iok2u.com แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารเรื่องราวน่าสนใจเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมของอุตสาหกรรมไทย 4.0 มิติ 2 ระบบอัจฉริยะในการทำงาน (Smart Operation)
มิติย่อยที่ 08 ระบบอัจฉริยะในองค์กร (Smart Enterprise)
มิติ 2 ระบบอัจฉริยะในการทำงาน (Smart Operation) ความสามารถของระบบการผลิต ระบบบริหารและธุรการขององค์กร และระบบการจัดการ Facilities ที่เป็นแบบชาญฉลาดและบริหารจัดการและปรับเปลี่ยนในตัวระบบเอง การประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างชาญฉลาดเพื่อใช้ในการบริหารการผลิต การดำเนินงานขององค์กรอุปกรณ์และสถานที่ผลิตที่ดำเนินแบบแผนไปในทางเดียวกันอย่างคล่องตัว ประกอบด้วย 3 มิติย่อย
มิติย่อยที่ 08 ระบบอัจฉริยะในองค์กร (Smart Enterprise) คือ พิจารณากระบวนการในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์ / เครื่องมือ / ระบบคอมพิวเตอร์ / โครงข่ายที่ใช้ในกระบวนการด้านงานบริหารและธุรการ เพื่อนำไปเพิ่ม ประสิทธิภาพของการดำเนินธุรกิจ
ระบบอัจฉริยะในองค์กร (Smart Enterprise) ในงานอุตสาหกรรมการผลิตมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีสมาร์ทและข้อมูลอัจฉริยะเพื่อเพิ่มความประสิทธิภาพ, ลดค่าใช้จ่าย, และสร้างความยืดหยุ่นในการผลิต. ตัวอย่างต่อไปนี้เป็น hardware และ software ที่สามารถปรากฏในระบบอัจฉริยะในองค์กรในงานอุตสาหกรรมการผลิต
Hardware
- ระบบเซ็นเซอร์และอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) เชื่อมโยงและส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ในกระบวนการผลิตเพื่อควบคุมและควบคุมเครื่องจักรแบบอัจฉริยะ
- หุ่นยนต์ในการผลิต หุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ใช้ในกระบวนการผลิต, เช่น หุ่นยนต์จัดเก็บและระบายพลังงาน
- ระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ (Smart CCTV System) ระบบกล้องวงจรปิดที่สามารถแสดงข้อมูลและวิดีโอเพื่อควบคุมระบบผลิต
- อุปกรณ์ควบคุมการเข้าถึง (Access Control Devices) อุปกรณ์เชื่อมโยงการเข้าถึงสำหรับควบคุมการเข้าถึงพื้นที่ครอบครอง
- ระบบการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัย (Quality and Safety Control Systems) ระบบที่ควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยในกระบวนการผลิต
- ระบบจัดการพลังงานและความสามารถในการผลิต ระบบที่ควบคุมการใช้พลังงานในกระบวนการผลิต
- ระบบจัดเก็บข้อมูลและข้อมูลในเวลาเป็นจริง ฮาร์ดดิสก์และระบบจัดเก็บข้อมูลในเวลาเป็นจริงสำหรับการวิเคราะห์และการบริหารข้อมูล
- ระบบเก็บข้อมูลแบบคลาวด์ (Cloud-Based Data Storage) ระบบเก็บข้อมูลบนคลาวด์สำหรับการเข้าถึงข้อมูลจากทุกที่
- อุปกรณ์รองรับการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ เครื่องมือที่ใช้ในการตรวจสอบและตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์
- ระบบรายงานและการแจ้งเตือน ระบบที่สร้างรายงานและแจ้งเตือนเพื่อควบคุมกระบวนการผลิตและคุณภาพ
- หุ่นยนต์อุตสาหกรรม (Industrial Robots) หุ่นยนต์ที่ใช้ในการทำงานต่างๆ ในโรงงาน เช่น การประกอบ การเชื่อม การหยิบจับ และขนย้าย
- เครื่องจักรอัตโนมัติ (Automated Machines) เครื่องจักรที่ทำงานได้เองโดยไม่ต้องใช้แรงงานคน เช่น เครื่องจักรสำหรับผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรสำหรับผลิตอาหาร และเครื่องจักรสำหรับผลิตเสื้อผ้า
- เซ็นเซอร์ (Sensors) อุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดค่าต่างๆ เช่น อุณหภูมิ ความชื้น ตำแหน่ง และความเร็ว
- อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (IoT Devices) อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เช่น คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในโรงงาน
- ระบบควบคุมอัตโนมัติ (Automation Control Systems) ระบบที่ใช้ในการควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ในโรงงาน
- ระบบเก็บข้อมูล (Data Storage Systems) ระบบที่ใช้ในการเก็บข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลการผลิต ข้อมูลเครื่องจักร และข้อมูลคุณภาพ
- ระบบเครือข่าย (Network Systems) ระบบที่ใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน
- ระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing Systems) ระบบที่ช่วยให้โรงงานสามารถเข้าถึงทรัพยากรและบริการต่างๆ จากอินเทอร์เน็ต
- ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI Systems) ระบบที่ช่วยให้โรงงานสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
Software
- ระบบการควบคุมการผลิตแบบอัจฉริยะ (Smart Manufacturing Control Software) ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมกระบวนการผลิตแบบอัจฉริยะและสามารถปรับปรุงในเวลาเป็นจริง
- ระบบการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยแบบอัจฉริยะ (Smart Quality and Safety Control Software) ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยในระบบผลิตแบบอัจฉริยะ
- ซอฟต์แวร์การวางแผนการผลิตแบบอัจฉริยะ (Smart Production Planning Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวางแผนและตรวจสอบกระบวนการผลิตแบบอัจฉริยะ
- ระบบจัดการการบำรุงรักษาและซ่อมบำรุงแบบอัจฉริยะ (Smart Maintenance Management System)
- ระบบที่ควบคุมการบำรุงรักษาและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ในระบบผลิตแบบอัจฉริยะ
- ซอฟต์แวร์ควบคุมการสั่งงานและการผลิต (Job Scheduling and Production Control Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวางแผนและควบคุมการทำงานและการผลิต
- ระบบการวิเคราะห์ข้อมูลและควบคุมการผลิต (Data Analytics and Production Control Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลผลิตเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ
- ระบบการจัดการความปลอดภัยและการเข้าถึงข้อมูล (Security and Access Control Software) ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมความปลอดภัยและการเข้าถึงข้อมูลในระบบผลิต
- ระบบการบริหารความรู้และการฝึกอบรม (Knowledge Management and Training System) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการบริหารความรู้และการฝึกอบรมพนักงานในระบบผลิต
- ซอฟต์แวร์จัดการข้อมูลและข้อมูลในเวลาเป็นจริง (Real-time Data Management Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการจัดการข้อมูลและข้อมูลในเวลาเป็นจริง
- ระบบรายงานและการแจ้งเตือนแบบอัจฉริยะ (Smart Reporting and Notification System) ซอฟต์แวร์ที่สร้างรายงานและแจ้งเตือนเพื่อควบคุมกระบวนการผลิตและคุณภาพในระบบผลิต
- ซอฟต์แวร์วางแผนการผลิต (Production Planning Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวางแผนการผลิต
- ซอฟต์แวร์ควบคุมการผลิต (Production Control Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการควบคุมการผลิต
- ซอฟต์แวร์ตรวจสอบคุณภาพ (Quality Control Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการตรวจสอบคุณภาพ
- ซอฟต์แวร์บริหารจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการบริหารจัดการคลังสินค้า
- ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
- ซอฟต์แวร์จำลองการผลิต (Production Simulation Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการจำลองการผลิต
- ซอฟต์แวร์ออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Design Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์
- ซอฟต์แวร์ออกแบบเครื่องจักร (Machine Design Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการออกแบบเครื่องจักร
- ซอฟต์แวร์ออกแบบระบบอัตโนมัติ (Automation Design Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการออกแบบระบบอัตโนมัติ
ระบบอัจฉริยะในองค์กรในงานอุตสาหกรรมการผลิต ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต, ลดค่าใช้จ่าย, และเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังช่วยในการวางแผนและควบคุมกระบวนการผลิตอัจฉริยะและมีการสร้างข้อมูลเพื่อการบริหารและการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ.
ตัวอย่างการใช้งานระบบอัจฉริยะในองค์กรในงานอุตสาหกรรมการผลิต เช่น
- การใช้หุ่นยนต์อุตสาหกรรม (Industrial Robots) เพื่อประกอบชิ้นส่วนรถยนต์
- การใช้เครื่องจักรอัตโนมัติ (Automated Machines) เพื่อผลิตอาหาร
- การใช้เซ็นเซอร์ (Sensors) เพื่อตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์
- การใช้อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (IoT Devices) เพื่อติดตามสถานะของเครื่องจักร
- การใช้ระบบควบคุมอัตโนมัติ (Automation Control Systems) เพื่อควบคุมการทำงานของเครื่องจักร
- การใช้ระบบเก็บข้อมูล (Data Storage Systems) เพื่อเก็บข้อมูลการผลิต
- การใช้ระบบเครือข่าย (Network Systems) เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน
- การใช้ระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing Systems) เพื่อเข้าถึงทรัพยากรและบริการต่างๆ จากอินเทอร์เน็ต
- การใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI Systems) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
ระบบอัจฉริยะในองค์กร สามารถช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และต้นทุนในการดำเนินงานได้ ตัวอย่างประโยชน์ของการใช้ระบบอัจฉริยะในองค์กรในงานอุตสาหกรรมการผลิต ได้แก่
- ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ระบบอัจฉริยะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้โดยอัตโนมัติ เช่น การใช้หุ่นยนต์อุตสาหกรรมสามารถช่วยเพิ่มความเร็วและลดข้อผิดพลาดในการทำงาน
- เพิ่มความปลอดภัย ระบบอัจฉริยะสามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยในโรงงานโดยตรวจจับและป้องกันอันตรายต่างๆ เช่น การใช้เซ็นเซอร์สามารถช่วยตรวจจับการรั่วไหลของสารเคมี
- ลดต้นทุน ระบบอัจฉริยะสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตโดยลดการสูญเสียและปรับปรุงการใช้ทรัพยากร เช่น การใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์สามารถช่วยระบุโอกาสในการปรับปรุงประสิทธิภาพ
การเลือกระบบอัจฉริยะในองค์กรที่เหมาะสมกับโรงงานนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดของโรงงาน ประเภทของการผลิต งบประมาณ และเป้าหมายที่ต้องการบรรลุ นอกจากตัวอย่างข้างต้นแล้ว ยังมีเทคโนโลยีระบบอัจฉริยะในองค์กรอีกมากมายที่สามารถใช้กับอุตสาหกรรมการผลิตได้ เช่น
- การประมวลผลบนระบบคลาวด์ (Cloud Computing) เทคโนโลยีที่ช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถเข้าถึงทรัพยากรและบริการต่างๆ จากอินเทอร์เน็ต
- ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence, AI) เทคโนโลยีที่ช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
- อินเทอร์เน็ตของทุกสรรพสิ่ง (Internet Of Things: IoT) เทคโนโลยีที่ช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกันได้
การนำเทคโนโลยีระบบอัจฉริยะในองค์กรมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตสามารถช่วยโรงงานอุตสาหกรรมสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้องการของลูกค้าได้
รายละเอียดในการประเมินเพื่อจัดระดับความพร้อม ดังนี้
Band |
นิยาม |
คำอธิบายเพิ่มเติม |
1 Analog oriented |
งานด้านการบริหารและธุรการยังใช้กระดาษเป็นส่วนใหญ่ หรือเริ่มใช้ระบบ IT ขั้นพื้นฐานน้อยกว่า 20% ของกระบวนการทั้งหมด |
งานด้านบริหารและธุรการดำเนินการโดยใช้คนในการจดบันทึกหรือเริ่มใช้โปรแกรม Excel บ้าง |
2 General software |
มีการติดตั้งใช้งานระบบ IT สำเร็จรูปเพื่อใช้ในงานบริหารและธุรการของ องค์กร ที่มีความสามารถในการแจ้งเตือนพนักงานเฉพาะเมื่อเข้ามาใช้ระบบ |
งานด้านบริหารและธุรการส่วนใหญ่ดำเนินการโดยใช้ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป เช่น MS Office |
3 Notifiable system |
งานด้านการบริหารและธุรการ เป็นระบบที่มีความสามารถในการตรวจจับ ความผิดปกติและแจ้งเตือนผู้รับผิดชอบได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้าโปรแกรม หรือระบบ |
ระบบเทคโนโลยีสารเทศในงานบริหารและธุรการ มีการแจ้งเตือนเมื่อมีความผิดปกติจากการทำงานหรือมีความ แตกต่างจากเงื่อนไขที่ตั้งไว้ เช่น alert แจ้งปริมาณที่ผิดปกติของใบแจ้งหนี้ที่ไม่ได้รับการชำระภายในเวลาที่ กำหนด หรือ แจ้งพื้นที่ใน warehouse ไม่เพียงพอต่อวัตถุดิบที่มีการสั่งซื้อ เป็นต้น |
4 Analytical system |
งานด้านการบริหารและธุรการ เป็นระบบที่สามารถตรวจจับความผิดปกติ แจ้งเตือนและสามารถวินิจฉัยสาเหตุของความผิดปกติได้ |
ระบบเทคโนโลยีสารเทศในงานบริหารและธุรการ มีการแจ้งเตือนเมื่อมีความผิดปกติจากการทำงานหรือมีความ แตกต่างจากเงื่อนไขที่ตั้งไว้ และสามารถระบุสาเหตุที่เป็นไปได้ของความผิดปกตินั้น เช่น alert ต้นทุนที่สูงข้นมา จากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นแบบผิดปกติ |
5 Precaution enabled system |
งานด้านการบริหารและธุรการ เป็นระบบที่มีความสามารถในการ คาดการณ์สภาวะที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า ก่อนที่จะเกิดความเสียหาย |
ระบบเทคโนโลยีสารเทศในงานบริหารและธุรการ มีความสามารถในการแจ้งเตือนให้ผู้รับผิดชอบทราบล่วงหน้า เมื่อมีแนวโน้มในการดำเนินงานผิดไปจากแผน และระบุสาเหตุได้ เช่น Alert เมื่อโครงการมีแนวโน้มที่จะส่งมอบ ไม่ได้ตามแผน เนื่องจากใช้เวลาดำเนินงานล่าช้าหรือวัตถุดิบไม่เข้ามาตามแผน |
6 Forecastable and adaptable system |
งานด้านการบริหารและธุรการ มีระบบงานที่สามารถประมวลผลและ วิเคราะห์ข้อมูล โดยอาศัย Data Analytic เพื่อช่วยในการคาดการณ์ และ ตัดสินใจปรับเปลี่ยนนโยบายที่เหมาะสมได้ |
ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในงานบริหารและธุรการโดยมีความสามารถในการวิเคราะห์ แนวโน้มที่จะเกิดขึ้น รวมถึงเลือกการปฏิบัติงานที่จะทำให้เกิดความคุ้มค่าต่อองค์กรมากที่สุดได้ เช่น ระบบช่วยวิเคราะห์แนวโน้มจาก คำสั่งซื้อของลูกค้าและยอดขายของผลิตภัณฑ์รุ่นใกล้เคียงกัน เพื่อปรับแผนการผลิตและแผนสั่งซื้อวัตถุดิบให้ สอดคล้องกับคาดการณ์ Demand ในช่วงเดือน/ไตรมาสหน้า |
-
---------------------------------------------
สนใจข้อมูลเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่นี่
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมอุตสาหกรรมไทย 4.0 (Thailand I 4.0 Index)
-------------------------------------------------
ที่มาข้อมูล
-------------------------------------------------
ข้อมูลที่น่าสนใจประวัติศาสตร์อุตสาหกรรม 4.0 ที่นี่ที่นี่
อุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) รวมข้อมูล-------------------------------------------------
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมของอุตสาหกรรมไทย 4.0 มิติ 2 ระบบอัจฉริยะในการทำงาน (Smart Operation)
มิติย่อยที่ 09 ระบบอัจฉริยะในงานอำนวยความสะดวก (Smart Facility)
มิติ 2 ระบบอัจฉริยะในการทำงาน (Smart Operation) ความสามารถของระบบการผลิต ระบบบริหารและธุรการขององค์กร และระบบการจัดการ Facilities ที่เป็นแบบชาญฉลาดและบริหารจัดการและปรับเปลี่ยนในตัวระบบเอง การประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างชาญฉลาดเพื่อใช้ในการบริหารการผลิต การดำเนินงานขององค์กรอุปกรณ์และสถานที่ผลิตที่ดำเนินแบบแผนไปในทางเดียวกันอย่างคล่องตัว ประกอบด้วย 3 มิติย่อย
มิติย่อยที่ 09 ระบบอัจฉริยะในงานอำนวยความสะดวก (Smart Facility) คือ พิจารณากระบวนการในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์เครื่องจักร / ระบบคอมพิวเตอร์ / โครงข่ายที่ใช้ในกระบวนการดูแลสถานที่ / อาคาร / สิ่งปลูกสร้าง เพื่อนำไปเพิ่มประสิทธิภาพของการดำเนินธุรกิจ
ระบบอัจฉริยะในงานอำนวยความสะดวก (Smart Facility) ในอุตสาหกรรมการผลิต มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อพัฒนาความประสิทธิภาพและความปลอดภัยในสถานที่ผลิต. ตัวอย่างต่อไปนี้เป็น hardware และ software ที่สามารถปรากฏในระบบอัจฉริยะในงานอำนวยความสะดวกในอุตสาหกรรมการผลิต
Hardware
- ระบบอัจฉริยะควบคุมอาคาร (Building Management System) ระบบที่ควบคุมการทำงานของอาคารและอุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อประหยัดพลังงานและเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
- ระบบตรวจสอบคุณภาพอากาศ (Air Quality Monitoring System) เซ็นเซอร์ที่วัดคุณภาพอากาศและสร้างข้อมูลสำหรับการจัดการอาคารและความสะดวก
- ระบบควบคุมแสงและการใช้งานพลังงาน (Lighting and Energy Management System) ระบบที่ปรับปรุงการใช้งานแสงและพลังงานในสถานที่ผลิต
- ระบบจัดการการจัดเก็บและจัดเรียงสินค้า (Automated Storage and Retrieval System) ระบบที่ช่วยในการจัดเก็บและจัดเรียงสินค้าในคลังสินค้า
- อุปกรณ์สื่อสารอัจฉริยะ (Smart Communication Devices) อุปกรณ์สื่อสารที่ช่วยในการเชื่อมโยงและควบคุมการสื่อสารในสถานที่ผลิต
- ระบบควบคุมการเข้าถึงและความปลอดภัย (Access Control and Security Systems) ระบบที่ควบคุมการเข้าถึงและความปลอดภัยในสถานที่ผลิต
- อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น (Temperature and Humidity Control Equipment) อุปกรณ์ที่ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในสถานที่ผลิต
- ระบบควบคุมการใช้งานน้ำและสิ่งแวดล้อม (Water and Environmental Control Systems) ระบบที่ควบคุมการใช้งานน้ำและรักษาสิ่งแวดล้อมในสถานที่ผลิต
- ระบบควบคุมการขนส่งและการจัดเก็บสินค้า (Transportation and Storage Control Systems) ระบบที่ควบคุมการขนส่งและการจัดเก็บสินค้าในสถานที่ผลิต
- ระบบจัดเก็บและจัดเรียงวัตถุดิบและวัสดุ (Raw Material and Inventory Management System) ระบบที่จัดเก็บและจัดเรียงวัตถุดิบและวัสดุในสถานที่ผลิต
- ระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้น (HVAC System) ระบบที่ใช้ในการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นภายในอาคาร
- ระบบไฟส่องสว่างอัตโนมัติ (Automated Lighting System) ระบบที่ใช้ในการเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติตามความจำเป็น
- ระบบรักษาความปลอดภัย (Security System) ระบบที่ใช้ในการตรวจจับและป้องกันการบุกรุก
- ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV System) ระบบที่ใช้ในการบันทึกภาพและวิดีโอ
- ระบบควบคุมการเข้าออก (Access Control System) ระบบที่ใช้ในการควบคุมการเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ในโรงงาน
- ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ (Fire Alarm System) ระบบที่ใช้ในการแจ้งเตือนการเกิดเพลิงไหม้
- ระบบสุขาภิบาล (Sanitation System) ระบบที่ใช้ในการควบคุมคุณภาพน้ำและอากาศในโรงงาน
- ระบบขนส่งวัสดุภายในอาคาร (Internal Material Handling System) ระบบที่ใช้ในการควบคุมการขนส่งวัสดุและสินค้า
- ระบบการจัดการพลังงาน (Energy Management System) ระบบที่ใช้ในการจัดการและควบคุมการใช้พลังงานในโรงงาน
Software
- ระบบจัดการอาคารแบบอัจฉริยะ (Smart Building Management Software) ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการควบคุมและจัดการอาคารและสิ่งอื่น ๆ ในสถานที่ผลิต
- ซอฟต์แวร์ควบคุมคุณภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม (Air Quality and Environmental Control Software) ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมคุณภาพอากาสและรักษาสิ่งแวดล้อมในสถานที่ผลิต
- ซอฟต์แวร์ควบคุมแสงและพลังงาน (Lighting and Energy Management Software) ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมการใช้งานแสงและพลังงานในสถานที่ผลิต
- ระบบจัดการการจัดเก็บและจัดเรียงสินค้า (Automated Storage and Retrieval Software) ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการจัดการและจัดเรียงสินค้าในคลังสินค้า
- ซอฟต์แวร์จัดการสื่อสารและการเชื่อมโยง (Communication and Connectivity Management Software) ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมการสื่อสารและการเชื่อมโยงในสถานที่ผลิต
- ระบบจัดการการเข้าถึงและความปลอดภัย (Access Control and Security Software) ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมการเข้าถึงและความปลอดภัยในสถานที่ผลิต
- ซอฟต์แวร์ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น (Temperature and Humidity Control Software) ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในสถานที่ผลิต
- ระบบจัดการการใช้งานน้ำและสิ่งแวดล้อม (Water and Environmental Management Software) ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมการใช้งานน้ำและรักษาสิ่งแวดล้อมในสถานที่ผลิต
- ซอฟต์แวร์จัดการการขนส่งและการจัดเก็บสินค้า (Transportation and Storage Management Software) ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมการขนส่งและการจัดเก็บสินค้าในสถานที่ผลิต
- ระบบจัดเก็บและจัดเรียงวัตถุดิบและวัสดุ (Raw Material and Inventory Management Software) ซอฟต์แวร์ที่จัดเก็บและจัดเรียงวัตถุดิบและวัสดุในสถานที่ผลิต
- ซอฟต์แวร์บริหารจัดการอาคาร (Building Management Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการควบคุมและบริหารจัดการระบบต่างๆ ในอาคาร
- ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบต่างๆ ในอาคาร
- ซอฟต์แวร์จำลองอาคาร (Building Simulation Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการจำลองการทำงานของระบบต่างๆ ในอาคาร
- ซอฟต์แวร์ออกแบบอาคาร (Building Design Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการออกแบบอาคาร
- ซอฟต์แวร์ควบคุมระบบอัจฉริยะ (Smart System Control Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการควบคุมระบบอัจฉริยะต่างๆ ในอาคาร
ระบบอัจฉริยะในงานอำนวยความสะดวก ในอุตสาหกรรมการผลิตช่วยในการเพิ่มความประสิทธิภายของกระบวนการผลิต, ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและพลังงาน, และเพิ่มความปลอดภัยในสถานที่ผลิต. ระบบนี้ทำให้สามารถควบคุมและจัดการสถานที่ผลิตในระดับอัจฉริยะและมีการสร้างข้อมูลสำหรับการบริหารและการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต
ตัวอย่างการใช้งานระบบอัจฉริยะในงานอำนวยความสะดวก ในงานอุตสาหกรรมการผลิต เช่น
- การใช้ระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้น (HVAC System) เชื่อมต่อกับระบบคลาวด์คอมพิวติ้งเพื่อปรับอุณหภูมิและความชื้นภายในอาคารตามความต้องการ
- การใช้ระบบไฟส่องสว่างอัตโนมัติ (Automated Lighting System) เชื่อมต่อกับระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวเพื่อเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติตามความจำเป็น
- การใช้ระบบรักษาความปลอดภัย (Security System) เชื่อมต่อกับระบบวิเคราะห์ภาพเพื่อตรวจจับผู้บุกรุก
- การใช้ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV System) เชื่อมต่อกับระบบวิเคราะห์ภาพเพื่อตรวจจับวัตถุและเหตุการณ์ต่างๆ
- การใช้ระบบควบคุมการเข้าออก (Access Control System) เชื่อมต่อกับระบบบัตรประจำตัวพนักงานเพื่อควบคุมการเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ในโรงงาน
- การใช้ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ (Fire Alarm System) เชื่อมต่อกับระบบเตือนภัยเพื่อแจ้งเตือนการเกิดเพลิงไหม้
- การใช้ระบบสุขาภิบาล (Sanitation System) เชื่อมต่อกับระบบเซ็นเซอร์เพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำและอากาศ
- การใช้ระบบขนส่งวัสดุภายในอาคาร (Internal Material Handling System) เชื่อมต่อกับระบบติดตามตำแหน่งเพื่อควบคุมการขนส่งวัสดุและสินค้า
- การใช้ระบบการจัดการพลังงาน (Energy Management System) เชื่อมต่อกับระบบเซ็นเซอร์เพื่อวิเคราะห์การใช้พลังงาน
ระบบอัจฉริยะในงานอำนวยความสะดวก สามารถช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และต้นทุนในการดำเนินงานได้ ตัวอย่างประโยชน์ของการใช้ระบบอัจฉริยะในงานอำนวยความสะดวกในงานอุตสาหกรรมการผลิต ได้แก่
- ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ระบบอัจฉริยะสามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานโดยอัตโนมัติ เช่น การใช้ระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นสามารถช่วยประหยัดพลังงาน
- เพิ่มความปลอดภัย ระบบอัจฉริยะสามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยโดยตรวจจับและป้องกันอันตรายต่างๆ เช่น การใช้ระบบรักษาความปลอดภัยสามารถช่วยป้องกันเหตุร้าย
- ลดต้นทุน ระบบอัจฉริยะสามารถช่วยลดต้นทุนโดยลดการสูญเสียและปรับปรุงการใช้ทรัพยากร เช่น การใช้ระบบการจัดการพลังงานสามารถช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า
การเลือกระบบอัจฉริยะในงานอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมกับโรงงานนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดของโรงงาน ประเภทของการผลิต งบประมาณ และเป้าหมายที่ต้องการบรรลุ นอกจากตัวอย่างข้างต้นแล้ว ยังมีเทคโนโลยีระบบอัจฉริยะในงานอำนวยความสะดวกอีกมากมายที่สามารถใช้กับอุตสาหกรรมการผลิตได้ เช่น
- การประมวลผลบนระบบคลาวด์ (Cloud Computing) เทคโนโลยีที่ช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถเข้าถึงทรัพยากรและบริการต่างๆ จากอินเทอร์เน็ต
- ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence, AI) เทคโนโลยีที่ช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
- อินเทอร์เน็ตของทุกสรรพสิ่ง (Internet Of Things: IoT) เทคโนโลยีที่ช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกันได้
การนำเทคโนโลยีระบบอัจฉริยะในงานอำนวยความสะดวกมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตสามารถช่วยโรงงานอุตสาหกรรมสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการดำเนินงานได้
รายละเอียดในการประเมินเพื่อจัดระดับความพร้อม ดังนี้
Band |
นิยาม |
คำอธิบายเพิ่มเติม |
1 Analog oriented |
ไม่มีการนำระบบทั้ง OT และ IT มาใช้ในการจัดการดูแล Facility ของ องค์กร |
ระบบ facility ถูกควบคุมเปิดปิดและเปลี่ยนค่าพารามิเตอร์โดยใช้คนเป็นหลัก |
2 Pre- programable system |
มีระบบ OT และ/หรือ IT ใช้ในการจัดการดูแลอุปกรณ์ เครื่องจักร และ ระบบ Facilities แต่เป็นระบบแบบ pre-program เท่านั้น |
ระบบ facility ถูกควบคุมโดยใช้คนในการเปิดปิด แต่สามารถดำเนินการได้ตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ล่วงหน้า สามารถ แจ้งเตือนได้ในพื้นที่ใช้งาน เช่น ระบบควบคุมแสงสว่างเปิดไฟอัตโนมัติตามเวลาที่ตั้งไว้ หรือตรวจพบการ เคลื่อนไหว |
3 Notifiable system |
ระบบ OT และ/หรือ IT ที่ใช้ในการจัดการดูแลอุปกรณ์ เครื่องจักร และ ระบบ Facilities นั้น มีความสามารถในการตรวจจับความผิดปกติที่เกิดขึ้น ได้ |
ระบบ facility สามารถตรวจการดำเนินงานที่เบี่ยงเบนไปจากค่าที่กำหนดไว้และแจ้งเตือนผู้รับผิดชอบได้ทันที เช่น ผ่าน mobile application |
4 Analytical system |
ระบบ OT และ/หรือ IT ที่ใช้ในการจัดการดูแลอุปกรณ์ เครื่องจักร และ ระบบ Facilities นั้น มีความสามารถรในการตรวจจับความผิดปกติ และ สามารถวินิจฉัยสาเหตุที่เป็นไปได้ของความผิดปกตินั้น |
ระบบ facility สามารถตรวจการดำเนินงานที่เบี่ยงเบนไปจากค่าที่กำหนดไว้และแจ้งเตือนผู้รับผิดชอบได้ทันที รวมถึงสามารถวิเคราะห์สาเหตุเบื้องต้นที่ทำให้เกิดความผิดปกติได้ เช่น ระบบทำความเย็นตรวจจับได้ว่าใช้เวลา ทำความเย็นนานกว่าปกติเนื่องจากระดับน้ำยาแอร์ต่ำ |
5 Precaution enabled system |
ระบบ OT และ/หรือ IT ที่ใช้ในการจัดการดูแลอุปกรณ์ เครื่องจักร และ ระบบ Facilities นั้น มีความสามารถในการคาดการณ์สภาวะในอนาคต ของอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบ |
ระบบ facility สามารถตรวจการดำเนินงานที่เบี่ยงเบนไปจากค่าที่กำหนดไว้ นำมาประมวลผลร่วมกับข้อมูลเชิง สถิติเพื่อคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นและแจ้งเตือนพนักงานให้ทราบได้ทันที เช่น ระบบทำความเย็นพยากรณ์การใช้ พลังงานที่สูญเสียเพิ่มขึ้นจากระบบระบายความร้อนที่เริ่มเสื่อมสภาพ แล้วแจ้งให้พนักงานทราบ |
6 Forecastable and adaptable system |
ระบบ OT & IT ที่ใช้ในการจัดการดูแลอุปกรณ์ เครื่องจักร และระบบ Facilities นั้น มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนวิธีการหรือเงื่อนไขการ ทำงานบางอย่างได้เองโดยอัตโนมัติเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการทำงาน หรือ การใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด |
ระบบ facility สามารถคาดการณ์และวินิจฉัยสภาวะเบี่ยงเบนที่จะเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า รวมถึงสามารถปรับเปลี่ยน เข้าสู่การทำงานในสภาวะที่เหมาะสมที่สุดได้เอง เช่น ระบบเรียนรู้ Pattern การใช้พลังงานของอาคารและนำ ข้อมูลมาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลพยากรณ์อากาศ แล้วระบบดำเนินการปรับค่าดำเนินการบางอย่างของอุปกรณ์ใน ระบบได้เอง |
-
---------------------------------------------
สนใจข้อมูลเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่นี่
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมอุตสาหกรรมไทย 4.0 (Thailand I 4.0 Index)
-------------------------------------------------
ที่มาข้อมูล
-------------------------------------------------
ข้อมูลที่น่าสนใจประวัติศาสตร์อุตสาหกรรม 4.0 ที่นี่ที่นี่
อุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) รวมข้อมูล-------------------------------------------------
มิติย่อยที่ 10 การบูรณาการภายในองค์กร (Internal Integration)
มิติ 3 ระบบไอทีและธุรกรรมข้อมูล (IT System & Data Transaction) คือ การบูรณาการระบบและการจัดการภายในองค์กรและระหว่างองค์กร ที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน (ประกอบด้วย 2 มิติย่อย)
มิติย่อยที่ 10 การบูรณาการภายในองค์กร (Internal Integration) คือ พิจารณาการบูรณาการใช้และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างลำดับชั้นภายในองค์กร (OT = IT) เชื่อมต่อกันในโครงข่าย ซึ่งจะทำให้การเก็บข้อมูลในการทำงาน / การนำข้อมูลมาวิเคราะห์ประมวลผลเป็นสารสนเทศมีประสิทธิภาพ ช่วยในการใช้ประกอบการวางแผน การดำเนินการตัดสินใจมีความยืดหยุ่นและอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นจริงและข้อมูลมีความเป็นป้จจุบันทันต่อเหตุการณ์ สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ระบบไอทีและธุรกรรมข้อมูล (IT System & Data Transaction) เป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อควบคุมข้อมูลและกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างต่อไปนี้เป็น hardware และ software ที่สามารถปรากฏในระบบ IT และการทำธุรกรรมข้อมูลในอุตสาหกรรมการผลิต
Hardware
- เซิร์ฟเวอร์ (Server) สำหรับเก็บและจัดการข้อมูลในระบบ
- เครื่องสำรองข้อมูล (Data Backup Hardware) ใช้สำรองข้อมูลสำคัญและความปลอดภัยของข้อมูล
- อุปกรณ์เน็ตเวิร์ก (Network Equipment) เช่น เราเตอร์, สวิตช์, และไฟร์วอลล์
- ระบบสำรองไฟ (Uninterruptible Power Supply - UPS) เพื่อป้องกันข้อมูลจากการสูญหายในกรณีไฟฟ้าตก
- อุปกรณ์เก็บข้อมูล (Storage Devices) เช่น ฮาร์ดดิสก์และอุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบคลาวด์
- เซนเซอร์และอุปกรณ์ IoT (Sensors and IoT Devices) ใช้ในการเก็บข้อมูลจากอุปกรณ์และเครื่องจักรในกระบวนการผลิต
- เครื่องพิมพ์และสแกนเนอร์ (Printers and Scanners) ใช้ในการพิมพ์เอกสารและสแกนข้อมูล
- อุปกรณ์เชื่อมต่อ (Connectivity Devices) อุปกรณ์ที่ช่วยในการเชื่อมต่ออุปกรณ์และเครื่องจักร
- ระบบการควบคุมการเข้าถึง (Access Control Systems) ระบบที่ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลและระบบ IT
- อุปกรณ์การควบคุมคุณภาพเครือข่าย (Network Quality of Service - QoS) อุปกรณ์ที่ช่วยให้เครือข่ายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- เซิร์ฟเวอร์ (Server) เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูลและให้บริการต่างๆ
- ระบบเครือข่าย (Network) ระบบที่ใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน
- ระบบเก็บข้อมูล (Data Storage) ระบบที่ใช้ในการเก็บข้อมูลต่างๆ
- ระบบความปลอดภัย (Security) ระบบที่ใช้ในการป้องกันข้อมูล
- ระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ระบบที่ช่วยให้โรงงานสามารถเข้าถึงทรัพยากรและบริการต่างๆ จากอินเทอร์เน็ต
- ระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ระบบที่ช่วยให้โรงงานสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
- ระบบอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (IoT) ระบบที่ช่วยให้โรงงานสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน
- ระบบเซ็นเซอร์ (Sensor) อุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดค่าต่างๆ
- อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (IoT Devices) อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
Software
- ระบบจัดการรายการผลิต (Production Inventory Management System) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการจัดการรายการผลิตและคงคลัง
- ระบบบริหารการบำรุงรักษา (Maintenance Management Software) ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการบำรุงรักษาเครื่องจักรและอุปกรณ์ในกระบวนการผลิต
- ระบบจัดการคุณภาพ (Quality Management System) ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการตรวจสอบคุณภาพและการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์
- ระบบการบริหารการจัดการข้อมูล (Data Management System) ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการจัดการข้อมูลและฐานข้อมูล
- ระบบการสื่อสารและการเชื่อมโยง (Communication and Connectivity Software) ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการสื่อสารและเชื่อมโยงระบบ IT
- ระบบควบคุมการเข้าถึงและความปลอดภัย (Access Control and Security Software) ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมการเข้าถึงและความปลอดภัยในระบบ IT
- ระบบจัดการข้อมูลลูกค้า (Customer Data Management System) ซอฟต์แวร์ที่จัดการข้อมูลลูกค้าและติดตามข้อมูลการซื้อขาย
- ระบบการตรวจสอบความปลอดภัยและการตรวจสอบ (Security and Audit System) ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการตรวจสอบความปลอดภัยและการตรวจสอบระบบ IT
- ระบบการจัดการข้อมูลการผลิตแบบอัจฉริยะ (Smart Manufacturing Data Management System) ซอฟต์แวร์ที่จัดการข้อมูลการผลิตแบบอัจฉริยะ
- ระบบการบริหารความรู้และการฝึกอบรม (Knowledge Management and Training System) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการบริหารความรู้และการฝึกอบรมพนักงานในระบบ IT
- ระบบปฏิบัติการ (Operating System) ระบบที่ใช้ในการควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์
- ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการทำงานต่างๆ เช่น การผลิต การจัดการ การเงิน และการตลาด
- ซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล (Database Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการจัดเก็บและจัดการข้อมูล
- ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
- ซอฟต์แวร์จำลองการผลิต (Production Simulation Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการจำลองการผลิต
- ซอฟต์แวร์ออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Design Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์
- ซอฟต์แวร์ออกแบบเครื่องจักร (Machine Design Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการออกแบบเครื่องจักร
- ซอฟต์แวร์ออกแบบระบบอัตโนมัติ (Automation Design Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการออกแบบระบบอัตโนมัติ
- ซอฟต์แวร์ควบคุมระบบอัจฉริยะ (Smart System Control Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการควบคุมระบบอัจฉริยะต่างๆ
ระบบ IT และธุรกรรมข้อมูลในอุตสาหกรรมการผลิตช่วยในการเพิ่มความประสิทธิภายของกระบวนการผลิต, ลดค่าใช้จ่าย, และเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์. ระบบนี้ทำให้สามารถควบคุมและจัดการข้อมูลในกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพและมีการสร้างข้อมูลสำหรับการบริหารและการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างการใช้งานระบบไอทีและธุรกรรมข้อมูล ในงานอุตสาหกรรมการผลิต เช่น
- การใช้เซิร์ฟเวอร์ (Server) เพื่อเก็บข้อมูลการผลิต
- การใช้ระบบเครือข่าย (Network) เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ในโรงงาน
- การใช้ระบบเก็บข้อมูล (Data Storage) เพื่อเก็บข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ข้อมูลเครื่องจักร และข้อมูลคุณภาพ
- การใช้ระบบความปลอดภัย (Security) เพื่อป้องกันข้อมูล
- การใช้ระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) เพื่อเข้าถึงทรัพยากรและบริการต่างๆ จากอินเทอร์เน็ต
- การใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจ
- การใช้ระบบอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (IoT) เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ในโรงงาน
- การใช้ระบบเซ็นเซอร์ (Sensor) เพื่อวัดค่าต่างๆ เช่น อุณหภูมิ ความชื้น และตำแหน่ง
- การใช้อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (IoT Devices) เพื่อติดตามสถานะของเครื่องจักร
ระบบไอทีและธุรกรรมข้อมูลสามารถช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และต้นทุนในการดำเนินงานได้ ตัวอย่างประโยชน์ของการใช้ระบบไอทีและธุรกรรมข้อมูลในงานอุตสาหกรรมการผลิต ได้แก่
- ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ระบบไอทีสามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตได้โดยอัตโนมัติ เช่น การใช้ซอฟต์แวร์วางแผนการผลิตสามารถช่วยวางแผนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เพิ่มความปลอดภัย ระบบไอทีสามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยโดยตรวจจับและป้องกันอันตรายต่างๆ เช่น การใช้ระบบรักษาความปลอดภัยสามารถช่วยป้องกันเหตุร้าย
- ลดต้นทุน ระบบไอทีสามารถช่วยลดต้นทุนโดยลดการสูญเสียและปรับปรุงการใช้ทรัพยากร เช่น การใช้ระบบการจัดการคลังสินค้าสามารถช่วยควบคุมสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเลือกระบบไอทีและธุรกรรมข้อมูลที่เหมาะสมกับโรงงานนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดของโรงงาน ประเภทของการผลิต งบประมาณ และเป้าหมายที่ต้องการบรรลุ
นอกจากตัวอย่างข้างต้นแล้ว ยังมีเทคโนโลยีระบบไอทีและธุรกรรมข้อมูลอีกมากมายที่สามารถใช้กับอุตสาหกรรมการผลิตได้ เช่น
- การประมวลผลบนระบบคลาวด์ (Cloud Computing) เทคโนโลยีที่ช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถเข้าถึงทรัพยากรและบริการต่างๆ จากอินเทอร์เน็ต
- ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence, AI) เทคโนโลยีที่ช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
- อินเทอร์เน็ตของทุกสรรพสิ่ง (Internet Of Things: IoT) เทคโนโลยีที่ช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกันได้
การนำเทคโนโลยีระบบไอทีและธุรกรรมข้อมูลมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตสามารถช่วยโรงงานอุตสาหกรรมสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการดำเนินงานได้
รายละเอียดในการประเมินเพื่อจัดระดับความพร้อม ดังนี้
Band |
นิยาม |
คำอธิบายเพิ่มเติม |
1 Individual- oriented |
ยังไม่มีการกำหนดกระบวนการ/วิธีการเพื่อบูรณาการภายในองค์กรอย่างชัดเจน ไม่มีคู่มือปฏิบัติงาน เป็นการทำงานที่อาศัยทักษะความเชี่ยวชาญเฉพาะบุคคล |
กระบวนการด้านบริหารและธุรการ และกระบวนการผลิต ดำเนินการแยกกันเป็นอิสระต่อกัน (in silos) การทำงานส่วนใหญ่ดำเนินการโดยพนักงานที่อาศัยทักษะความเชี่ยวชาญเฉพาะบุคคล |
2 Formal procedure |
มีการกำหนดกระบวนการ/วิธีการเพื่อบูรณาการภายในองค์กรที่ชัดเจน และกระบวนการ/วิธีการดังกล่าวดำเนินการโดยพนักงาน โดยที่มีการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์แบบอนาล็อค เช่น fax, email, files (.doc, .pdf, .jpeg, .tiff เป็นต้น) มาช่วยในการทำงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างฝ่าย/แผนก และระหว่างลำดับชั้นในองค์กร |
กระบวนการด้านบริหารและธุรการ และกระบวนการผลิต ดำเนินการแยกกันเป็นอิสระต่อกัน (in silos) โดยที่การทำงานส่วนใหญ่ดำเนินการโดยพนักงานและดำเนินการตามขั้นตอนการทำงาน (Instructions) และคู่มือปฏิบัติงานที่กำหนดไว้ |
3 Separate OT-IT software |
มีการกำหนดกระบวนการ/วิธีการเพื่อบูรณาการภายในองค์กรที่ชัดเจน และกระบวนการ/วิธีการดังกล่าวดำเนินการโดยพนักงาน โดยที่มีการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์แบบดิจิทัล เช่น CAD,CAM, SCADA, MRP/ERP มาช่วยในการทำงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างฝ่าย/แผนก และระหว่างลำดับชั้นในองค์กร |
กระบวนการด้านบริหารและธุรการ และกระบวนการผลิต ดำเนินการแยกกันเป็นอิสระต่อกัน (in silos) โดยมีการใช้ระบบ IT ในการจัดการด้านการบริหารและธุรการ และมีการใช้ระบบ OT ในการจัดการด้านกระบวนการผลิต |
4 OT-IT sharing |
กระบวนการและระบบภายในองค์กร ดำเนินการในรูปแบบดิจิทัล และเริ่มถูกบูรณาการระหว่างลำดับชั้นภายในองค์กร |
ระบบ IT ที่ใช้ในการจัดการด้านบริหารและธุรการ และระบบ OT ที่ใช้ในการจัดการด้านกระบวนการ ผลิต มีการเชื่อมต่อกัน เพื่อเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูล สถานะต่างๆ ของกระบวนการ โดยใช้ตัวอุปกรณ์เครื่องจักรและระบบคอมพิวเตอร์ (ตามโปรแกรมที่ตั้ง/ออกแบบไว้) เชื่อมโยงข้อมูลมากกว่า 20% |
5 OT-IT integrated |
กระบวนการและระบบภายในองค์กร ถูกบูรณาการให้ทำงานร่วมกันได้แบบอัตโนมัติ แต่การกำกับดูแลบางส่วนยังคงต้องอาศัยพนักงานอยู่ |
ระบบ IT ที่ใช้ในการจัดการด้านบริหารและธุรการ และระบบ OT ที่ใช้ในการจัดการด้านกระบวนการผลิต มีการเชื่อมต่อกัน เพื่อเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูล สถานะต่างๆ ของกระบวนการ โดยใช้ตัวอุปกรณ์เครื่องจักรและระบบคอมพิวเตอร์ (ตามโปรแกรมที่ตั้ง/ออกแบบไว้) โดยใช้หลักการ 80:20 ในการประเมิน คือ ใช้ตัวอุปกรณ์เครื่องจักรและระบบคอมพิวเตอร์เชื่อมโยงข้อมูล ได้มากกว่า 80% |
6 Optimisation |
กระบวนการและระบบภายในองค์กร ถูกบูรณาการให้ทำงานร่วมกันได้แบบระบบอัจฉริยะ ในลักษณะที่มีการวิเคราะห์ข้อมูลในระบบอย่างต่อเนื่อง (actively) และ |
ระบบ IT และ OT สามารถทำงานร่วมกันได้ตั้งแต่ต้นจนจบ (end-to-end) โดยระบบมีความสามารถในการปรับแต่งกระบวนการให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม (optimized) โดยการใช้ข้อมูลเชิงลึก (insights) ที่ |
-
---------------------------------------------
สนใจข้อมูลเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่นี่
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมอุตสาหกรรมไทย 4.0 (Thailand I 4.0 Index)
-------------------------------------------------
ที่มาข้อมูล
-------------------------------------------------
ข้อมูลที่น่าสนใจประวัติศาสตร์อุตสาหกรรม 4.0 ที่นี่ที่นี่
อุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) รวมข้อมูล-------------------------------------------------
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมของอุตสาหกรรมไทย 4.0 มิติ 3 ระบบไอทีและธุรกรรมข้อมูล (IT System & Data Transaction)
มิติย่อยที่ 11 การบูรณาการภายนอกองค์กร (External Integration)
มิติ 3 ระบบไอทีและธุรกรรมข้อมูล (IT System & Data Transaction) คือ การบูรณาการระบบและการจัดการภายในองค์กรและระหว่างองค์กร ที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน (ประกอบด้วย 2 มิติย่อย)
มิติย่อยที่ 11 การบูรณาการภายนอกองค์กร (External Integration) คือ พิจารณาการบูรณาการใช้และแลกเปลี่ยนข้อมูลในระดับขององค์กรกับองค์กรอื่นๆ ในห่วงโซ่อุปทาน (IT = IT = IT) กระบวนการระดับองค์กร หมายรวมถึง การรับคำสั่งซื้อ การวางแผนการผลิต การจัดซื้อ การจัดหา การจัดการโลจิสติกส์ และบริการหลังการขาย ในขณะที่องค์กรในห่วงโซ่อุปทานนั้นจะรวมตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ คือ ตั้งแต่ซัพพลายเออร์ หน่วยงานในองค์กร และไปจนถึงลูกค้า
ระบบไอทีการบูรณาการภายนอกองค์กร (External Integration) เป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อเชื่อมโยงกับคู่ค้า, ลูกค้า, และระบบอื่น ๆ ที่อยู่นอกองค์กรเพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตและการสื่อสาร. ตัวอย่างต่อไปนี้เป็น hardware และ software ที่สามารถปรากฏในระบบการบูรณาการภายนอกองค์กรในอุตสาหกรรมการผลิต
Hardware
- อุปกรณ์ VPN (VPN Appliances) ใช้ในการสร้างเครือข่ายเสมือนส่วนตัว (VPN) สำหรับการเชื่อมโยงแบบปลอดภัยกับคู่ค้าและสถานที่ที่อยู่นอกองค์กร
- เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้เก็บข้อมูลแบบคลาวด์ (Cloud Storage Servers) เพื่อแบ่งปันข้อมูลกับคู่ค้าและลูกค้าผ่านระบบคลาวด์
- ระบบอุปกรณ์เครือข่ายอุตสาหกรรม (Industrial Networking Equipment) ใช้ในการเชื่อมโยงกับระบบควบคุมและเครื่องจักรในสถานที่ผลิตของคู่ค้า
- อุปกรณ์เชื่อมต่อและเน็ตเวิร์ก (Connectivity and Network Devices) ใช้ในการเชื่อมโยงระบบอุปกรณ์ต่าง ๆ ระหว่างองค์กรและคู่ค้า
- เครื่องพิมพ์และสแกนเนอร์ (Printers and Scanners) - เพื่อการสื่อสารและแลกเปลี่ยนเอกสารกับคู่ค้าและลูกค้า
- อุปกรณ์เก็บข้อมูลเครือข่าย (Network Attached Storage - NAS) เพื่อสำรองข้อมูลและแบ่งปันข้อมูลกับคู่ค้าและลูกค้า
- เซนเซอร์และอุปกรณ์ IoT (Sensors and IoT Devices) เพื่อควบคุมและระบุข้อมูลจากระบบอุปกรณ์ของคู่ค้า
- ระบบควบคุมการเข้าถึงและความปลอดภัย (Access Control and Security Systems) เพื่อปกป้องข้อมูลที่ถูกแลกเปลี่ยนกับคู่ค้าและลูกค้า
- อุปกรณ์เราเตอร์และสวิตช์ (Routers and Switches) เพื่อสร้างเครือข่ายในการเชื่อมโยงกับคู่ค้าและลูกค้า
- ระบบจัดการการสื่อสาร (Communication Management Systems) เพื่อการสื่อสารกับคู่ค้าและลูกค้าผ่านหลายช่องทางเช่นอีเมลและการประชุมออนไลน์
- ระบบเครือข่าย (Network) ระบบที่ใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน
- ระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ระบบที่ช่วยให้โรงงานสามารถเข้าถึงทรัพยากรและบริการต่างๆ จากอินเทอร์เน็ต
- ระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ระบบที่ช่วยให้โรงงานสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
- ระบบอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (IoT) ระบบที่ช่วยให้โรงงานสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน
- ระบบเซ็นเซอร์ (Sensor) อุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดค่าต่างๆ
- อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (IoT Devices) อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
- ระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) ระบบที่ใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรขององค์กร
- ระบบ CRM (Customer Relationship Management) ระบบที่ใช้ในการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า
- ระบบ SCM (Supply Chain Management) ระบบที่ใช้ในการบริหารห่วงโซ่อุปทาน
Software
- ระบบการบริหารความรู้และการฝึกอบรม (Knowledge Management and Training Systems) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการจัดการความรู้และการฝึกอบรมกับคู่ค้าและลูกค้า
- ระบบการสื่อสารและการเชื่อมโยง (Communication and Connectivity Software) ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการสื่อสารและเชื่อมโยงกับคู่ค้าและลูกค้า
- ระบบจัดการข้อมูลลูกค้า (Customer Data Management System) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการจัดการข้อมูลลูกค้าและความสัมพันธ์กับคู่ค้าและลูกค้า
- ระบบการบริหารสัญญา (Contract Management Systems) ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการจัดการสัญญากับคู่ค้าและลูกค้า
- ระบบการจัดการการบริหารการบำรุงรักษา (Maintenance Management Software) ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการจัดการการบำรุงรักษาร่วมกับคู่ค้าและลูกค้า
- ระบบการตรวจสอบความปลอดภัยและการตรวจสอบ (Security and Audit System) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการตรวจสอบความปลอดภัยและการตรวจสอบการบริหารกับคู่ค้าและลูกค้า
- ระบบจัดการข้อมูลการผลิตแบบอัจฉริยะ (Smart Manufacturing Data Management System) ซอฟต์แวร์ที่จัดการข้อมูลการผลิตแบบอัจฉริยะที่เกี่ยวกับคู่ค้าและลูกค้า
- ระบบการบริหารการเรียกร้อง (Demand Management Systems) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการจัดการการเรียกร้องจากคู่ค้าและลูกค้า
- ระบบบริหารการจัดจำหน่าย (Distribution Management Systems) ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการจัดจำหน่ายสินค้าหรือบริการให้คู่ค้าและลูกค้า
- ระบบการบริหารการสั่งซื้อ (Order Management Systems) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการจัดการการสั่งซื้อจากคู่ค้าและลูกค้า
- ซอฟต์แวร์เชื่อมต่อระบบ ERP (ERP Integration Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อระบบ ERP กับระบบอื่นๆ
- ซอฟต์แวร์เชื่อมต่อระบบ CRM (CRM Integration Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อระบบ CRM กับระบบอื่นๆ
- ซอฟต์แวร์เชื่อมต่อระบบ SCM (SCM Integration Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อระบบ SCM กับระบบอื่นๆ
- ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
- ซอฟต์แวร์จำลองการผลิต (Production Simulation Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการจำลองการผลิต
- ซอฟต์แวร์ออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Design Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์
- ซอฟต์แวร์ออกแบบเครื่องจักร (Machine Design Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการออกแบบเครื่องจักร
- ซอฟต์แวร์ออกแบบระบบอัตโนมัติ (Automation Design Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการออกแบบระบบอัตโนมัติ
- ซอฟต์แวร์ควบคุมระบบอัจฉริยะ (Smart System Control Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการควบคุมระบบอัจฉริยะต่างๆ
ระบบการบูรณาการภายนอกองค์กรในอุตสาหกรรมการผลิต ช่วยในการเครือข่ายและสื่อสารกับคู่ค้าและลูกค้า, ทำให้กระบวนการผลิตและการจัดการเชื่อมโยงอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยในการบริหารความรู้, การบริหารสัญญา, และการบริหารการสั่งซื้ออย่างมีประสิทธิภาพ. การบูรณาการภายนอกองค์กรเชื่อมโยงกับคู่ค้าและลูกค้าทำให้องค์กรสามารถเพิ่มความคุ้มค่าในการสื่อสารและการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจของตน
ตัวอย่างการใช้งานระบบไอทีการบูรณาการภายนอกองค์กรในงานอุตสาหกรรมการผลิต เช่น
- การใช้ระบบเครือข่าย (Network) เพื่อเชื่อมต่อระบบ ERP กับระบบ CRM
- การใช้ระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) เพื่อเข้าถึงข้อมูลและบริการจากซัพพลายเออร์
- การใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจร่วมกันกับซัพพลายเออร์
- การใช้ระบบอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (IoT) เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ในโรงงานกับระบบ ERP
- การใช้ระบบเซ็นเซอร์ (Sensor) เพื่อวัดค่าต่างๆ และส่งข้อมูลไปยังระบบ CRM
- การใช้อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (IoT Devices) เพื่อติดตามสถานะของเครื่องจักรและส่งข้อมูลไปยังระบบ SCM
- การใช้ระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรขององค์กร
- การใช้ระบบ CRM (Customer Relationship Management) เพื่อบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า
- การใช้ระบบ SCM (Supply Chain Management) เพื่อบริหารห่วงโซ่อุปทาน
ระบบไอทีการบูรณาการภายนอกองค์กรสามารถช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และต้นทุนในการดำเนินงานได้ ตัวอย่างประโยชน์ของการใช้ระบบไอทีการบูรณาการภายนอกองค์กรในงานอุตสาหกรรมการผลิต ได้แก่
- ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ระบบไอทีสามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตได้โดยอัตโนมัติ เช่น การใช้ระบบ ERP สามารถช่วยวางแผนการผลิตและควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เพิ่มความปลอดภัย ระบบไอทีสามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยโดยตรวจจับและป้องกันอันตรายต่างๆ เช่น การใช้ระบบ CRM สามารถช่วยระบุความเสี่ยงและป้องกันปัญหา
- ลดต้นทุน ระบบไอทีสามารถช่วยลดต้นทุนโดยลดการสูญเสียและปรับปรุงการใช้ทรัพยากร เช่น การใช้ระบบ SCM สามารถช่วยควบคุมสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเลือกระบบไอทีการบูรณาการภายนอกองค์กรที่เหมาะสมกับโรงงานนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดของโรงงาน ประเภทของการผลิต งบประมาณ และเป้าหมายที่ต้องการบรรลุ
นอกจากตัวอย่างข้างต้นแล้ว ยังมีเทคโนโลยีระบบไอทีการบูรณาการภายนอกองค์กรอีกมากมายที่สามารถใช้กับอุตสาหกรรมการผลิตได้ เช่น
- การประมวลผลบนระบบคลาวด์ (Cloud Computing) เทคโนโลยีที่ช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถเข้าถึงทรัพยากรและบริการต่างๆ จากอินเทอร์เน็ต
- ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence, AI) เทคโนโลยีที่ช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
- อินเทอร์เน็ตของทุกสรรพสิ่ง (Internet Of Things: IoT) เทคโนโลยีที่ช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกันได้
การนำเทคโนโลยีระบบไอทีการบูรณาการภายนอกองค์กรมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตสามารถช่วยโรงงานอุตสาหกรรมสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการดำเนินงานได้
รายละเอียดในการประเมินเพื่อจัดระดับความพร้อม ดังนี้
Band |
นิยาม |
คำอธิบายเพิ่มเติม |
1 Individual-oriented |
ยังไม่ได้กำหนดกระบวนการ/วิธีการในการบูรณาการกับองค์กรในห่วงโซ่ อุปทานไว้อย่างชัดเจน |
กระบวนการไม่มีระบบหรือวิธีการทำงานที่กำหนดไว้ เป็นลักษณะทำงานโดยอาศัยทักษะ ความจำ ความชำนาญ ส่วนบุคคล |
2 Formal procedure |
มีการกำหนดกระบวนการ/วิธีการเพื่อบูรณาการกับองค์กรในห่วงโซ่ อุปทาน และกระบวน/วิธีการดังกล่าวดำเนินการโดยบุคคล โดยที่มีการใช้ เครื่องมือหรืออุปกรณ์แบบอนาล็อคมาช่วยในการทำงาน |
กระบวนการด้านบริหารและธุรการระหว่างองค์กร ดำเนินการตามวิธีการทำงาน (Instructions) ที่กำหนดไว้ และดำเนินการแยกกัน เป็นอิสระต่อกัน (การทำงานส่วนใหญ่ยังดำเนินเป็น by human) |
3 Separate IT software |
มีการกำหนดกระบวนการ/วิธีการเพื่อบูรณาการกับองค์กรในห่วงโซ่ อุปทาน และกระบวน/วิธีการดังกล่าวดำเนินการโดยบุคคล โดยที่มีการใช้ เครื่องมือหรืออุปกรณ์แบบดิจิทัลมาช่วยในการทำงาน |
มีการใช้ระบบ IT เพื่อจัดการกระบวนการด้านบริหารและธุรการ แต่เป็นระบบ IT ที่ดำเนินการแยกกันเป็นอิสระ ต่อกัน (in silos) กับระบบ IT ขององค์กรในห่วงโซ่อุปทาน |
4 Sharing |
กระบวนการ/วิธีการเพื่อบูรณาการกับองค์กรในห่วงโซ่อุปทานดำเนนการ ในแบบดิจิทัลที่เชื่อมต่อกันได้อย่างดีในห่วงโซ่อุปทาน |
ระบบ IT ที่จัดการกระบวนการด้านบริหารและธุรการ เชื่อมต่อกับระบบ IT ขององค์กรในห่วงโซ่อุปทาน อย่างไรก็ตามการแลกเปลี่ยนข้อมูลและสถานะต่างๆ ของกระบวนการระหว่าง IT และ IT นั้นยังต้องดำเนินการ หรือจัดการโดยพนักงานเป็นส่วนใหญ่ |
5 Automated |
กระบวนการและระบบในห่วงโซ่อุปทานถูกบูรณาการให้ทำงานร่วมกนได้ แบบอัตโนมัติโดยมีการแทรกแซงของพนักงานอย่างจำกัด |
ระบบ IT ที่จัดการกระบวนการด้านบริหารและธุรการ เชื่อมต่อกันเป็นอย่างดีกับระบบ IT ขององค์กรในห่วงโซ่ อุปทาน การเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลและสถานะต่างๆ ของกระบวนการระหว่างระบบ โดยการแลกเปลี่ยน ข้อมูลเหล่านั้นส่วนใหญ่ (80:20) ดำเนินการเองโดยตัวอุปกรณ์เครื่องจักรและระบบคอมพิวเตอร์ |
6 Optimisation |
กระบวนการและระบบในห่วงโซ่อุปทานถูกบูรณาการให้ทำงานร่วมกนได้ ในลักษณะที่มีการวิเคราะห์ข้อมูลในระบบอย่างต่อเนื่อง (actively) และมี การดำเนินการ/ตัดสินใจบางอย่างโดยระบบซึ่งเป็นผลจากการวิเคราะห์ ข้อมูลเหล่านั้น |
ระบบ IT ขององค์กรและ Stakeholders สามารถทำงานร่วมกันได้ตั้งแต่ต้นจนจบ (end-to-end) โดยระบบ IT ขององค์กรมีความสามารถในการปรับแต่งกระบวนการให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม (optimized) โดยการใช้ข้อมูล เชิงลึก (insights) ที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลในระบบ |
-
---------------------------------------------
สนใจข้อมูลเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่นี่
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมอุตสาหกรรมไทย 4.0 (Thailand I 4.0 Index)
-------------------------------------------------
ที่มาข้อมูล
-------------------------------------------------
ข้อมูลที่น่าสนใจประวัติศาสตร์อุตสาหกรรม 4.0 ที่นี่ที่นี่
อุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) รวมข้อมูล-------------------------------------------------
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมของอุตสาหกรรมไทย 4.0 มิติ 4 ตลาดและลูกค้า (Market & Customers)
มิติย่อยที่ 12 การวิเคราะห์การตลาด (Market Analysis)
มิติ 4 ตลาดและลูกค้า (Market & Customers) คือ การบริหารและจัดการที่เกี่ยวข้องความต้องการของตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการจัดการตลอดช่วงอายุของผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบและการจัดการข้อมูลเชิงกลยุทธ์ของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายและสภาพตลาดเพื่อการตัดสินใจ กลยุทธ์เชิงกลยุทธ์ และวางแผนวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (ประกอบด้วย 2 มิติย่อย)
มิติย่อยที่ 12 การวิเคราะห์การตลาด (Market Analysis) คือ พิจารณากระบวนการในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตลาดและกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เซ่น เป็นใคร (อายุ เพศ อาชีพ ความชอบ ฯลฯ) ขนาดตลาด ความสามารถในการซื้อ ลักษณะการใช้จ่าย เป็นต้น เพื่อนำมาใช้ในการกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจ และเป็นปัจจัยหลักในการรักษาความสามารถในการแข่งขันขององค์กร เทคโนโลยีในยุค Industry 4.0 ก่อให้เกิดการยกระดับกระบวนการให้ได้มาซี่งข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค การใช้เทคโนโลยี Data / Big Data Analytics ส่งผลต่อความเร็ว (speed) และความแม่นยำ (precision) ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Insight) ที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบไอทีในการวิเคราะห์การตลาด (Market Analysis) ในอุตสาหกรรมการผลิตเป็นสิ่งสำคัญในการเข้าใจความต้องการของตลาด, การกำหนดกลยุทธ์การตลาด, และการตัดสินใจทางธุรกิจ. ตัวอย่างต่อไปนี้เป็น hardware และ software ที่สามารถใช้ในระบบไอทีในการวิเคราะห์การตลาดในอุตสาหกรรมการผลิต
Hardware
- เซิร์ฟเวอร์ (Server) เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูลและให้บริการต่างๆ
- ระบบเครือข่าย (Network) ระบบที่ใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน
- ระบบเก็บข้อมูล (Data Storage) ระบบที่ใช้ในการเก็บข้อมูลต่างๆ
- ระบบความปลอดภัย (Security) ระบบที่ใช้ในการป้องกันข้อมูล
- ระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ระบบที่ช่วยให้โรงงานสามารถเข้าถึงทรัพยากรและบริการต่างๆ จากอินเทอร์เน็ต
- ระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ระบบที่ช่วยให้โรงงานสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
- ระบบอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (IoT) ระบบที่ช่วยให้โรงงานสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน
- ระบบเซ็นเซอร์ (Sensor) อุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดค่าต่างๆ
- อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (IoT Devices) อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
- คอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ (Computers and Servers) ใช้ในการดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลตลาดและสร้างรายงาน
- เครื่องพิมพ์และสแกนเนอร์ (Printers and Scanners) ใช้ในการพิมพ์รายงานการตลาดและสแกนข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
- อุปกรณ์เน็ตเวิร์ก (Network Equipment) เพื่อเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตลาด
- อุปกรณ์เก็บข้อมูล (Storage Devices) ใช้ในการเก็บข้อมูลตลาดและข้อมูลประวัติ
- เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis Tools) อุปกรณ์เชิงซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลตลาด
- จอแสดงผลแบบใหญ่ (Large Displays) - ใช้ในการแสดงผลข้อมูลตลาดและกราฟิกส์
- อุปกรณ์สื่อสาร (Communication Devices) เพื่อการสื่อสารกับทีมการตลาดและคู่ค้า
- โทรศัพท์เพื่อการประสานงาน (Conference Phones) เพื่อการสื่อสารและประชุมกับทีมที่อาจอยู่ห่างไกล
- อุปกรณ์ GPS (GPS Devices) ใช้ในการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งตลาด
ระบบเฝ้าระวังและความปลอดภัย (Monitoring and Security Systems) เพื่อป้องกันการสูญหายข้อมูลการตลาดและความปลอดภัยข้อมูล
Software
- ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลตลาดและสร้างรายงาน
- ระบบฐานข้อมูล (Database Systems) เพื่อเก็บข้อมูลตลาดและประวัติลูกค้า
- ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ (Statistical Analysis Software) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติเพื่อทำนายแนวโน้มตลาด
- ซอฟต์แวร์ระบบสำรองข้อมูล (Backup Software) เพื่อสำรองข้อมูลตลาดและความปลอดภัยข้อมูล
- ซอฟต์แวร์สร้างรายงาน (Report Generation Software) เพื่อสร้างรายงานการตลาด
- ซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลคลาวด์ (Cloud Backup Software) เพื่อสำรองข้อมูลในคลาวด์
- ซอฟต์แวร์การติดตามความสำเร็จ (Success Tracking Software) เพื่อติดตามประสิทธิภาพและความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาด
- ซอฟต์แวร์การวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ (Real-Time Analysis Software) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์
- ซอฟต์แวร์การตรวจสอบความปลอดภัย (Security Auditing Software) เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยข้อมูลการตลาด
- ซอฟต์แวร์การจัดการโครงการ (Project Management Software) เพื่อจัดการโครงการการตลาดและติดตามความคืบหน้า
- ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
- ซอฟต์แวร์จำลองการตลาด (Marketing Simulation Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการจำลองการตลาด
- ซอฟต์แวร์วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค (Consumer Behavior Analytics Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค
- ซอฟต์แวร์วิเคราะห์การแข่งขัน (Competitive Analysis Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์การแข่งขัน
- ซอฟต์แวร์วิเคราะห์แนวโน้มการตลาด (Market Trend Analysis Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มการตลาด
- ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลมีเดีย (Social Media Analytics Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลมีเดีย
- ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลเว็บไซต์ (Website Analytics Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเว็บไซต์
- ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลการขาย (Sales Analytics Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลการขาย
- ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า (Customer Analytics Software) ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า
ระบบไอทีในการวิเคราะห์การตลาดในอุตสาหกรรมการผลิต ช่วยในการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ, ช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับกลยุทธ์การตลาดและช่วยในการบริหารข้อมูลลูกค้าและความสัมพันธ์กับตลาดให้ดียิ่งขึ้น
ตัวอย่างการใช้งานระบบไอทีในการวิเคราะห์การตลาด ในงานอุตสาหกรรมการผลิต เช่น
- การใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics Software) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการขายและพฤติกรรมผู้บริโภค
- การใช้ซอฟต์แวร์จำลองการตลาด (Marketing Simulation Software) เพื่อจำลองสถานการณ์ทางการตลาด
- การใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค (Consumer Behavior Analytics Software) เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค
- การใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์การแข่งขัน (Competitive Analysis Software) เพื่อวิเคราะห์คู่แข่ง
- การใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์แนวโน้มการตลาด (Market Trend Analysis Software) เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มตลาด
- การใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลมีเดีย (Social Media Analytics Software) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย
- การใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลเว็บไซต์ (Website Analytics Software) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์
- การใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลการขาย (Sales Analytics Software) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการขาย
- การใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า (Customer Analytics Software) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า
ระบบไอทีในการวิเคราะห์การตลาดสามารถช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพและการตัดสินใจทางการตลาดได้ ตัวอย่างประโยชน์ของการใช้ระบบไอทีในการวิเคราะห์การตลาดในงานอุตสาหกรรมการผลิต ได้แก่
- ปรับปรุงความเข้าใจตลาด ระบบไอทีสามารถช่วยให้โรงงานสามารถเข้าใจตลาดได้ดีขึ้น เช่น ความต้องการ แนวโน้ม และพฤติกรรมผู้บริโภค
- ปรับปรุงประสิทธิภาพการตลาด ระบบไอทีสามารถช่วยให้โรงงานสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการตลาดได้ เช่น การกำหนดเป้าหมาย การสร้างสรรค์แคมเปญ และการวัดผล
- ปรับปรุงการตัดสินใจทางการตลาด ระบบไอทีสามารถช่วยให้โรงงานสามารถตัดสินใจทางการตลาดได้อย่างชาญฉลาด เช่น การกำหนดกลยุทธ์และงบประมาณ
การเลือกระบบไอทีในการวิเคราะห์การตลาดที่เหมาะสมกับโรงงานนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดของโรงงาน ประเภทของผลิตภัณฑ์ งบประมาณ และเป้าหมายที่ต้องการบรรลุ
นอกจากตัวอย่างข้างต้นแล้ว ยังมีเทคโนโลยีระบบไอทีในการวิเคราะห์การตลาดอีกมากมายที่สามารถใช้กับอุตสาหกรรมการผลิตได้ เช่น
- การประมวลผลบนระบบคลาวด์ (Cloud Computing) เทคโนโลยีที่ช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถเข้าถึงทรัพยากรและบริการต่างๆ จากอินเทอร์เน็ต
- ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence, AI) เทคโนโลยีที่ช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
- อินเทอร์เน็ตของทุกสรรพสิ่ง (Internet Of Things: IoT) เทคโนโลยีที่ช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกันได้
การนำเทคโนโลยีระบบไอทีในการวิเคราะห์การตลาดมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตสามารถช่วยโรงงานอุตสาหกรรมสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพและการตัดสินใจทางการตลาดได้
รายละเอียดในการประเมินเพื่อจัดระดับความพร้อม ดังนี้
Band |
นิยาม |
คำอธิบายเพิ่มเติม |
1 Individual-oriented |
ใช้ประสบการณ์ของพนักงานในการคาดการณ์ลักษณะความต้องการของ กลุ่มเป้าหมาย |
ข้อมูลมาจากประสบการณ์ของพนักงานขาย ไม่สามารถทวนสอบความถูกต้องได้ ไม่ได้เก็บข้อมูลในรูปแบบ ดิจิทัลที่จะนำไปใช้วิเคราะห์ต่อได้ |
2 Formal procedure |
มีกระบวนการที่ชัดเจนในการให้ได้มาซึ่งความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย แต่ ยังเป็นเทคนิคที่ conventional และ ข้อมูลยังจัดเก็บในรูปแบบของกระดาษ หรือ non-digital format |
เช่น การจ้างหน่วยงานภายนอกทำวิจัยตลาด โดยยังใช้เทคนิคแบบ Conventional หรือการที่บริษัทให้ลูกค้า ตอบแบบสอบถามส่งมาทาง Fax หรือ email (Conventional technic เช่น การทำแบบสอบถาม (Face to Face Interview) การสัมภาษณ์แบบเชิงลึก การประชุม Focus Group การวิจัยแบบลงมือปฏิบัติ ( Action Research) การสังเกตพฤติกรรม (Observation) เป็นต้น) |
3 Digital record |
มีกระบวนการ/ช่องทาง ที่ชัดเจนในการให้ได้มาซึ่งความต้องการของ กลุ่มเป้าหมาย ข้อมูลถูกจัดเก็บในรูปแบบดิจิทัล |
ใช้เทคนิคแบบ Digital-based เช่น online survey หรือ web analytics tools ต่างๆ ได้แก่ Google Analytics, Adobe Analytics, Facebook เป็นต้น โดยที่ข้อมูลการวิจัยยังเป็นข้อมูลของกลุ่มลกค้าแบบ Mass การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกยังดำเนินการโดยคน |
4 Automated data collection |
มีวิธีการให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความต้องการ/พฤติกรรมของกลุ่ม ลูกค้าเป้าหมาย โดยข้อมูลสามารถ feed in มาแบบอัตโนมัติและต่อเนื่อง |
มีระบบที่สามารถ Search & Scan ข้อมูลใน Web เป้าหมายเป็นระยะๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่เชื่อมโยงกับ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ข้อมูลที่ได้อาจยังเป็น Unstructured Data และการวิเคราะห์เชิงลึกหรือการแปลผลยัง ต้องดำเนินการโดยคน |
5 Analytic |
มีระบบที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเป็น Insight ของกลุ่มลูกค้า เป้าหมาย โดยใช้เทคโนโลยีกลุ่ม AI, Data/Big Data Analytics เป็นต้น ในการวิเคราะห์ |
มีการใช้ระบบที่มีความสามรถในการวิเคราะห์ Data/Big data เพื่อให้ได้ Insight ของผู้บริโภคในช่วงปัจจุบัน หรือช่วงที่ผ่านมา โดยการวิเคราะห์นั้นดำเนินการโดยระบบแบบอัตโนมัติ มีการแทรกแซงของคนอย่างจำกัด |
6 Predictive |
มีระบบที่มีความสามารถในการนำข้อมูล Insight รวมถึงข้อมูลอื่นๆ มาสรุป เป็นแนวทางสำหรับการออกแบบและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ หรือกลยุทธ์การตลาดขององค์กร โดยใช้เทคโนโลยีกลุ่ม AI, Big Data Analytics เป็นต้น |
มีการใช้ระบบที่สามารถวิเคราะห์ Data/Big data เพื่อให้ได้ Insight ของผู้บริโภค รวมทั้งสามารถให้คำแนะนำ เบื้องต้นที่เป็นประโยชน์ต่อการวางกลยุทธ์ของ new product โดยการวิเคราะห์นั้นดำเนินการโดยระบบแบบอัตโนมัติ หรือมีการแทรกแซงของคนอย่างจำกัด |
---------------------------------------------
สนใจข้อมูลเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่นี่
ดัชนีชี้วัดระดับความพร้อมอุตสาหกรรมไทย 4.0 (Thailand I 4.0 Index)
-------------------------------------------------
ที่มาข้อมูล
-------------------------------------------------
ข้อมูลที่น่าสนใจประวัติศาสตร์อุตสาหกรรม 4.0 ที่นี่ที่นี่
อุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) รวมข้อมูล-------------------------------------------------
เว็บไซต์ www.iok2u.com นี้เกิดมาจาก แรงบันดาลใจในภาพยนต์เรื่อง Pay It Forward โดยมีเป้าหมายเล็ก ๆ ที่กำหนดไว้ว่า ทุกครั้งที่เข้าเรียนสัมมนาหรืออบรมในแต่ละครั้ง จะนำความรู้มาจัดทำเป็นบทความอย่างน้อย 3 เรื่อง เพื่อมาลงในเว็บนี้
ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับมาทำการถ่ายทอดต่อไป และหวังว่าจะมีคนมาอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์นำเอาไปใช้ได้ หากใครคิดว่ามันมีประโยชน์ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลย โดยอาจไม่ต้องอ้างอิงที่มาหรือมาตอบแทนผู้จัด แต่ขอให้ส่งต่อหากคิดว่ามันดีหรือมีประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสิ่งดี ๆ ต่อไปข้างหน้าต่อไป Pay It Forward