iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้

มิสเตอร์เรน (Mr. Rain) และมิสเตอร์เชน (Mr. Chain)
Mr. Rain และ Mr. Chain สองพี่น้องในโลกออฟไลน์และออนไลน์ที่จะมาร่วมมือกันสร้างสื่อสารสนเทศ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างสังคมในการเรียนรู้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา
Pay It Forward เป้าหมายเล็ก ๆ ในการส่งมอบความดีต่อ ๆ ไป
เว็ปไซต์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward ที่เล่าถึงการมีเป้าหมายเล็ก ๆ กำหนดไว้ให้ส่งมอบความดีต่อไปอีก 3 คน หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยโดยไม่ต้องตอบแทนกลับมา อยากให้ส่งต่อเพื่อถ่ายทอดต่อไป
ยืนหยัด เข้มแข็ง และกล้าหาญ (Stay Strong & Be Brave)
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนในการต่อสู้ความอยุติธรรม ในยุคสังคมที่คดโกงยึดถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกฟ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม จนหลายคนคิดว่าพวกด้านได้อายอดมักได้ดี แต่หากยึดคำในหลวงสอนไว้ในเรื่องการทำความดีเราจะมีความสุขครับ

1992 หุบเขาจิ่วไจ้โกวและพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ (Jiuzhaigou Valley Scenic and Historic Interest Area)

 

แผนที่ https://maps.app.goo.gl/gyS6j1D8QzqTEvj67

หุบเขาจิ่วไจ้โกว มรดกโลกแห่งแดนมังกร แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกที่งดงามแห่งประเทศจีน ความงามทางธรรมชาติอันมหัศจรรย์ และระบบนิเวศอันอุดมสมบูรณ์

หุบเขาจิ่วไจ้โกวและพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ (Jiuzhaigou Valley Scenic and Historic Interest Area) ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวนตอนเหนือ สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ อำเภอนานผิง (Nanping County) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขามินชาน (Min Shan mountain range) ทางตอนใต้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ด้วยคุณค่าทางธรรมชาติอันโดดเด่น พื้นที่นี้ครอบคลุมอาณาเขตกว้างใหญ่ถึง 72,000 เฮกตาร์ (hectares) พร้อมด้วยเขตกันชน (buffer zone) อีก 60,000 เฮกตาร์ และต่อมาในปี ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) ยังได้รับการประกาศให้เป็นเขตอนุรักษ์ชีวมณฑลโลก (World Biosphere Reserve) อีกด้วย

หุบเขาแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ภูมิทัศน์แห่งดินแดนเทพนิยาย" (fairyland landscape) อันเนื่องมาจากความงดงามทางธรรมชาติที่หาใดเปรียบได้ยากยิ่ง โดดเด่นด้วยน้ำตกหลายชั้นที่ทอดตัวลดหลั่นกัน ทะเลสาบหลากสีสันสดใส และยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ องค์ประกอบทางธรณีวิทยาอันเป็นเอกลักษณ์ เช่น ลักษณะภูมิประเทศแบบคาร์สต์ (karst landforms) และสายน้ำที่ใสสะอาดอุดมด้วยแร่ธาตุ ได้ร่วมกันรังสรรค์ให้เกิดชุดของทะเลสาบที่ลดหลั่นเป็นขั้นบันได ซึ่งมักถูกคั่นด้วยแนวหินปูนปลาทูฟา (tufa dykes) และน้ำตกอันตระการตาหลายแห่ง อาทิ น้ำตกซงกวาไจ๋ (Xionguashai หรือ Panda Lake Fall) และน้ำตกเจิ้งจูถาน (Zhengzhutan หรือ Pearl Shoal Fall) ระดับความสูงของหุบเขาแห่งนี้มีความหลากหลาย ตั้งแต่ 2,000 เมตร ไปจนถึง 4,500 เมตร

คุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากล (Outstanding Universal Value)

หุบเขาจิ่วไจ้โกวได้รับการยอมรับในระดับสากลภายใต้เกณฑ์ที่ 7 ของยูเนสโก (Criterion vii) ซึ่งเน้นย้ำถึง "ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันน่าตื่นตาตื่นใจ หรือบริเวณที่มีความงามตามธรรมชาติอันยอดเยี่ยม และมีความสำคัญทางสุนทรียภาพ" (superlative natural phenomena or areas of exceptional natural beauty and aesthetic importance) โดยคุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากลของจิ่วไจ้โกวสามารถสรุปได้ดังนี้:

  • ความงามทางธรรมชาติอันเหนือชั้น: หุบเขาแห่งนี้คือตัวอย่างอันโดดเด่นของความงดงามทางทัศนียภาพและสุนทรียภาพทางธรรมชาติ ด้วยภูมิทัศน์ดุจดินแดนเทพนิยายที่ประกอบด้วยสระน้ำใสราวคริสตัลที่มีสีสันหลากหลาย ทะเลสาบ น้ำตก และระเบียงหินปูนที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์ (alpine mountains) ที่ขรุขระงดงาม และระบบนิเวศป่าไม้ที่หลากหลายอย่างยิ่ง

  • พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติแห่งอุทกวิทยาคาร์สต์: จิ่วไจ้โกวถือเป็น "พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ" (natural museum) ที่สำคัญสำหรับการศึกษาอุทกวิทยาแบบคาร์สต์ในพื้นที่สูง (alpine karst hydrology) และการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการก่อตัวของภูมิประเทศที่เกิดจากหินปูน การกัดเซาะ และการสะสมตัวของแร่ธาตุ

  • ระบบนิเวศป่าไม้และแหล่งที่อยู่อาศัย: พื้นที่แห่งนี้ยังคงรักษาระบบนิเวศป่าไม้ที่มีความหลากหลายและไม่ถูกรบกวนไว้ได้เป็นอย่างดี รวมถึงป่าไม้โบราณ ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่สำคัญสำหรับพืชและสัตว์หลายชนิดที่ถูกคุกคามในระดับโลก เช่น แพนด้ายักษ์ (giant panda), ลิงจมูกเชิดสีทอง (golden snub-nosed monkey) และทาคินเสฉวน (Sichuan takin) นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกประมาณ 140 สายพันธุ์

  • ร่องรอยธารน้ำแข็งยุคควอเทอร์นารี: หุบเขาจิ่วไจ้โกวยังคงรักษาร่องรอยของธารน้ำแข็งยุคควอเทอร์นารี (Quaternary glacial remnants) ที่ยังคงสภาพดี ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญทางธรณีวิทยาที่แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ทางธรณีของโลก องค์การยูเนสโกได้แสดงความกังวลต่อผลกระทบที่เพิ่มขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ และได้ส่งเสริมมาตรการเพื่อปกป้องสถานที่แห่งนี้ รวมถึงการแนะนำให้จัดทำรายงานสถานะการอนุรักษ์สายพันธุ์เพื่อสำรวจคุณสมบัติภายใต้เกณฑ์มรดกธรรมชาติข้อ (iv) เพิ่มเติม

บริบททางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม

ในทางประวัติศาสตร์ ชื่อ "จิ่วไจ้โกว" (Jiuzhaigou) ซึ่งมีความหมายว่า "หุบเขาแห่งเก้าหมู่บ้านที่มีป้อมปราการ" (Valley of Nine Fortified Villages) เป็นชื่อที่อ้างอิงถึงหมู่บ้านชาวทิเบตโบราณเก้าแห่งที่ตั้งอยู่ใกล้กับพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงการตั้งถิ่นฐานและวัฒนธรรมของชนพื้นเมืองในอดีต (ไม่ใช่ตำนาน)

ในด้านสถาปัตยกรรมนั้น หุบเขาจิ่วไจ้โกวโดดเด่นด้วย "สถาปัตยกรรมธรรมชาติ" (natural architecture) ที่เกิดจากกระบวนการทางธรณีวิทยาและอุทกวิทยาอันซับซ้อน ซึ่งได้รังสรรค์โครงสร้างภูมิทัศน์ที่น่าทึ่งหลายประการ:

  • ธรณีสัณฐานคาร์สต์: พื้นที่แห่งนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของธรณีสัณฐานแบบคาร์สต์ ซึ่งเกิดจากการละลายของหินปูน ก่อให้เกิดถ้ำ โพรง และโครงสร้างทางธรณีวิทยาอันซับซ้อน

  • ทะเลสาบขั้นบันไดและแนวหินปูนปลาทูฟา: สายน้ำที่อุดมด้วยแร่ธาตุได้สร้างทะเลสาบที่ทอดตัวลดหลั่นเป็นชั้น โดยมีแนวหินปูนปลาทูฟา (tufa dykes) ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ทำหน้าที่เป็นเขื่อนกั้นน้ำที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเกิดขึ้นจากการสะสมตัวของแคลเซียมคาร์บอเนตที่ละลายในน้ำ

  • น้ำตกมหัศจรรย์: น้ำตกที่ลดหลั่นกันลงมาเป็นชั้น ๆ เช่น น้ำตกซงกวาไจ๋ (Xionguashai Fall) และน้ำตกเจิ้งจูถาน (Zhengzhutan Fall) เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของระดับความสูงและองค์ประกอบทางธรณีวิทยาที่ซับซ้อน ก่อให้เกิดทัศนียภาพที่งดงามและเสียงอันกึกก้องกังวาน

ระดับความสูงของหุบเขาที่แตกต่างกันอย่างมาก ตั้งแต่ 2,000 เมตร ถึง 4,500 เมตร เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเกิดสภาวะอากาศและระบบนิเวศที่หลากหลายภายในพื้นที่ ทำให้เป็นแหล่งรวมของพืชพรรณและสัตว์ป่าที่หายากและเป็นเอกลักษณ์

จุดเด่นสำคัญ (Key Highlights)

หุบเขาจิ่วไจ้โกวนำเสนอจุดเด่นสำคัญที่ดึงดูดนักวิชาการและนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์จากทั่วโลก:

  • น้ำตกและทะเลสาบหลากสี: ความโดดเด่นอยู่ที่น้ำตกหลายชั้นที่งดงามและทะเลสาบที่มีสีสันอันน่าอัศจรรย์ เช่น สีฟ้าอมเขียว สีคราม และสีเหลืองอำพัน ซึ่งเกิดจากแร่ธาตุในน้ำและพืชพรรณใต้น้ำ

  • ยอดเขาหิมะ: ภูมิทัศน์ที่ถูกแต่งแต้มด้วยยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดปี มอบทัศนียภาพอันโอ่อ่าและเป็นฉากหลังอันงดงามให้กับระบบนิเวศที่อยู่เบื้องล่าง

  • ระบบนิเวศป่าไม้บริสุทธิ์: การอนุรักษ์ระบบนิเวศป่าไม้ที่หลากหลายและไม่ถูกรบกวน รวมถึงป่าไม้โบราณ (ancient forests) ที่มีความสำคัญทางนิเวศวิทยาอย่างยิ่ง

  • แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหายาก: เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่สำคัญสำหรับสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ระดับโลก เช่น แพนด้ายักษ์ (giant panda), ลิงจมูกเชิดสีทอง (golden snub-nosed monkey), ทาคินเสฉวน (Sichuan takin) รวมถึงนกอีกประมาณ 140 สายพันธุ์

  • ธรณีสัณฐานคาร์สต์ที่ไม่เหมือนใคร: การก่อตัวของภูมิประเทศแบบคาร์สต์ (karst landforms) ร่วมกับน้ำใสที่อุดมด้วยแร่ธาตุได้สร้างสรรค์ทะเลสาบขั้นบันไดที่ถูกคั่นด้วยแนวหินปูนปลาทูฟา (tufa dykes) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ยาก

  • น้ำตกชื่อดัง: น้ำตกซงกวาไจ๋ (Xionguashai หรือ Panda Lake Fall) และน้ำตกเจิ้งจูถาน (Zhengzhutan หรือ Pearl Shoal Fall) เป็นสองในหลายน้ำตกที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักกันดี

หุบเขาจิ่วไจ้โกวและพื้นที่ทางประวัติศาสตร์เป็นมรดกโลกที่ล้ำค่า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติอย่างแท้จริง ด้วยภูมิทัศน์ที่งดงามราวภาพวาด ระบบนิเวศป่าไม้ที่สมบูรณ์ และความหลากหลายทางชีวภาพอันเป็นเอกลักษณ์ คุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากลของจิ่วไจ้โกวนั้นไม่เพียงแค่ดึงดูดใจด้วยความงามทางสุนทรียภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นห้องปฏิบัติการธรรมชาติสำหรับการศึกษาทางธรณีวิทยาและอุทกวิทยา และเป็นแหล่งอนุรักษ์สายพันธุ์พืชและสัตว์ที่ถูกคุกคามในระดับโลก การบริหารจัดการอย่างเข้มงวดและการปฏิบัติตามกฎระเบียบของนักท่องเที่ยวจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อธำรงรักษามรดกอันล้ำค่าแห่งนี้ให้คงอยู่คู่โลกสืบไป

 

ข้อมูลเพิ่มเติม เที่ยวจีน เสฉวน เฉิงตู หุบเขาจิ่วไจ้โกว (Jiuzhaigou Valley)

หุบเขาจิ่วไจ้โกว ที่ขรุขระซึ่งทอดยาวกว่า 72,000 เฮคเตอร์ทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวนมีความสูงถึงกว่า 4,800 เมตร ซึ่งประกอบด้วยระบบนิเวศป่าไม้ที่หลากหลาย ทิวทัศน์อันยอดเยี่ยมของที่นี่มีความน่าสนใจเป็นพิเศษจากรูปแบบดินหินคาสต์ทรงกรวยแคบและน้ำตกอันตระการตา นกราว 140 สายพันธุ์อาศัยอยู่ในหุบเขา เช่นเดียวกับพืชและสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงแพนด้ายักษ์และทาคินเสฉวน

จิ่วไจ้โกวได้รับการคุ้มครองในฐานะแหล่งมรดกโลกเนื่องจากความงดงามที่ไม่ธรรมดาและระบบนิเวศที่สมบูรณ์ หุบเขานี้มีระบบน้ำที่ซับซ้อนและใสสะอาด โดยน้ำในทะเลสาบและแม่น้ำภายในหุบเขามีความใสจนมองเห็นพื้นผิวด้านล่าง นอกจากนี้ ความเปลี่ยนแปลงของสีสันของน้ำทะเลสาบตามฤดูกาลทำให้จิ่วไจ้โกวเป็นที่รู้จักในเรื่องของความสวยงามที่ไม่เหมือนใคร

หุบเขาจิ่วไจ้โกวเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร ทั้งทะเลสาบสีสดใส น้ำตกที่งดงาม และระบบนิเวศที่สมบูรณ์ เป็นจุดหมายที่ควรเยี่ยมชมสักครั้งในชีวิตของนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติและต้องการสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของโลกใบนี้ หุบเขาจิ่วไจ้โกว เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่การมาเยือนสักครั้ง นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติ เรียนรู้เกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพ และตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ธรรมชาติ

 

จิ่วไจ้โกว ประกอบด้วยหุบเขาสามแห่งที่เชื่อมต่อกันซึ่งมีรูปร่างคล้ายตัว "Y" หุบเขา Zechawang ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายและหุบเขา Rize ทางด้านขวา หุบเขาทั้งสองมาบรรจบกันจากเหนือจรดใต้ จากนั้นจึงก่อตัวเป็นหุบเขาชูเจิง สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในจิ่วไจ้โกว กระจายอยู่ในหุบเขาทั้งสามนี้ และสามารถเยี่ยมชมได้ทั้งโดยรถบัสเที่ยวชมสถานที่ที่สะดวกสบายและเส้นทางเดินเท้าสำหรับนักท่องเที่ยว

จุดท่องเที่ยวจิ่วไจ้โกวทางฝั่งขวา 

- ทะเลสาบห้าสี (Five Flower Lake) ทะเลสาบที่จัดเป็นไฮไลท์ของจิ่วไจ้โกว ด้วยผืนน้ำในทะเลสาบที่ไล่เฉดสีฟ้า-เขียวและเปล่งประกายเหมือนสีรุ้ง สีของน้ำทะเลสาบที่เห็นนี้เกิดจากแคลเซียมคาร์บอเนตและพืชน้ำชนิดต่างๆ อีกทั้งน้ำยังใสจนเห็นพื้นทะเลสาบ ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะยิ่งสวยงามเป็นพิเศษ ด้วยสีสันจากธรรมชาติจัดได้ว่า บ่อนี้จะมีความสวยงามมากที่สุดในจิ่วจ้ายโกว

- ทะเลสาบแรด (Rhino Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอุทยานจิ่วไจ้โกว แถมยังมีบรรยากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล เช่น ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน บรรยากาศรอบๆ จะเป็นสีเขียว พร้อมด้วยดอกไม้ใบหญ้า ส่วนในฤดูใบไม้ร่วงจะเต็มไปด้วยสีส้มแดงของใบไม้เปลี่ยนสี ผืนน้ำในทะเลสาบใสสะท้อนวิวธรรมชาติโดยรอบ จัดว่าเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีวิวเงาสะท้อนที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลย

- ทะเลสาบนกยูง (Peacock Lake) เป็นทะเลสาบที่มีรูปร่างคล้ายกับนกยูง จึงเป็นที่มาของชื่อ ความพิเศษก็คือ สีของน้ำในทะเลสาบแห่งนี้ที่เป็นสีฟ้าและใสราวกับคริสตัล ไล่เฉดสีฟ้าเข้มและอ่อนโดยขึ้นอยู่กับระดับความลึกของน้ำนั่นเอง

- ทะเลสาบกระจก (Mirror Lake) เป็นทะเลสาบที่ผืนน้ำใสและสะท้อนวิวธรรมชาติ โดยรอบทั้งภูเขาและท้องฟ้าออกมาได้สวยงามราวกับกระจก ยิ่งในวันที่ฟ้าเปิดและมีแสงแดดอ่อนๆ ก็จะยิ่งสวยงามเป็นพิเศษ

จิ่วไจ้โกวทางฝั่งซ้ายและพื้นที่ข้างล่าง

- ทะเลสาบยาว (Long Lake) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในจิ่วจ้ายโกว มีความยาวกว่า 7 กิโลเมตร พื้นที่กว่า 581 ไร่ อีกทั้งยังมีความลึกที่สุดอีกด้วย รูปร่างของทะเลสาบเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว น้ำในทะเลสาบเป็นสีฟ้าสวยงาม มาจากหิมะบนภูเขาที่ละลายลงมา ล้อมรอบด้วยวิวภูเขาที่เต็มไปด้วยต้นสน บรรยากาศดีงามมากๆ

- น้ำตกธารไข่มุก (Pearl Shoals Waterfall) หรืออีกชื่อคือ น้ำตกนู่รือหลาง (Nuo Ri Lang Waterfall) เป็นน้ำตกที่ไหลผ่านถ้ำลำธารน้อยใหญ่ และมีสายน้ำทอดยาวลดหลั่นกันมา ส่องประกายราวกับเส้นไข่มุก เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในจิ่วจ้ายโกว รูปทรงคล้ายกับพัดจีน มีความสูง 40 เมตร และกว้าง 310 เมตร ถ้ามาเที่ยวในตอนเช้าจะได้เห็นสายรุ้งจากแสงแดดที่สะท้อนกับละอองน้ำ

- หมู่บ้านซูเจิง (Shuzheng Village) เป็นหนึ่งใน 9 หมู่บ้านแห่งจิ่วไจ้โกว เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ของชาวทิเบต ล้อมรอบด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกซูเจิง (Shuzheng Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีความกว้าง 62 เมตร และสูง 25 เมตร มีลักษณะเหมือนดอกบัว และมีสายน้ำไหลลงมาแยกออกเป็นเส้นเล็กๆ กว่าพันสายส่วนยอดของน้ำตกเป็นจุดรวมของสายน้ำ และยังมี ทะเลสาบซูเจิง (Shuzheng Lake) ที่ประกอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่กว่า 19 แห่ง อยู่ตามโขดหินที่สลับกันเหมือนขั้นบันได ไล่ระดับต่างกันกว่า 100 เมตร มองจากมุมสูงจะสวยงามมาก

ฤดูกาลท่องเที่ยว หุบเขาจิ่วไจ้โกวสามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี แต่ละฤดูจะมีความสวยงามที่แตกต่างกัน:

  • ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม): ช่วงนี้ป่าและดอกไม้เริ่มผลิบาน อากาศเย็นสบาย และน้ำในทะเลสาบจะเต็มไปด้วยน้ำพุใส
  • ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม): ธรรมชาติเขียวชอุ่ม เต็มไปด้วยต้นไม้และพืชพรรณที่เจริญงอกงาม นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับการเดินป่าและชมทัศนียภาพ
  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน): เป็นช่วงที่จิ่วไจ้โกวสวยงามที่สุด ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีทองและแดง ทะเลสาบสะท้อนภาพใบไม้ที่มีสีสันสดใส
  • ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์): หิมะปกคลุมทั่วหุบเขา ทำให้ทิวทัศน์ดูสงบงดงาม นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของทะเลสาบและน้ำตกที่กลายเป็นน้ำแข็งบางส่วน

เนื่องจากจิ่วไจ้โกว เป็นแหล่งมรดกโลก การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อรักษาธรรมชาติที่สวยงามและความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนจึงเป็นสิ่งที่ได้รับการส่งเสริมอย่างเคร่งครัด มีการจำกัดจำนวนผู้เข้าชมในแต่ละวันเพื่อป้องกันผลกระทบจากการท่องเที่ยวและให้การอนุรักษ์พื้นที่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ หุบเขาจิ่วไจ้โกว ที่ขรุขระซึ่งทอดยาวกว่า 72,000 เฮคเตอร์ ทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวนมีความสูงถึงกว่า 4,800 เมตร ซึ่งประกอบด้วยระบบนิเวศป่าไม้ที่หลากหลาย ทิวทัศน์อันยอดเยี่ยมของที่นี่มีความน่าสนใจเป็นพิเศษจากรูปแบบดินหินคาสต์ทรงกรวยแคบและน้ำตกอันตระการตา มีนกหลากหลายสายพันธ์มากกว่า 140 สายพันธุ์อาศัยอยู่ในหุบเขานี้ นอกจากนั้นยังมีพืชและสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์อีกมากมาย รวมถึงแพนด้ายักษ์ และทาคินเสฉวน

ขอต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์
www.iok2u.com
แหล่งข้อมูลสารสนเทศเพื่อคุณ

เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward