แหล่งมรดกโลก เอเชียตะวันออก จีน 2005 ศูนย์กลางประวัติศาสตร์มาเก๊า (Historic Centre of Macao)

2005 ศูนย์กลางประวัติศาสตร์มาเก๊า (Historic Centre of Macao)

แหล่งมรดกโลก เอเชียตะวันออก จีน 2005 ศูนย์กลางประวัติศาสตร์มาเก๊า (Historic Centre of Macao)

แผนที่ https://maps.app.goo.gl/PHqf8hHDfjxsqzCk9

ศูนย์กลางประวัติศาสตร์มาเก๊า: ประจักษ์พยานแห่งการหลอมรวมอารยธรรมตะวันออกและตะวันตก

ศูนย์กลางประวัติศาสตร์มาเก๊า (Historic Centre of Macao) เป็นแหล่งมรดกโลกที่ได้รับการจารึกในบัญชีรายชื่อมรดกโลกขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO World Heritage List) เมื่อปีพุทธศักราช 2548 (ค.ศ. 2005) นับเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 31 ในประเทศจีน แหล่งมรดกแห่งนี้เป็นประจักษ์พยานอันเป็นเอกลักษณ์ของการพบปะและอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนระหว่างวัฒนธรรมจีนและโปรตุเกสในมาเก๊า ซึ่งเคยเป็นอาณานิคมภายใต้การปกครองของโปรตุเกสมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 (พุทธศักราช 2094-2143) จนกระทั่งถึงปีพุทธศักราช 2542 (ค.ศ. 1999)

มาเก๊า เมืองท่าที่มั่งคั่งและมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ในการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ เคยอยู่ภายใต้การปกครองของโปรตุเกสตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 16 จนถึงปี 1999 ก่อนจะตกอยู่ภายใต้การปกครองของจีน ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของมาเก๊าประกอบด้วยถนนสายประวัติศาสตร์ ที่อยู่อาศัย ศาสนสถาน และอาคารสาธารณะแบบโปรตุเกสและจีน สะท้อนถึงการบรรจบกันของอิทธิพลด้านสุนทรียศาสตร์ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และเทคโนโลยีจากตะวันออกและตะวันตก มาเก๊ายังมีป้อมปราการและประภาคารที่เก่าแก่ที่สุดในจีน นับเป็นหลักฐานการพบปะกันครั้งแรกและยาวนานที่สุดระหว่างจีนและตะวันตก โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความมีชีวิตชีวาของการค้าระหว่างประเทศ

แหล่งมรดกโลกแห่งนี้ประกอบด้วยอนุสาวรีย์สำคัญและจัตุรัสในเขตเมืองกว่า 20 แห่งที่ถักทอสอดประสานกันอยู่ใจกลางเมือง สะท้อนให้เห็นถึงมรดกทางสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมอันล้ำค่าของมาเก๊า องค์การยูเนสโกได้บรรยายถึงศูนย์กลางประวัติศาสตร์มาเก๊าว่าเป็น "หลักฐานยืนยันอันเป็นเอกลักษณ์ของการบรรจบกันของอิทธิพลทางสุนทรียภาพ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และเทคโนโลยีจากตะวันออกและตะวันตก" และยังเป็น "พยานของการเผชิญหน้าระหว่างจีนและตะวันตกที่เกิดขึ้นในช่วงแรกสุดและยาวนานที่สุด โดยมีพื้นฐานมาจากการค้าขายระหว่างประเทศที่มีชีวิตชีวา" โครงสร้างของเมืองท่าการค้าเก่าแห่งนี้สามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจนผ่านถนนสายประวัติศาสตร์ อาคารที่พักอาศัย ศาสนสถาน และอาคารสาธารณะทั้งแบบโปรตุเกสและจีนที่ยังคงหลงเหลืออยู่

คุณค่าสากลอันโดดเด่น (Outstanding Universal Value)

ศูนย์กลางประวัติศาสตร์มาเก๊าได้รับการยอมรับในคุณค่าสากลอันโดดเด่น (Outstanding Universal Value - OUV) โดยเป็นไปตามเกณฑ์ทางวัฒนธรรมหลายประการ ได้แก่ (ii), (iii), (iv), และ (vi)

• เกณฑ์ (ii): ศูนย์กลางประวัติศาสตร์มาเก๊าแสดงให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนอิทธิพลทางสุนทรียภาพ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และเทคโนโลยีจากตะวันออกและตะวันตกอย่างโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ การผสมผสานรูปแบบทางสถาปัตยกรรมและศิลปะสะท้อนถึงการปรับตัวและสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากการติดต่อระหว่างอารยธรรม

• เกณฑ์ (iii): แหล่งมรดกแห่งนี้เป็นพยานหลักฐานที่หาได้ยากและเป็นเอกลักษณ์ของการพบปะกันระหว่างอารยธรรมตะวันตกและจีนในช่วงระยะเวลาประมาณ 450 ปี สะท้อนให้เห็นถึงการหลอมรวมวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งและยาวนาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต ความเชื่อ และโครงสร้างทางสังคมของภูมิภาค

• เกณฑ์ (iv): ศูนย์กลางประวัติศาสตร์มาเก๊านำเสนอตัวอย่างอันโดดเด่นของกลุ่มอาคาร สถาปัตยกรรม หรือภูมิทัศน์ที่แสดงถึงขั้นตอนสำคัญในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะเมืองท่าการค้าที่สำคัญ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างยุโรปและเอเชีย และเป็นศูนย์กลางของการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในภูมิภาคตะวันออก

• เกณฑ์ (vi): แหล่งมรดกแห่งนี้มีความเกี่ยวข้องโดยตรงหรือจับต้องได้อย่างชัดเจนกับเหตุการณ์หรือประเพณีที่มีชีวิต ความคิด ความเชื่อ หรือผลงานทางศิลปะและวรรณกรรมที่มีความสำคัญสากลอย่างโดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของการเป็นศูนย์กลางแห่งการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม จิตวิญญาณ วิทยาศาสตร์ และเทคนิคระหว่างอารยธรรมใหญ่สองแห่งของโลก

คุณค่าเหล่านี้เน้นย้ำถึงบทบาทของมาเก๊าในฐานะประตูสำคัญที่เปิดทางให้เกิดการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างจีนและยุโรป ก่อให้เกิดมรดกทางสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่ยังคงปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน

บริบททางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม (Historical and Architectural Context)

มาเก๊าเป็นอดีตอาณานิคมของโปรตุเกสมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 (พุทธศักราช 2094-2143) จนกระทั่งส่งมอบคืนให้กับจีนในปีพุทธศักราช 2542 (ค.ศ. 1999) ประวัติศาสตร์อันยาวนานนี้ได้หล่อหลอมให้ศูนย์กลางประวัติศาสตร์มาเก๊ามีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร โดยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนปรากฏให้เห็นทั่วทั้งพื้นที่

บริบททางประวัติศาสตร์: มาเก๊าเริ่มเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญเมื่อโปรตุเกสเข้ามาตั้งถิ่นฐานในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 (พุทธศักราช 2044-2143) และพัฒนาเป็นประตูการค้าหลักระหว่างจีน ญี่ปุ่น อินเดีย และยุโรป บทบาทนี้ทำให้มาเก๊าเป็นเมืองที่รุ่งเรืองและเป็นจุดหลอมรวมของวัฒนธรรมที่หลากหลาย แม้ในรายงานจะไม่ได้กล่าวถึงตำนานที่ชัดเจน แต่พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของมาเก๊าเกี่ยวพันกับการค้า การเผยแผ่ศาสนา และการตั้งถิ่นฐานของชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการบันทึกไว้

บริบททางสถาปัตยกรรม: สถาปัตยกรรมในศูนย์กลางประวัติศาสตร์มาเก๊าเป็นส่วนผสมที่น่าทึ่งระหว่างรูปแบบตะวันออกและตะวันตก

• วัดอาม่า (A-Ma Temple): สร้างขึ้นในปีพุทธศักราช 2031 (ค.ศ. 1488) เป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในมาเก๊า อุทิศให้กับเทพธิดาหม่าจู่ (Matsu) เทพเจ้าแห่งชาวเรือและชาวประมง สะท้อนสถาปัตยกรรมวัดแบบจีนดั้งเดิม

• อาคารพักทหารมัวร์ (Moorish Barracks): สร้างขึ้นในปีพุทธศักราช 2417 (ค.ศ. 1874) เพื่อเป็นที่พักของกองทหารอินเดีย ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของหน่วยงานบริหารการเดินเรือมาเก๊า อาคารนี้แสดงให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมแบบฟื้นฟูคลาสสิก (Neo-classical style) ที่โดดเด่น

• โบสถ์เซนต์ลอว์เรนซ์ (St. Lawrence's Church): หนึ่งในสามโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของมาเก๊า สร้างขึ้นครั้งแรกในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 (พุทธศักราช 2094-2143) แต่รูปลักษณ์ปัจจุบันมีอายุย้อนไปถึงปีพุทธศักราช 2389 (ค.ศ. 1846)

• โรงละครดอม เปโดร ที่ 5 (Dom Pedro V Theatre): สร้างขึ้นในปีพุทธศักราช 2403 (ค.ศ. 1860) เป็นโรงละครสไตล์ตะวันตกแห่งแรกในประเทศจีน สะท้อนอิทธิพลทางสถาปัตยกรรมยุโรป

• บ้านหลวงเหวิน (Mandarin's House): เรือนพักอาศัยแบบจีนดั้งเดิมขนาดใหญ่ที่เป็นของเจิ้ง กวนหยิง (Zheng Guanying) นักวรรณกรรมจีนผู้โด่งดัง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลทางสถาปัตยกรรมตะวันตกที่ผสมผสานเข้ากับโครงสร้างแบบจีน

• ป้อมกุยอา (Guia Fortress): ตั้งอยู่บนเนินเขากุยอา (Guia Hill) ภายในประกอบด้วยประภาคารแห่งแรกที่ทันสมัยของจีน (Guia Lighthouse) และโบสถ์น้อยกุยอา (Guia Chapel) ซึ่งมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่น่าประทับใจ แสดงให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันของวัฒนธรรมตะวันตกและจีน

องค์ประกอบเหล่านี้รวมถึงจัตุรัสในเมืองหลายแห่ง เช่น จัตุรัสบาร์รา (Barra Square), จัตุรัสลีเลา (Lilau Square), จัตุรัสเซนต์ออกัสติน (St. Augustine's Square), จัตุรัสเซนาโด (Senado Square), จัตุรัสอาสนวิหาร (Cathedral Square), จัตุรัสเซนต์โดมินิก (St. Dominic's Square), จัตุรัสคณะเยสุอิต (Company of Jesus Square) และจัตุรัสคามอยส์ (Camões Square) ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่สร้างความเชื่อมโยงและเอกภาพให้กับศูนย์กลางประวัติศาสตร์มาเก๊า

จุดเด่นที่สำคัญ (Key Highlights)

ศูนย์กลางประวัติศาสตร์มาเก๊าประกอบด้วยอาคารหลักและพื้นที่สาธารณะที่สำคัญกว่า 20 แห่ง ซึ่งเป็นจุดเด่นที่แสดงถึงการผสมผสานวัฒนธรรมได้อย่างชัดเจน:

• วัดอาม่า (A-Ma Temple): วัดที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า สร้างขึ้นในปีพุทธศักราช 2031 (ค.ศ. 1488) เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของสถาปัตยกรรมวัดจีนที่อุทิศแด่เทพธิดาแห่งทะเล

• ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul's): เป็นซุ้มประตูหน้าโบสถ์อันโดดเด่นที่หลงเหลืออยู่จากโบสถ์และวิทยาลัยเยสุอิตในคริสต์ศตวรรษที่ 17 (พุทธศักราช 2144-2243) ซึ่งถูกทำลายจากไฟไหม้ในปีพุทธศักราช 2378 (ค.ศ. 1835) ถือเป็นสัญลักษณ์ของมาเก๊า

• จัตุรัสเซนาโด (Senado Square - Largo do Senado): หัวใจสำคัญของเมืองเก่ามาเก๊า โดดเด่นด้วยลวดลายกระเบื้องปูพื้นสีขาวดำเป็นคลื่น และรายล้อมด้วยอาคารสไตล์นีโอคลาสสิกที่สวยงาม

• ป้อมมอนเต (Monte Fort - Fortaleza do Monte): ป้อมปราการที่สร้างโดยคณะเยสุอิตในคริสต์ศตวรรษที่ 17 (พุทธศักราช 2144-2243) ซึ่งให้ทัศนียภาพมุมกว้างของเมืองมาเก๊า

• โบสถ์เซนต์โดมินิก (St. Dominic's Church): โบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า ก่อตั้งขึ้นในปีพุทธศักราช 2130 (ค.ศ. 1587) โดยคณะโดมินิกัน

• บ้านหลวงเหวิน (Mandarin's House): เรือนพักอาศัยแบบจีนดั้งเดิมขนาดใหญ่ที่มีการผสมผสานองค์ประกอบสถาปัตยกรรมตะวันตก สะท้อนรสนิยมและการปรับตัวของชนชั้นสูงในยุคนั้น

• ป้อมกุยอา (Guia Fortress): ประกอบด้วยประภาคารกุยอา (Guia Lighthouse) ซึ่งเป็นประภาคารสมัยใหม่แห่งแรกของจีน และโบสถ์น้อยกุยอา (Guia Chapel) ที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันเป็นเอกลักษณ์

• จัตุรัสอื่นๆ และโบสถ์สำคัญ: รวมถึงจัตุรัสลีเลา (Lilau Square), โบสถ์เซนต์ลอว์เรนซ์ (St. Lawrence's Church), วิทยาลัยและโบสถ์เซนต์โยเซฟ (St. Joseph's Seminary and Church), โรงละครดอม เปโดร ที่ 5 (Dom Pedro V Theatre), อาคารเลอัล เซนาโด (Leal Senado Building), สถานสงเคราะห์ Holy House of Mercy (Santa Casa da Misericórdia), อาสนวิหาร (Cathedral), คฤหาสน์โหรวกา (Lou Kau Mansion), วัดนาจา (Na Tcha Temple) และส่วนต่างๆ ของกำแพงเมืองเก่า (Old City Walls)

ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของมาเก๊า (Macao World Heritage) ทัวร์มรดกโลกใจกลางเมือง

เขตประวัติศาสตร์ ประกอบด้วยอนุสรณ์สถานและจัตุรัสในเมืองจำนวน 30 แห่งที่เชื่อมโยงกันในใจกลางเมือง โดยเรียกรวมกันว่า "ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของมาเก๊า" และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี พ.ศ. 2548 สัมผัสประสบการณ์แหล่งมรดกโลกที่ผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมจีนและโปรตุเกส, เต็มอิ่มกับประสบการณ์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมตั้งแต่ครั้งที่ชนชาวโปรตุเกสเข้ามาตั้งรกรากที่มาเก๊า และชุมชนในสไตล์โบราณรอบท่าเรือชั้นใน, สำรวจลึกถึงร้านค้าอันมีเอกลักษณ์ รวมถึงร้านค้าที่รวบรวมโบราณของชุมชน พร้อมเช็คอินและถ่ายรูปกับอาคารเก่าแก่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในเส้นทางที่พร้อมให้ไปค้นหา

01 วัดอาม่า (A-Ma Temple)

02 อาคารสำนักงานใหญ่ของสำนักงานกิจการทางทะเลและน้ำ (Headquarters Building of the Marine and Water Bureau)

03 จัตุรัสลีเลา (Lilau Square)

4 บ้านแมนดาริน (Mandarin's House) ถูกก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1869 ซึ่งเป็นบ้านแบบจีนโบราณของนักประพันธ์จีนอยู่ยิ่งใหญ่นามว่า เฉิง กวนยิง ซึ่งประกอบไปด้วยเรือนหลายหลัง มีอาณาบริเวณ

5 โบสถ์เซนต์ลอเรนซ์ (St. Lawrence’s Church) และบริเวณลานด้านหน้า โบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยนักบวชเยซูอิต เมื่อตอนกลางศตวรรษที่ 16 เป็นหนึ่งในสามของโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า หน้าตาและสัดส่วนของโบสถ์ในปัจจุบันได้รับการปรับปรุงในปี ค.ศ. 1846...

6 โบสถ์เซมินารีเซนต์โจเซฟ (St. Joseph’s Seminary Church, forecourt and staircase) และบันไดทางเข้า โรงเรียนสอนศาสนาเก่าและวิทยาลัยเซนต์ปอลถูกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1728 เคยเป็นฐานสำคัญของผู้สอนศาสนาที่ทำงานในจีน ญี่ปุ่น และบริเวณใกล้เคียง โรงเรียนสอนศาสนาเซนต์โจเซฟสอนหลักสูตรเทียบเท่ามหาวิทยาลัย...

7 จัตุรัสเซนต์ออกัสติน (St. Augustine's Square) ประกอบด้วยอาคารต่างๆ เช่น โบสถ์เซนต์ออกัสติน โรงละครดอมเปโดรที่ห้า โรงเรียนสอนศาสนาเซนต์โจเซฟ และหอสมุดเซอร์โรเบิร์ตโฮตุง

8 โรงละครดอมเปโดรที่ห้า (D. Pedro V. Theatre) โรงละครนี้ถูกก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1860 เป็นโรงละครแบบตะวันตกแห่งแรกในจีนที่สามารถจุผู้ชมได้ 300 คน โรงละครแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญมากสำหรับชาวมาเก๊า...

9 หอสมุดเซอร์โรเบิร์ตโฮตุง (Sir Robert Ho Tung Library) หอสมุดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาก่อนปี ค.ศ. 1894 ซึ่งในตอนแรกเป็นบ้านพักอาศัยของโดนา แคโรไลนา คุณญ่า นักธุรกิจฮ่องกงชื่อเซอร์โรเบิร์ตโฮตุงได้ซึ้อไว้ในปี ค.ศ. 1918 เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อน เขาเสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1955...

10 โบสถ์เซนต์ออกัสติน (St. Augustine's Church) โบสถ์แห่งนี้ถูกก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1591 โดยนักบุญออกัสติเนียนชาวสเปน...

11 อาคารสำนักงานใหญ่ของสำนักกิจการเทศบาล (Headquarters Building of the Municipal Affairs Bureau) เดิมคืออาคารลีลเซนาโด ((Former Leal Senado Building) อาคารนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1784 เป็นหอประชุมเทศบาลมาเก๊าแห่งแรกและยังคงใช้งานมาจนทุกวันนี้ ชื่อ “ลีล เซนาโด” (วุฒิสภาผู้ภักดี) มาจากชื่อ “เมืองแห่งนามของเทพมาเก๊า...

12 จัตุรัสเซนาโด (Senado Square) เป็นศูนย์รวมของชาวเมืองมาหลายศตวรรษ และยังคงเป็นสถานที่จัดงานเฉลิมฉลองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอยู่ทุกวันนี้ ตั้งอยู่ใกล้กับอาคารวุฒิสภาเก่า วัดซำไก (วันควนไท)...

13 วัดซำไกวุยคุน (Sam Kai Vui Kun Temple) วัดนี้ตั้งอยู่ใกล้ย่านบาซาร์จีนเก่าซึ่งปัจจุบันคือ ตลาดเซนต์โดมินิกที่ยังคงเก็บกลิ่นอายย่านเดิมไว้ได้อย่างครบถ้วน...

14 อาคารสำนักงานใหญ่ของบ้านเมตตาแห่งมาเก๊า (Headquarters Building of the Holy House of Mercy of Macao) สถาบันนี้จำลองแบบมาจากองค์กรการกุศลที่เก่าแก่และสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งในโปรตุเกสซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นมาครั้งแรกโดยบิชอปองค์แรกของมาเก๊าในปี ค.ศ. 1569 นับว่าเป็นการก่อตั้งคลินิกการแพทย์แบบตะวันตกแห่งแรกในมาเก๊า...

15 Cathedral Square ไม่ว่าจะมาจากมุมมองทางศาสนาหรือประวัติศาสตร์มหาวิหารและอาคารอื่น ๆ ที่อยู่รอบจัตุรัสก็เป็นอนุสรณ์สถานที่มีมูลค่าสูง

16 คฤหาสน์หลู่เกา (Lou Kau Mansion) เชื่อกันว่าคฤหาสน์หลู่เกาถูกก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1889 ที่นี่เคยเป็นบ้านของพ่อค้าชาวจีนเจ้าของอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งในเมืองที่มีชื่อเสียง คฤหาสน์หลังนี้มีสถาปัตยกรรมที่หลากหลายในใจกลาง...

17 โบสถ์เซนต์โดมินิก (St. Dominic's Church) โบสถ์สีเหลืองสดใส สถาปัตยกรรมบาโรกที่สวยงาม ภายในมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะศักดิ์สิทธิ์ โบสถ์เซนต์โดมินิค โบสถ์ที่มีความสัมพันธ์กับคณะสงฆ์พระแม่มารีแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1587 โดย 3 บาทหลวงนิกายโดมินิกันชาวสเปนที่มาจากอะคาปุลโกในเม็กซิโก และโบสถ์นี้เองที่ได้ตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ A Abelha da China ("The China...

18 ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul’s College) สัญลักษณ์อันโดดเด่นของมาเก๊า ซากประตูโบสถ์เก่าแก่ที่งดงามด้วยศิลปะผสมผสานตะวันออกและตะวันตก เดิมคือโบสถ์มาแตร์เดอี และบริเวณลานด้านหน้าและบันไดทางเข้า ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลคือด้านหน้าของโบสถ์มาแตร์เดอิที่ถูกก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1602 – ค.ศ. 1640 ที่ถูกทำลายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในปี ค.ศ. 1835 และซากของวิทยาลัยเซนต์ปอลที่อยู่ถัดไปจากโบสถ์ ทั้งโบสถ์มาแตร์...

19 ศาลเจ้านาจา (Na Tcha Temple) ข้างซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล วัดที่อุทิศสำหรับการสักการะนาช่าถูกก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1888 โบสถ์จีนโบราณเล็กๆ แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับซากองค์กรเจซูอิตที่สำคัญประจำภูมิภาคที่แสดงถึงตรรกะแห่งอุดมคติของชาติตะวันตกและจีน

20 ส่วนของกำแพงเมืองเก่า Old City Walls (Section at Calçada de S. Francisco Xavier) ส่วนที่เหลืออยู่ของกำแพงเมืองเก่านี้ถูกก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1569 ซึ่งเป็นการก่อสร้างกำแพงเมืองแบบโปรตุเกสเดิมรอบท่าเรือที่มีการตั้งถิ่นฐานแบบเดียวกันกับในในแอฟริกาและอินเดีย ส่วนของกำแพงเก่านี้...

21 ป้อมปราการเกีย (Mount Fortress) เคยเป็นปราการทางทหารที่สำคัญของเมืองจึงทำให้มีปืนใหญ่ ค่ายทหาร บ่อน้ำ คลังสรรพาวุธที่ไว้เก็บอาวุธยุทธภัณฑ์และเสบียงเพียงพอที่จะต้านทานการโอบล้อมเมืองได้ถึงสองปี...

22 โบสถ์เซนต์แอนโทนี (St Anthony's Church) และบริเวณลานด้านหน้าโบสถ์ ในตอนแรกถูกก่อสร้างด้วยไม้ไผ่และไม้ก่อนปี ค.ศ. 1560 จึงเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊าแห่งหนึ่ง และเป็นที่ซึ่งบาทหลวงเยซูอิตมาก่อตั้งสำนักานใหญ่แห่งแรกในเมือง โบสถ์ได้รับการก่อสร้างใหม่ด้วยหินหลายครั้ง...

23 อาคารสำนักงานของมูลนิธิโอเรียนท์ (Headquarters Building of the Orient Foundation (Former Casa Garden of the Camões Grotto) เดิมคือ สวนคาซา บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1770 และเดิมทีเป็นบ้านของพ่อค้าชาวโปรตุเกสที่ร่ำรวยคนหนึ่งที่ชื่อว่ามานูเอล เปโรร่า ต่อมาบริษัทอีสต์อินเดียนได้เช่าเป็นสำนักงาน ปัจจุบันบ้านหลังนี้ได้กลายเป็นสำนักงานใหญ่ของมูลนิธิโอเรียนตัล

24 สุสานโปรเตสแตนต์ (Protestant Cemetery) ที่นี่คือสถานที่ที่สามารถมองทะลุเข้าไปยังชุมชนที่หลากหลายของมาเก๊าได้ สุสานโปรเตสแตนต์ตั้งอยู่ใกล้สวนคาซามีบันทึกมากมายเกี่ยวกับชุมชนแรกๆ ของชาวโปรเตสแตนต์ในมาเก๊า หอส่วนมอร์ริสันถูกสร้างขึ้นในปี...

25 ปราการเกีย รวมถึงโบสถ์และประภาคารเกีย (Guia Fortress and Lighthouse) ป้อมปราการเกีย ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1622 และ 1638 ภายในเป็นที่ตั้งของหอสวดเกียที่เดิมที่ก่อตั้งโดยแม่ชีคลาริสต์ที่พำนักอยู่ที่นี่ก่อนจะไปก่อตั้งสำนักชีเซนต์แคลร์ โบสถ์แสดงถึงความกลมกลืนของวัฒนธรรมต่างๆ...

26 Barra Square ตั้งอยู่ด้านหน้าของ A-Ma Temple หันหน้าไปทาง Inner Harbour ส่วนด้านหน้าสร้างจากกระเบื้องโมเสคโปรตุเกสที่มีชื่อเสียงโดยมีสีเหลืองสดและสีถ่านเป็นสีหลัก...

27 จัตุรัสเซนาโด (Cathedral Square) เป็นศูนย์รวมของชาวเมืองมาหลายศตวรรษ และยังคงเป็นสถานที่จัดงานเฉลิมฉลองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอยู่ทุกวันนี้ ตั้งอยู่ใกล้กับอาคารวุฒิสภาเก่า วัดซำไก (วันควนไท)

28 จัตุรัสเซนต์ดอมินิก (St. Dominic’s Square) จัตุรัสตั้งอยู่ด้านหน้าของโบสถ์เซนต์ดอมินิก ไม่เพียง แต่มีสถานที่พักผ่อนเท้าที่เหนื่อยล้า แต่ยังมีผู้ขายทั้งสองข้างของจัตุรัสที่ขายอาหารเสื้อผ้าและเครื่องสำอางอีกด้วย

29 จัตุรัสจีซัส (Company of Jesus Square) อาคารรอบจัตุรัสสร้างขึ้นระหว่างปีพ. ศ. 2463 ถึง พ.ศ. 2473 นอกเหนือจากอาคารสองหลังที่เป็นแบบนีโอคลาสสิกในศตวรรษที่ 19

30 จัตุรัสคาโมเอส (Camões Square) ตั้งอยู่ใกล้กับสวน Camões, โบสถ์เซนต์แอนโธนีและสุสานโปรเตสแตนต์ สวนมีต้นไม้เขียวขจีและม้านั่งและเป็นสถานที่ยอดนิยม สำหรับคนในพื้นที่ที่ต้องการพักผ่อน

สถานที่เหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นพยานถึงการก่อตัวและพัฒนาของมาเก๊าในฐานะเมืองท่าสำคัญเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการผสมผสานทางวัฒนธรรมและศาสนาที่ซับซ้อนและงดงาม

ศูนย์กลางประวัติศาสตร์มาเก๊าเป็นแหล่งมรดกโลกที่ล้ำค่า ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงพลวัตของการเผชิญหน้าและการหลอมรวมทางวัฒนธรรมระหว่างจีนและโปรตุเกสที่ดำรงอยู่มานานกว่าสี่ศตวรรษครึ่ง ด้วยอาคารเก่าแก่ ถนนที่มีเสน่ห์ และจัตุรัสสาธารณะที่หลากหลาย แหล่งมรดกแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่จัดแสดงมรดกทางสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองที่เกิดจากการค้าขายระหว่างประเทศและวัฒนธรรมที่เปิดกว้าง ศูนย์กลางประวัติศาสตร์มาเก๊าจึงเป็นแหล่งการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สำคัญยิ่ง ซึ่งสะท้อนคุณค่าสากลอันโดดเด่นที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และศึกษาสำหรับคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต