฤตที่จะสามารถทำลายอำนาจของอาณาจักรได้นั้นแบ่งได้เป็น วิกฤตทางเศรษฐกิจ, สงคราม และโรคระบาด
ต่อมาหลังสงครามโลก ในช่วงปี ค.ศ. 1900 ก็มีประเทศมหาอำนาจใหม่ คือ สหรัฐอเมริกา ที่ได้ก้าวขึ้นสู่การมาเป็นมหาอำนาจของโลกจนกระทั่งมาถึงปัจจุบัน แม้ว่าในปัจจุบัน สหรัฐอเมริกา จะมีการเติบโตเริ่มช้าและลดต่ำลงต่อเนื่อง และในขณะเดียวกัน ประเทศจีน กลับมีการเติบโตที่เร่งสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ตัวชี้วัดแสดงให้เห็นโอกาสที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านอำนาจทีี่มีในประเทศ
1. ความสามารถในการเป็นผู้นำของผู้บริหาร
2. ระดับการศึกษาของคนในประเทศ
3. ความมุ่งมั่นของคนในประเทศ การมีเป้าหมายและแรงตั้งใจ
4. กฎระเบียบกฎหมายที่มีความเข้มแข็งมีประโยชน์ในการสร้างความเป็นระเบียบ
5. ปริมาณการคอรัปชั่นที่พบมีในประเทศ
6. ประสิทธิภาพการจัดสรรทรัพยากรที่มีอย่างเหมาะสมหรือไม่
7. การเปิดกว้างสู่การคิดเสรีภาพในการใช้ชีวิต ที่มีมาตรฐานในระดับโลก
จากตัวชี้วัดที่กล่าวมา จะแสดงให้เห็นว่าประเทศเหล่านนั้นมีโอกาสที่จะเติบโตหรือเสื่อมถอยลง ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านอำนาจทีี่มีทั้งในประเทศและนอกประเทศ ปัจจัยที่ทำให้อาณาจักรสามารถมีอำนาจจนยิ่งใหญ่ได้นั้น ต้องเริ่มจาก การให้คนในประเทศมีการศึกษา เรียนรู้ Knowhow จากต่างประเทศ ซึ่งนำไปสู่การแข่งขันในตลาดโลก เมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็จะสามารถลงทุนพัฒนาผลผลิตสูงขึ้น การมีเทคโนโลยีใหม่ก็จะช่วยส่งเสริมกองทัพทหารให้มีความแข็งแกร่งเพื่อปกป้องเส้นทางการค้า อย่างสหรัฐ ที่ชนะสงครามโลกครั้งที่สอง เนื่องจากเห็นได้ชัดว่าสหรัฐมีความโดดเด่นทางเศรษฐกิจและการทหาร ทำให้สหรัฐกลายเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีสกุลเงินเป็นสกุลเงินสำรองของโลก ย่อมทำให้สามารถกู้ยืมและใช้จ่ายมากขึ้น
ค่าเงินของประเทศที่มีร่ำรวยที่สุดและมีอำนาจมากที่สุดจะกลายเป็นสกุลเงินสำรองของโลก ทำให้มีสิทธิพิเศษที่มากกว่าประเทศอื่น สามารถยืมเงินได้มากขึ้นเท่ากับเป็นหนี้มากขึ้น การมีหนี้มากเกินไปนี้สามารถดำเนินต่อไปได้ระยะหนึ่งและอาจเป็นการเสริมเศรษฐกิจของประเทศด้วย แต่เมื่อประเทศที่ร่ำรวยเป็นหนี้สินจากการกู้ยืมจากประเทศที่จนกว่า จะเป็นสัญญาณแรกของการเปลี่ยนแปลงความมั่งคั่ง เช่นในปี 1980 เมื่อสหรัฐมีรายได้ต่อประชากรมากกว่าจีน 40 เท่า เริ่มกู้ยืมจากจีนเป็นสกุลเงินดอลลาร์ เช่นเดียวกับอังกฤษที่ยืมเงินจำนวนมากจากอาณานิคมที่ยากจน โดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และเนเธอร์แลนด์ก็ทำเช่นเดียวกัน ก่อนที่จะเกิดการเปลี่ยนอำนาจของประเทศ
นับตั้งแต่ช่วง ค.ศ. 1700 โลกของเรามีสกุลเงินกว่า 750 ชนิด แต่ปัจจุบันสกุลเงินเหลืออยู่เพียง 20% เท่านั้น เนื่องจากการอ่อนค่าของเงิน จนสกุลเงินนั้นสุดท้ายกลายเป็นสิ่งไร้ค่า สาเหตุของการอ่อนค่าของเงินเริ่มต้นจากหนี้ เมื่อประเทศมีหนี้มากขึ้น เศรษฐกิจเริ่มไม่ดี ธนาคารกลางของประเทศนั้นๆ ก็จะออกนโยบายลดอัตราดอกเบี้ยลง แต่เมื่อนโยบายนี้ยังไม่สามารถช่วยให้หลุดพ้นจากวิกฤตได้ สิ่งต่อมาที่ธนาคารกลางจะทำคือ การพิมพ์เงินใหม่ ซึ่งการพิมพ์เงินนี้เอง ทำให้เกิดการอ่อนค่าของมูลค่า สาเหตุของการเกิดหนี้มหาศาลในอดีตคงหนีไม่พ้นเรื่องการทำสงคราม เนื่องจากต้องใช้เงินอย่างมากในการสนับสนุนกองทัพ และประคองเศรษฐกิจที่ยากลำบากในขณะนั้น ประเทศที่แพ้สงคราม จะต้องเผชิญกับวิกฤตอย่างหนักของหนี้สิน ทำให้เกิดการพิมพ์เงินขึ้น และในที่สุดก็จะเกิดการลดค่าเงิน ทั้งนี้ประเทศที่เป็นฝ่ายชนะ ก็ยังต้องเผชิญกับปัญหานี้เช่นกัน แต่อาจจะไม่ได้รุนแรงเท่ากับประเทศที่แพ้
จึงสามารถสรุปได้ว่า ประเทศที่มีความมั่นคงนั้นจะเกิดได้จาก ประเทศมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพราะมีหนี้สินที่ค่อนข้างต่ำ ช่องว่างระหว่างชนชั้นน้อย คนทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อก่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง มีการศึกษาดี ผู้นำที่เข้มแข็งและมีความสามารถ และโลกที่สงบสุข
สิ่งที่ประเทศผู้นำที่จะต้องทำให้ได้ เพื่อการสร้างระเบียบใหม่
1. มีอำนาจจากการรวบรวมเสียงสนับสนุนจนเป็นเสียงส่วนมาก
2. ลดอิทธิพลของฝ่ายตรงข้ามด้วยวิธีต่างๆ
3. จัดตั้งระบบและสถาบันที่ทำให้ประเทศดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
4. ระบบการในสืบทอดอำนาจที่ให้ผู้นำที่ยิ่งใหญ่บริหารได้ต่อไป
วัฏจักรของประเทศมหาอำนาจในอดีตแสดงให้เห็นว่า การปฏิวัติและสงครามจะทำลายระบบของประเทศมหาอำนาจเดิม ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นการเกิดขึ้นของประเทศมหาอำนาจใหม่ โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 10 ถึง 20 ปี การเปลี่ยนแปลงใหม่แสดงโดยพื้นที่แรเงาในแผนภูมิ หลังจากนั้นจะตามมาด้วยช่วงเวลาแห่งสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองที่ยาวนาน จะไม่มีประเทศใดต้องการต่อสู้กับประเทศมหาอำนาจใหม่เพราะแข็งแกร่งเกินไป ซึ่งช่วงเวลาแห่งความสงบสุขจะใช้เวลาประมาณ 40 ถึง 80 ปี
-------------------------------------------------
ที่มาข้อมูล
-
ภาพและรวบรวมข้อมูล
-------------------------------------------------
สนใจเรื่องราวการจัดการธุรกิจเพิ่มเติมคลิกที่นี่
-------------------------------------------------
แนะนำหนังสืออื่นของ Ray
วิดีโอแนะนำหนังสือ Principles for Success (หลักการสู่ความสำเร็จ)
วิดีโอแนะนำหนังสือ The Changing World Order: Why Nations Succeed and Fail
--------------------------------------------
รวมวิดีโอแนะนำหนังสือ ระเบียบโลกที่เปลี่ยนแปลง: เหตุใดประชาชาติจึงประสบความสำเร็จและล้มเหลว
“The Changing World Order: Why Nations Succeed and Fail”
สรุปหนังสือดีที่ควรอ่าน “The Changing World Order: Why Nations Succeed and Fail” ของ Ray Dalio
หนังสือ ระเบียบโลกที่เปลี่ยนแปลง: เหตุใดประชาชาติจึงประสบความสำเร็จและล้มเหลว ของ Ray Dalio เชื่อว่าโลกกำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในชีวิตของเราหลังจากนี้ จากการศึกษาข้อมูลที่มีผ่านมาหลายครั้งในประวัติศาสตร์ จึงควรที่เราจะต้องศึกษาการเปลี่ยนแปลงในอดีตเพื่อทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้และช่วยคาดการณ์สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นต่อไป
หนังสือ ระเบียบโลกที่เปลี่ยนแปลง: เหตุใดประชาชาติจึงประสบความสำเร็จและล้มเหลว จะช่วยให้เราเข้าใจแนวคิดหลักสาระสำคัญของสิ่งที่ขับเคลื่อน “วัฏจักรใหญ่” ของการเพิ่มขึ้นและเสื่อมถอยของประเทศต่างๆ ผ่านกาลเวลา แสดงให้เห็นว่า “วัฏจักรใหญ่” ทำงานอย่างไรในช่วง 500 ปีที่ผ่านมาของประวัติศาสตร์ และสิ่งที่ผู้นำโลกในปัจจุบันอย่างสหรัฐฯ ต้องทำเพื่อคงความแข็งแกร่งไว้
หนังสือ ระเบียบโลกที่เปลี่ยนแปลง: เหตุใดประชาชาติจึงประสบความสำเร็จและล้มเหลว เขียนถึง วงจรการเติบโตของประเทศมหาอำนาจโลก ที่มีในอดีตแต่ละยุคโดยเล่าถึงประเทศตั้งแต่เติบโตเป็นมหาอำนาจไปจนเสื่อมลง และมีการเกิดขึ้นทดแทนของประเทศมหาอำนาจรายใหม่ จะกล่าวถึงความรุ่งเรือง รุ่งโรจน์ และถดถอย ของประเทศมหาอำนาจในโลกที่มีผ่านมา ที่แม้ว่าในแต่ละประเทศจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันในหลายส่วน แต่รูปแบบที่พบจะคล้ายคลึงกัน มีการเล่าถึงปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้ประเทศที่จะมาเป็นมหาอำนาจโลกกว้าหน้า หรือจะทำลายความก้าวหน้าจะเข้าสู่การเสื่อมของประเทศมหาอำนาจ และยังเล่าโยงถึงที่มาของความขัดแย้งระหว่างประเทศที่จะบอกว่าจะมีผลลัพธ์ยังไง โดยในเล่มจะยกเรื่องราวของสามมหาอำนาจที่พบผ่านมา คือ ดักซ์ อังกฤษ และอเมริกา มาจนถึงปัจจุบันซึ่งตรงกับช่วงที่พยายามบอกถึงปัญหาว่าทำไมช่วงนี้ เราจึงพบมีปัญหาระหว่างอเมริกากับจีนมากมายหลายครั้ง และอาจบอกได้ว่าทำใมจีนถึงได้กล้าท้าชนสหรัฐ
อ่านบทสรุปเพิ่มเติม
แนะนำหนังสือ The Changing World Order: Why Nations Succeed and Fail
วีดีโอที่เกี่ยวข้อง
ที่มา The Secret Sauce โดย เคน นครินทร์ เล่าถึงโลกที่เต็มไปด้วยความโกลาหลและความวุ่นวาย โดยหวังว่าจะช่วยบอกเล่าได้ว่า เหตุการณ์ในปัจจุบันมีความคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ในอดีตอย่างไร และเรากำลังจะมุ่งหน้าไปในทิศทางใดในอนาคต
.
-------------------------------------------------
ที่มาข้อมูล
-
ภาพและรวบรวมข้อมูล
-------------------------------------------------
สนใจเรื่องราวการจัดการธุรกิจเพิ่มเติมคลิกที่นี่
-------------------------------------------------
แนะนำหนังสืออื่นของ Ray
วิดีโอแนะนำหนังสือ Principles for Success (หลักการสู่ความสำเร็จ)
วิดีโอแนะนำหนังสือ The Changing World Order: Why Nations Succeed and Fail
--------------------------------------------
เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward